Saturday, March 20, 2010

ห่วงนร.นักเลงกลายเป็นอาชญากรในอนาคต

ห่วงนร.นักเลงกลายเป็นอาชญากรในอนาคต

นักจิตวิทยาชี้ปัญหาวัยรุ่นตีกัน เป็นเหตุพื้นฐานก้าวร้าวเสี่ยงก่ออาชญากรรมในอนาคต ควรเฝ้าระวังด้วยเช่นกัน เพราะมีโอกาสที่จะแสดงความก้าวร้าวรุนแรง เป็นอันตรายต่อตนเอง คนรอบข้างทุกเมื่อ...เมื่อวันที่ 20 ม.ค. พญ.วิมลรัตน์ วันเพ็ญ รอง ผอ.ฝ่ายการแพทย์ สถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์ เปิดเผยถึงสาเหตุหรือปัจจัยกระตุ้นที่ทำให้เกิดปรากฏการณ์การทะเลาะวิวาทยก พวกตีกันของวัยรุ่น ที่นับวันทวีความรุนแรงมากขึ้น ว่า เกิดจากหลากหลายปัจจัยประกอบกัน ปัจจัยภายใน ได้แก่ การเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย การเปลี่ยนแปลงด้านฮอร์โมน พื้นฐานอารมณ์ เช่น อารมณ์ร้อน อารมณ์เย็น หรือหวั่นไหววิตกง่าย ซึ่งติดตัวเด็กมาตั้งแต่เกิด ที่สำคัญวัยรุ่นขาดการเห็นคุณค่าในตัวเอง ซึ่งเมื่อใดที่เด็กหรือวัยรุ่นมองไม่เห็นคุณค่าของตัวเองและถูกดูแคลนว่า ด้อยความสามารถ ก็จะแสดงออกเพื่อเรียกร้องความสนใจทั้งจากสังคมทั่วไป และจากภายในกลุ่มเพื่อน ซึ่งการทะเลาะวิวาท ทำร้ายร่างกาย ยกพวกตีกัน เป็นวิธีการหนึ่งที่คิดและทำได้ง่าย ทำให้รู้สึกเด่นดัง เพื่อนเห็นความสามารถและได้รับการยอมรับ ส่วนปัจจัยแวดล้อมภายนอก ได้แก่ สภาพครอบครัว ระบบการศึกษา และสังคม ที่สร้างความกดดันให้กับเด็กหรือวัยรุ่น เช่น การบังคับหรือลงโทษ กวดขันอย่างเข้มงวด ปิดกั้นไม่ให้อิสระ การถูกตำหนิหรือต่อว่าจากสังคม การปล่อยปละละเลยทอดทิ้ง หรือในทางตรงข้ามการประคบประหงมจนเกินเหตุ รวมทั้งสภาพสังคมที่เต็มไปด้วยความรุนแรงรอบด้าน ที่เด็กเห็นจนชินชา ล้วนเป็นสาเหตุให้เด็กเกิดพฤติกรรมก้าวร้าวรุนแรงใช้กำลังในการแก้ปัญหาได้ทั้งสิ้น พญ.วิมลรัตน์ กล่าวต่อว่า เด็กและวัยรุ่นที่มีความก้าวร้าวรุนแรงมีโอกาสที่จะกลายอาชญากรในอนาคตได้ โดยมักมีพฤติกรรมที่สังเกตได้ง่าย เช่น ชอบก่อกวน โหดร้าย ทารุณสัตว์ ชกต่อย ทำร้ายร่างกายตนเองและผู้อื่น ทำลายข้าวของ ขู่คุกคาม ไม่เคารพกฎระเบียบต่างๆ เด็กและวัยรุ่นที่เก็บตัว เก็บกด ไม่เคยได้ระบายความรู้สึกออกมาอย่างเหมาะสม ก็เป็นกลุ่มเด็กที่น่าเป็นห่วงและควรเฝ้าระวังด้วยเช่นกัน เพราะมีโอกาสที่จะแสดงความก้าวร้าวรุนแรง เป็นอันตรายต่อตนเอง คนรอบข้าง และสังคม ได้ทุกเมื่ออย่างน่ากลัว.


NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

ชินวรณ์แถลงนโยบายสานต่องานจุรินทร์

ชินวรณ์แถลงนโยบายสานต่องานจุรินทร์



คมชัดลึก : ชินวรณ์ แถลงนโยบาย ปัดฝุ่นงานเก่าของอดีต รมว.ศธ.พรรคเดียวกันมาสานต่อ






 เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 20 ม.ค. ที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รมว.ศึกษาธิการ แถลงภายหลังประชุมผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) นานกว่า 4 ชั่วโมง ว่า ตนได้หารือกับผู้บริหาร ศธ. เพื่อกำหนดนโยบายและโครงการที่ศธ.จะดำเนินการต่อไป ซึ่งมีทั้งหมด 8 นโยบายหลัก โดยนโยบายแรก ศธ.จะเดินหน้าปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สอง และจะขอความร่วมมือจากทั้งหน่วยงานในกระทรวงและทุกภาคส่วนในวงการการศึกษาร่วมมือกันขับเคลื่อน ปฏิรูปการศึกษา โดยจะมีการจัดสมัชชาปฏิรูปการศึกษารอบสอง ประมาณเดือน ก.พ. หรือ มี.ค. นี้ เพื่อระดมสมองกำหนดทิศทางการปฏิรูป
 นโยบายที่ 2 จะสานต่อนโยบายเรียนฟรี 15 ปีอย่างมีคุณภาพ แต่จะปรับปรุงขั้นตอนการดำเนินการให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อให้ชุดนักเรียน หนังสือเรียนและอุปกรณ์การเรียน ถึงมือนักเรียนก่อนเปิดภาคเรียน รวมทั้งจะขอความร่วมมือจากสถานศึกษาสังกัดกระทรวงอื่นให้ดำเนินการตามนี้ด้วย 3. โครงการโรงเรียนดีประจำตำบล จัดเป็นโครงการดึงให้องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ประชมคมในพื้นที่เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาโรงเรียนขนาดเล็กให้ยกระดับเป็นโรงเรียนดีประจำตำบล โดยแบ่งหน้าที่ให้อบต. รับผิดชอบในสวัสดิการต่างๆ เช่น จัดรถบริการรับส่งนักเรียน จัดอาหารบริการนักเรียน เป็นต้น ส่วนเรื่องการจัดการศึกษา อาคารสถานที่ ปัจจัยพื้นฐานจะอยู่ในความดูแลของศธ.
 4. นโยบายพัฒนาการศึกษาใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยจะขอความร่วมมือจากรองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง พัฒนาการจัดการศึกษาในพื้นที่ดังกล่าว ทั้งการศึกษาสายสามัญในระบบโรงเรียนและการสอนศาสนา เพื่อให้การศึกษาช่วยสร้างสมานฉันท์ความเข้าใจและความสงบสุขในพื้นที่ 5. นโยบายสร้างแหล่งเรียนรู้ราคาถูกให้กับคนไทย นโยบายดังกล่าวจะเร่งให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) จัดตั้งศูนย์ กศน.ตำบลให้ครบทั้งหมดภายในปีนี้ตามแผนที่วางไว้ และจะขอความร่วมมือจากกระทรวงมหาดไทย (มท.) ช่วยพัฒนาศูนย์ กศน.ตำบลให้มีอุปกรณ์ไอซีที ที่สามารถใช้ค้นคว้าหาข้อมูลได้ เพื่อให้เป็นแหล่งเรียนรู้ราคาถูกสำหรับชาวบ้านและเป็นที่ฝึกอาชีพด้วย
 นโยบายที่ 6 โครงการ Teacher Channel ซึ่งจะมอบให้สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) รับผิดชอบโครงการนี้ นอกจากนั้นจะสานต่อโครงการติวเตอร์แชเนลต่อด้วย นโยบายที่ 7จะเร่งสร้างขวัญและกำลังใจให้ครู โดยเร่งผลักดันพ.ร.บ.เงินเดือนและเงินวิทยฐานะ ให้ผ่านการพิจารณาของรัฐสภาโดยเร็ว รวมทั้งจะดูแลสิทธิประโยชน์อื่นๆตามกฎหมายให้ครูด้วย นอกจากนี้ก็จะแก้ปัญหาหนี้สินให้ครู โดยตั้งองค์กรมหาชนขึ้นมาเพื่อทำหน้าที่พัฒนาคุณภาพชีวิตครูให้ความรู้หลักเศรษฐกิจพอเพียงให้ครูจัดตั้งเป็นเครือข่ายช่วยเหลือกัน ซึ่งจะทำให้สามารถแก้ไขปัญหาหนี้สินครูได้
 และนโยบายที่ 8 จะสนับสนุนให้มีการพัฒนาองค์ความรู้การเรียนการสอนด้านวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ โดยมอบหมายให้เป็นหน้าที่ของสถาบันส่งเสริมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ สถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการพัฒนา นอกจากนี้จะให้มีการร่วมมือกันกับมหาวิทยาลัยต่างๆ เพื่อผลิตและพัฒนาครูทั้ง 2 วิชาด้วย ซึ่งจะส่งผลให้ผลสัมฤทธิ์ทางเรียนทั้ง 2 วิชา ดีขึ้น








ข่าวที่เกี่ยวข้องชินวรณ์ชู1ตำบล1 ร.ร.ดีขนาดเล็กดึงท้องถิ่นร่วมพัฒนาชินวรณ์ลั่นจัดการคนเอี่ยวทุจริตตามกม. ครม.คึกคักรมต.ใหม่เข้าร่วมประชุมแต่เช้า ในหลวงรับสั่ง5รมต.ใหม่ให้ซื่อสัตย์"เร่งแตกหัก" เดือนแห่งความรัก!

NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

งานวิจัยมสธ. ชี้รัฐต้องหนุนสื่อคุณธรรม

งานวิจัยมสธ. ชี้รัฐต้องหนุนสื่อคุณธรรม



คมชัดลึก :นักวิจัยสาขาวิชานิเทศศาสตร์ มสธ. เผยสื่อเผยแพร่เรื่องความซื่อสัตย์มากที่สุด แนะสื่อคุณธรรมต้นแบบควรสอดแทรกแบบสั้น ง่าย กระชับ สนุกสนาน ขณะที่ฝากรัฐปรับนโยบายการสร้างเสริมคุณธรรมให้เหมาะกับสื่อท้องถิ่น ปรับนโยบาย หลักสูตรการศึกษาของชาติให้มีเรื่องคุณธรรม เพื่อให้มีทักษะในการรู้เท่าทันสื่อ สร้างภูมิคุ้มกัน






 ผศ.ดร.สันทัด  ทองรินทร์  อาจารย์ประจำสาขาวิชานิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช (มสธ.) เปิดเผยผลวิจัยเรื่อง “การสร้างเสริมและพัฒนาสื่อคุณธรรมในสังคมไทย” ว่า หลังจากที่ทีมนักวิจัยได้รับทุนสนับสนุนจาก ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาแผ่นดินเชิงคุณธรรม (ศูนย์คุณธรรม) ปี พ.ศ.2551 ในการศึกษาทบทวนสถานการณ์ด้านสื่อทุกประเภท ที่มีเนื้อหาส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรม
  ซึ่งมีการเผยแพร่ในประเทศไทยในช่วงระหว่าง ปี พ.ศ. 2540-2551  โดยการเก็บรวบรวมข้อมูล สำรวจแบบสอบถาม และวิเคราะห์เอกสาร สัมภาษณ์เชิงลึก จากสื่อมวลชน ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสื่อ ผู้ที่ทำหน้าที่เกี่ยวข้องกับงานด้านสื่อและประชาชนกลุ่มต่างๆ รวม 732 คน พบว่า สถานการณ์การสื่อสารสร้างเสริมคุณธรรมสื่อทุกประเภท ทั้งโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ และวิทยุมีการนำเสนอประเด็นคุณธรรมที่นำเสนอมากที่สุดตรงกันทุกสื่อ คือ การมีจิตสำนึกสาธารณะ โดยโทรทัศน์เน้นที่กลุ่มเด็กเยาวชน และกลุ่มประชาชนทั่วไปในปริมาณที่ใกล้เคียงกัน ขณะที่หนังสือพิมพ์ให้ความสำคัญกับกลุ่มผู้ใหญ่มากที่สุด วิทยุไม่ได้มุ่งกลุ่มเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจง
 ทั้งนี้ วิธีการนำเสนอ พบว่าโทรทัศน์ และวิทยุนำเสนอเนื้อหาด้านคุณธรรมลักษณะสอดแทรกในรายการต่างๆ ส่วนหนังสือพิมพ์นำเสนอแบบโดยตรง ขณะที่กลุ่มตัวอย่างทุกกลุ่มมีการเปิดรับสื่อโทรทัศน์มากที่สุด ส่วนสื่อบุคคลเปิดรับจากพ่อแม่ ญาติมากที่สุด และสื่อเฉพาะกิจ เปิดรับจากประเภทกิจกรรม ส่วนประเด็นคุณธรรมที่เคยได้รับจากสื่อมากที่สุด คือ ความซื่อสัตย์ และเห็นตรงกันว่าถ้าขาดการส่งเสริมคุณธรรมจะเกิดผลเสียต่อทั้งสังคมและต่อบุคคลหรือตนเอง
 ผศ.ดร.สันทัด กล่าวต่อว่า ส่วนสื่อคุณธรรมต้นแบบควรมีลักษณะ 2 ด้าน คือ วิธีการนำเสนอควรใช้วิธีการสอดแทรกในสื่อต่างๆ ง่าย สั้น กระชับ สนุกสนาน เป็นรูปธรรม ไม่เป็นวิชาการมากเกินไป ใช้ภาษาที่สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมาย ส่วนด้านเนื้อหาควรส่งเสริมยกย่องคนดี และการทำความดี สอดคล้องกับกระแส สถานการณ์ที่สำคัญ และวิถีชีวิต ซึ่งตัวอย่างสื่อคุณธรรมต้นแบบ ได้แก่ รายการโทรทัศน์ “ฅนค้นฅน” รายการวิทยุธรรมะวันอาทิตย์ “ปาฐกถาธรรม” หนังสือ “ธรรมะติดปีก” และสื่อบุคคล “พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี”
 อย่างไรก็ตาม การนำเสนอด้านคุณธรรมของสื่อต่างๆ ยังเป็นลักษณะที่ต่างคนต่างทำ ทำให้การส่งเสริมด้านคุณธรรมในสังคมไทยยังขาดพลัง รวมทั้งการที่ขาดหน่วยงานหลักในการทำหน้าที่รับผิดชอบด้านนี้โดยตรง ดังนั้นการส่งเสริมคุณธรรมที่ดีที่สุด ภาครัฐควรกำหนดนโยบายด้านการสร้างเสริมคุณธรรมให้เป็นวาระแห่งชาติอย่างเป็นรูปธรรมและต่อเนื่อง ควบคู่การศึกษาถึงสถานการณ์ของปัญหาคุณธรรมให้รอบด้าน มีการกำหนดองค์กรหรือหน่วยงานหลักในการสร้างเสริมและพัฒนาเรื่องคุณธรรมในระดับชาติ รัฐต้องเป็นผู้นำสนับสนุน ให้แนวทางแก่สื่อในการจัดทำโครงการนำร่องด้านคุณธรรม โดยสื่อภาครัฐควรเป็นต้นแบบในการสร้างเสริมคุณธรรม สนับสนุนงบประมาณให้กับสื่อและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในรูปของกองทุน ใช้มาตรการลดภาษีแก่ผู้ผลิตสื่อคุณธรรม
 ผศ.ดร.สันทัด กล่าวอีกว่า ควรปรับนโยบายการสร้างเสริมคุณธรรมให้เหมาะกับสื่อท้องถิ่น การปรับนโยบาย/หลักสูตรการศึกษาของชาติให้มีเรื่องคุณธรรม โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กและเยาวชน เพื่อให้มีทักษะในการรู้เท่าทันสื่อ สร้างภูมิคุ้มกัน และควรสร้างเครือข่ายกับองค์กรสื่อต่างๆ ในการกำหนดนโยบายด้านคุณธรรม ภายใต้การบูรณาการใช้ทุกสื่อร่วมกัน เพื่อให้ตรงกับความต้องการและเกิดประโยชน์มากที่สุด
 








ข่าวที่เกี่ยวข้องเล่าสู่กันฟัง-ครูผู้ขัดเกลาเตือนครูอย่าปั้นข้อมูลนร.ชงประเมินวิทยฐานะ-ทีชเชอร์แชนแนลเปิดเม.ย.เตือนครูอย่าปั้นข้อมูลเลื่อนวิทยฐานะมุมมองใหม่-"ทำดีได้เที่ยวฟรี"ร.ร.มัธยมบ้านแก้งวิทยา ขนส่งทางบกระบุแท็กซี่โกงมิตเตอร์อาละวาดหนัก

NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

ธีระยันแจ้งจับ ไทยเรดนิวส์ ไม่เกี่ยวการเมือง

ธีระยันแจ้งจับ ไทยเรดนิวส์ ไม่เกี่ยวการเมือง

สมยศ บก.ไทยเรดนิวส์ ชี้กรมศิลป์แจ้งจับ แค่ต้องการปิดปากคนเสื้อแดง มีแรงจูงใจจากการเมือง ด้าน ธีระตอกกลับเป็นเรื่องที่ทำถูกต้อง แล้วไม่เกี่ยวข้องประเด็นทางการเมือง...เมื่อวันที่ 20 ม.ค. นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข บรรณาธิการผู้พิมพ์ หนังสือพิมพ์ไทย เรดนิวส์ กล่าวถึงกรณีกรมศิลปากร แจ้งความดำเนินคดี หนังสือพิมพ์ไทยเรดนิวส์ ไม่ได้ยื่นจดทะเบียนการพิมพ์ตามมาตรา 11 ของ พ.ร.บ.จดแจ้งการพิมพ์ พ.ศ. 2550 ว่า การดำเนินการทางกฎหมายกับหนังสือพิมพ์นั้นมีแรงจูงใจทางการเมือง รัฐบาลเพียงแค่ต้องการปิดปากสมาชิกกลุ่มคนเสื้อแดงเท่านั้น นอกจากนี้ ยังมีนิตยสารและหนังสือพิมพ์อีกกว่าร้อยฉบับที่ขัดต่อ พ.ร.บ.จดแจ้งการพิมพ์ พ.ศ. 2550 ถ้ารัฐบาลต้องการปิดหนังสือพิมพ์ไทย เรดนิวส์ ฉบับอื่นๆ ก็ต้องปิดด้วยเช่นกัน ที่สำคัญหนังสือพิมพ์ไทย เรดนิวส์ ได้ตีพิมพ์และจำหน่ายแล้วกว่า 30,000 ฉบับ ด้านนายธีระ สลักเพชร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า การที่กรมศิลปากร แจ้งความดำเนินคดีกับหนังสือพิมพ์ฉบับดังกล่าว กระทำอย่างถูกต้องแล้ว เพราะจากการตรวจสอบพบว่า หนังสือพิมพ์ฉบับดังกล่าวไม่มีการจดแจ้งการพิมพ์ถูกต้องตามกฎหมาย และยังมีหนังสือและนิตยสารอีกจำนวนหนึ่งที่ไม่ได้จดแจ้ง ซึ่งกำลังจะแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมายเช่นกัน ทั้งนี้ ตนขอยืนยันว่า การกระทำดังกล่าวไม่ได้เป็นเรื่องความขัดแย้งทางการเมือง และไม่มีเจตนาที่จะสร้างความขัดแย้งแต่อย่างใด แต่ตนได้รับข้อมูลมาจากทางสำนักหอสมุดแห่งชาติ ที่ได้มีการรายงานความคืบหน้าของการดำเนินงานตาม พ.ร.บ. จดแจ้งการพิมพ์ พ.ศ. 2550 มาให้ทราบเป็นประจำ ผมได้สอบถามไปยังสำนักหอสมุดแห่งชาติ ถึงการดำเนินคดีกับหนังสือพิมพ์เล่มนี้ และได้รับทราบว่า ทางสันติบาล ได้แจ้งมายังสำนักหอสมุดแห่งชาติ ให้มีการตรวจสอบหนังสือพิมพ์ไทยเรดนิวส์ เนื่องจาก มีผู้ร้องเรียนมาเป็นจำนวนมาก และที่สำคัญผมไม่ได้เลือกปฏิบัติ ได้สั่งการให้ทางกรมศิลปากรดำเนินการตรวจสอบอย่างเข้มงวดทุกฉบับ และนิตยสารทุกเล่มที่ไม่ได้ทำตามกฎหมาย ไม่เพียงแต่หนังสือพิมพ์ไทยเรดนิวส์เท่านั้น รมว.วัฒนธรรม กล่าว ขณะที่ นางวิลาวัลย์ ทรัพย์พันแสน ผอ.สำนักหอสมุดแห่งชาติ กรมศิลปากร กล่าวว่า สำนักหอสมุดแห่งชาติ ได้ทำการสำรวจข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับการจดแจ้งการพิมพ์ พบว่า มีจำนวน 4-5 รายการเท่านั้น ในส่วนของกรุงเทพฯ และปริมณฑล ส่วนในภูมิภาคกำลังรวบรวมข้อมูลในเรื่องนี้อยู่ อย่างไรก็ตาม ตนกำลังประสานกับฝ่ายนิติการ เพื่อจะดำเนินการสำรวจตามแผงหนังสือว่า มีเล่มไหนที่ไม่จดแจ้งการพิมพ์บ้าง ในการกวดขันให้มีการจดให้ถูกต้องตามกฎหมาย ทั้งนี้ หากประชาชนพบเห็นว่า นิตยสารเล่มใดไม่มีหมายเลข  ISSN แสดงว่า นิตยสารเล่มนั้นไม่ได้ขออนุญาตจดแจ้งการพิมพ์ที่ถูกกฎหมาย ให้แจ้งมายังสำนักหอสมุดแห่งชาติได้ทันที หรือแจ้งยังสำนักศิลปากรทั้ง 15 แห่งทั่วประเทศ เพื่อแจ้งให้เจ้าของนิตยสารดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมาย ส่วนการดำเนินคดีไทยเรดนิวส์ตอนนี้ทางกองปราบปรามกำลังเป็นผู้ดำเนินการอยู่ และได้มาสอบสวนเจ้าหน้าที่ของสำนักหอสมุดแห่งชาติแล้ว.


NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

สถาบันดนตรีกัลยาณิวัฒนาเปิดสอนปี56

สถาบันดนตรีกัลยาณิวัฒนาเปิดสอนปี56



คมชัดลึก :สถาบันดนตรีกัลยาณิวัฒนาได้สถานที่จัดตั้งแล้วที่-งบประมาณ 45 ล้านขับเคลื่อน คาดเปิดการสอนปี 56






 เมื่อวันที่ 20 ม.ค.คุณหญิงไขศรี ศรีอรุณ ที่ปรึกษาโครงการจัดตั้งสถาบันดนตรีกัลยาณิวัฒนา เปิดเผยถึงความคืบหน้า การจัดตั้งสถาบันดนตรีกัลยาณิวัฒนาว่า ขณะนี้กระทรวงอุตสาหกรรมได้มอบพื้นที่ส่วนด้านหลังพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล เชิงสะพานพระราม 8 หรือโรงงานสุราบางยี่ขันเดิม พื้นที่ประมาณ 1 ไร่ พร้อมอาคารเก่า 2 ชั้น ให้เพื่อดำเนินการจัดตั้งสถาบันดนตรีฯ หลังจากยืดเยื้อมาเป็นเวลานาน โดยคาดว่าจะใช้เวลา 1 ปีในการปรับปรุงอาคาร และการก่อสร้างอาคารใหม่ในพื้นที่ 1 ไร่นั้น คาดว่าจะแล้วเสร็จและสามารถเปิดการเรียนการสอนได้ทันภายในปี 2556 ภายใต้การกำกับดูแลของมหาวิทยาลัยศิลปากร
 “เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวของกระทรวงอุตสาหกรรม ได้ถูกแบ่งให้กับมูลนิธิชัยพัฒนาด้วย จึงทำให้เหลือพื้นที่ไม่มากสำหรับการจัดตั้งสถาบันดนตรีฯ แต่ก็ไม่ส่งผลกระทบต่อการเรียนการสอนแต่อย่างใด เพราะสามารถใช้หอประชุม ที่จอดรถร่วมกันได้ แม้ว่าแผนการดำเนินงานต่างๆ จะล่าช้าจากที่กำหนดไว้มาก แต่เชื่อว่าภาคการศึกษาแรกนั้นจะเปิดให้ทันภายในปี 2556 จะเปิดรับตั้งแต่เด็กเล็กจนถึงนักศึกษาระดับปริญญาตรี ซึ่งรับนักศึกษาเพียงแค่ 30 คนต่อปี เท่านั้น โดยจะมีใบประกาศนียบัตรมอบให้เด็กที่เข้าเรียนด้วย” คุณหญิงไขศรี กล่าว
 คุณหญิงไขศรี กล่าวว่าต่อ สำหรับงบประมาณทั้งหมดจะขอจากสำนักงบประมาณ รวมทั้งสิ้น 45 ล้านบาท สำหรับการก่อสร้าง ปรับปรุงอาคารสถานที่ และงานบริหารต่างๆ
 








ข่าวที่เกี่ยวข้องสถาบันดนตรีกัลยาณิวัฒนา หว่านเมล็ดพันธุ์แห่งดนตรี

ประจำวันที่5พ.ค.

NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

ชาวต.ตาเบาชนะประกวดข้าวหอมมะลิสุรินทร์

ชาวต.ตาเบาชนะประกวดข้าวหอมมะลิสุรินทร์



คมชัดลึก :ค้าภายใน จ.สุรินทร์ จัดการประกวดข้าวหอมมะลิ ปีการเพาะปลูก 52/53 เกษตรกรชาว ต.ตาเบา อ.ปราสาท คว้ารางวัลชนะเลิศประเภทบุคคล ส่วนประเภทกลุ่ม พบศูนย์ข้าวชุมชนบ้านอังกัญโพธิ์ ต.โคกยาง อ.ปราสาท คว้าไปครอง รับรางวัลเงินสด-เครื่องจักรกลการเกษตร






 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศูนย์วิจัยข้าวสุรินทร์ อ.เมือง จ.สุรินทร์ นายสุทธิศักดิ์ พรหมบุตร หัวหน้าสำนักงานการค้าภายใน จ.สุรินทร์ ได้จัดประกวดข้าวหอมมะลิจังหวัดสุรินทร์ ปีการเพาะปลูก 52/53 โดยมี นายชาติชาย อุทัยพันธ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธานในการตัดสินการประกวด และมีคณะกรรมการตัดสินจากหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งตัวแทนจากโรงสีข้าว จ.สุรินทร์ มาร่วมตัดสินการประกวดอีกด้วย
 ในการประกวดครั้งนี้ มีเกษตรกรส่งข้าวเข้าประกวด จำนวนทั้งสิ้น 88 ตัวอย่าง คัดเลือกคงเหลือตัวอย่างข้าว จำนวน 21 ตัวอย่าง , กลุ่มเกษตรกรส่งข้าวเข้าประกวด จำนวนทั้งสิ้น  11 ตัวอย่าง คัดเลือกคงเหลือตัวอย่างข้าวเพียง 6 ตัวอย่าง โดยมีแบ่งการพิจารณาออกเป็น 3 รอบ  คัดเลือกรับรางวัลระดับจังหวัดในการประกวดข้าวหอมมะลิ จ.สุรินทร์ ปีการเพาะปลูก 52/53 และจะส่งเข้าประกวดในระดับประเทศ ต่อไป         
 โดยเกษตรกรรายบุคคลที่ได้รับรางวัลชนะเลิศจากการประกวดข้าวหอมมะลิระดับประเทศจะได้รับโล่ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมเงินสด 20,000 บาท และรถไถเดินตามพร้อมเครื่องยนต์และอุปกรณ์มาตรฐาน ส่วนในกลุ่มเกษตรกรหรือสหกรณ์การเกษตร ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศจากการประกวดข้าวหอมมะลิระดับประเทศจะได้รับโล่ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมเงินสดและอุปกรณ์การเกษตร รวมมูลค่า 140,000 บาท              สำหรับผลจากการประกวดที่คณะกรรมการได้ตัดสิน ประเภทเกษตรกรกรรายบุคลที่ได้รับรางวัลที่ 1 คือ นายดวน ดีพาชู ชาว ต.ตาเบา อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ รางวัลที่ 2 นายมาลา จันทร์สม ชาว ต.ชุมพลบุรี อ.ชุมพลบุรี รางวัลที่ 3 นายทองเรียม มากมูล ชาว ต.หนองเรือ อ.ชุมพลบุรี รางวัลชมเชย ได้แก่ นายประเจโสภาชัย ชาว ต.เมืองบัว อ.ชุมพลบุรี 
 ส่วนประเภทกลุ่มเกษตรกรหรือสหกรณ์การเกษตร รางวัลที่ 1 ศูนย์ข้าวชุมชนบ้านอังกัญโพธิ์ ต.โคกยาง อ.ปราสาท  รางวัลที่ 2 ศูนย์ข้าวชุมชนบ้านนาตุ่น ต.หนองบัวทอง อ.รัตนบุรี รางวัลที่ 3 ศูนย์ข้าวชุมชนตำบลแก ต.แก อ.รัตนบุรี   ซึ่งการตัดสินการประกวดดังกล่าว ทางคณะกรรมการประกวดข้าวหอมมะลิคุณภาพ จ.สุรินทร์ จะได้คัดเลือกผู้ชนะเลิศอันดับ 1 ส่งเข้าประกวดในระดับประเทศต่อไป








ข่าวที่เกี่ยวข้อง"วีระชัย"คาด21ม.ค.ส่งแสนเหรียญช่วยเฮติ โพลล์เอสเอ็มอีเชื่อมั่นปีนี้ธุรกิจกระเตื้องขึ้นหวั่นพิษอาฟตาข้าวหอมฯทะลักปนของสุรินทร์ตามวช.ลัดเลาะ"เหนือตอนล่าง"ดูงานดินเผา-ปลูกข้าวปลอดสาร นครหลวงค้าข้าวยิ้มหอมมะลิอินทรีย์รุ่งส่งออกปีหน้าโต10%

NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

อชก.อนุมัติเงินกู้14ล้านบาทช่วยเกษตรกรชำระหนี้

อชก.อนุมัติเงินกู้14ล้านบาทช่วยเกษตรกรชำระหนี้



คมชัดลึก :อชก.อนุมัติเงินกู้ 14 ล้านบาท ช่วยเหลือเกษตรกรและผู้ยากจน 21 รายนำไปชำระหนี้และไถ่ถอนที่ดินคืนจากเจ้าหนี้






  นายศักดิ์ชัย  ศรีบุญซื่อ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า คณะอนุกรรมการช่วยเหลือเกษตรกรและผู้ยากจน(อชก.) ส่วนกลาง ได้มีมติอนุมัติเงินกู้จากกองทุนหมุนเวียนเพื่อการกู้ยืมแก่เกษตรกรและผู้ยากจนเป็นเงินจำนวน 14 ล้านบาทเศษ ให้แก่เกษตรกรและผู้ยากจน จำนวน 21 ราย ในจำนวนนี้เป็นเกษตรกรสภาเกษตรกรประชาชน 4 ภาค จำนวน 6 ราย เพื่อนำเงินไปชำระหนี้ ไถ่ถอนที่ดินคืนจากเจ้าหนี้และลงทุนประกอบอาชีพ
 โดยมีเงื่อนไขต้องชำระหนี้ภายในระยะเวลาไม่เกิน 20 ปี อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 5 ต่อปี แต่ละรายไม่เกิน 2,500,000 ล้านบาท  และต้องนำที่ดินที่ไถ่ถอนหรือซื้อคืนมาจำนองเป็นหลักประกันกับสำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
 ทั้งนี้นับตั้งแต่ปี 2534 จนถึงถึงปัจจุบัน ได้อนุมัติเงินจากกองทุนหมุนเวียนฯ เพื่อให้เกษตรกรและ ผู้ยากจนกู้ยืมเพื่อนำไปชำระหนี้และไถ่ถอนหรือซื้อที่ดินคืนจากเจ้าหนี้แล้ว จำนวน 22,120 ราย เป็นเงินรวมทั้งสิ้นจำนวน 3,177,892,349 บาท สามารถสงวนรักษาที่ดินทำกินไว้ให้เกษตรกรและผู้ยากจน ไม่ให้สูญเสียสิทธิจากการจำนองหรือฝากขาย หรือการฟ้องดำเนินคดีและถูกบังคับคดีประกาศขายทอดตลาดไปเป็นของเจ้าหนี้หรือบุคคลอื่นได้ประมาณ231,760-0-09.9 ไร่








ข่าวที่เกี่ยวข้องหนี้ของพี่ชาย ชงรับจำนำน้ำตาลทรายโควตาข.ของบ1,150 ล้านบาท-คาดเปิดรับได้1ล้านกระสอบนายกฯยันเพิ่มทุน1.1หมื่นล้านให้กองทุนหมู่บ้านใช้หนี้แทนน้า ปีใหม่จะเริ่มต้นทำอะไรดี

NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

มติวิทยาลัยอาชีวะไม่รับครุภัณฑ์ราคาเกินจริง

มติวิทยาลัยอาชีวะไม่รับครุภัณฑ์ราคาเกินจริง



คมชัดลึก :อุปนายกสมาคมอาชีวะ อ้างมติร่วมกันของ วิทยาลัยอาชีวะ ไม่รับครุภัณฑ์ที่ส่งมาแล้วมีปัญหาทั้งราคาเกินจริง ไม่มีคุณภาพตามต้องการ มีที่มาคลุมเครือ และไม่เอื้อต่อประโยชน์นักศึกษา เผย มีท่านโม่ง ที่มีอำนาจทางการเมืองในรัฐบาลนี้ชักใยเบื้องหลัง ด้าน ชินวรณ์ ย้ำทุกฝ่ายแก้ปัญหาทำให้ถูกต้องโปร่งใสไม่ให้เกิดปัญหาคอรัปชั่น






 (20 ม.ค.)นายธีรพัฒน์  คำคูบอน  อุปนายกสมาคมอาชีวศึกษา แถลงข่าวเกี่ยวกับกรณีการทุจริตการจัดซื้อครุภัณฑ์ของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ว่า ขณะนี้มีข้อมูลเชิงลึกที่ไม่เหมือนกับข้อมูลที่ น.ส.นริศรา ชวาลตันพิพัทธิ  รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมช.ศธ.) มี โดยข้อมูลที่มีนั้นได้มาจากการรวบรวมมาจากวิทยาลัยต่าง ๆ จากผู้ที่หวังดีซึ่งโดยรายละเอียดมีความแตกต่างจากผลการตรวจสอบที่ออกมา เช่น กรณีที่ระบุว่าเรื่องสเป็กของครุภัณฑ์ไม่มีปัญหานั้น ความจริงแล้วเป็นเรื่องที่มีปัญหามากที่สุด เพราะพบว่าไม่ได้มีการทำประชาพิจารณ์ และมีการล็อคสเป็ก อีกทั้งที่มีปัญหาไม่ใช่แค่ในส่วนของกลุ่มผลิตภัณฑ์ยาง โพลิเมอร์ อัญมณี และเซรามิกเท่านั้น แต่ในส่วนครุภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีก็มีปัญหาเช่นกัน
 ดังนั้น จึงมีมติร่วมกันว่า 1.วิทยาลัยอาชีวะทุกแห่งสังกัด สอศ.จะไม่รับครุภัณฑ์ใด ๆ ก็ตามที่มีราคาแพงเกินจริง 2.ครุภัณฑ์ที่ด้อยคุณภาพไม่เป็นไปตามความต้องการของวิทยาลัย และนักเรียน นักศึกษาจะไม่รับ 3.ครุภัณฑ์ที่มีที่มาคลุมเครือ แฝงด้วยผลประโยชน์จะไม่รับ และ4.ครุภัณฑ์นั้นจะต้องมีคุณภาพเอื้อประโยชน์ต่อการเรียนการสอนกับนักศึกษา
 “หลักฐานต่าง ๆ ได้มาจากผู้ที่หวังดีที่ทราบและรู้เห็นความไม่ชอบมาพากล ซึ่งวิทยาลัยอาชีวะทุกแห่งก็พร้อมที่จะปฏิเสธไม่รับครุภัณฑ์ที่มีปัญหาไม่ใช่แค่เพียง 12 แห่งอย่างที่มีการระบุไว้  การที่ออกมาพูดนั้นไม่ได้มากล่าวโทษใคร และออกมาพูดในฐานะอุปนายกสมาคม ซึ่งมองว่าการที่เรากล้าพูดความจริงไม่ใช่เรื่องไม่ดี แต่เป็นการที่ออกมาบอกให้เห็นถึงความไม่ชอบมาพากล เอาข้อมูลที่มีผู้หวังดีส่งมาเรื่อย ๆ มาเปิดเผย เพราะขณะนี้ มีท่านโม่ง คอยบ่งการอยู่เบื้องหลัง คอยสั่งและกำหนดสเป็กครุภัณฑ์แถมให้ไปทำกันที่บ้านท่านโม่งคนนี้ ซึ่งท่านโม่งคนนี้ไม่ใช่คนที่มีตำแหน่งรัฐมนตรี แต่เป็นคนที่มีอำนาจทางการเมืองเกี่ยวข้องกับรัฐบาล”นายธีรพัฒน์ กล่าว
 อุปนายกสมาคมอาชีวศึกษา กล่าวต่อว่า จากนี้จะมีทีมงานลงไปตรวจสอบเก็บข้อมูล และจะทำควบคู่ไปกับการตรวจสอบของคณะกรรมการทั้ง 2 ชุดที่เพิ่งได้รับการแต่งตั้งจาก น.ส.นริศรา เมื่อวันที่ 19 ม.ค.ได้นำข้อมูลที่มีไปมอบให้ นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) ไว้แล้วเพื่อเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณา
 ด้าน นายชินวรณ์ กล่าวว่า ได้กำชับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องแล้วว่าให้ดำเนินการเรื่องนี้อย่างโปร่งใส ส่วนใดที่มีปัญหามีการดำเนินการไม่เรียบร้อยก็ให้ไปดูแลแก้ไขให้ถูกต้อง เชื่อมั่นว่าหากทำอย่างถูกต้องงานจะเดินหน้าต่อได้ ทั้งนี้ ไม่อยากให้เกิดกระแสข่าวที่ส่งผลกระทบต่อการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน เพราะฉะนั้น อะไรก็ตามจะไม่ยอมให้เกิดการทุจริตคอรัปชั่นแน่นอน
   








ข่าวที่เกี่ยวข้องสอบจัดซื้อครุภัณฑ์อาชีวะสมยอมประมูลเสาร์ที่ 16 มกราคม 2553

"ฐิติกรณ์ รอดคล้าย"สอนเด็ก"ปฏิบัติจริง"เคล็ดลับครูดีเด่นคุรุสภาปี52 สทศ.ชี้สอบV-net พัฒนาการศึกษาอาชีวะ

NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

ผอ.ศูนย์เตือนภัยฯ เดิมพันตำแหน่ง แก้ไขทุ่น-หอเตือนภัยสึนามิแล้ว

ผอ.ศูนย์เตือนภัยฯ เดิมพันตำแหน่ง แก้ไขทุ่น-หอเตือนภัยสึนามิแล้ว

ผู้อำนวยการศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ชี้แจงกรณีโดนกล่าวหากรณีปล่อยให้ทุ่น-หอเตือนภัยเจ๊งว่าแก้ไขเรียบร้อยแล้ว ด้าน อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยาโต้หมอดู นักวิชาการว่าสึนามิ แผ่นดินไหวในประเทศไทยเกิดยาก..ความคืบหน้า กรณี ดร.สมิทธ ธรรมสโรช อดีตผู้อำนวยการศูนย์พิบัติแห่งชาติ และกลุ่มชาวบ้านผู้ประสบเหตุภัยพิบัติสึนามิ ออกมาแฉเรื่องทุ่น-หอเตือนภัยสึนามิ ที่ภาครัฐนำมาติดตั้ง พัง ใช้การไม่ได้ โดยไร้ผู้เหลียวแลนั้นเมื่อวันที่ 20 ม.ค. ไทยรัฐออนไลน์ สอบถามไปยัง นายวิริยะ มงคลวีระพันธ์ ผู้อำนวยการศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ชี้แจงประเด็นเรื่องทุ่น-หอเตือนภัยสึนามิ ว่า เป็นเรื่องเข้าใจผิดเพราะหลังจากเกิดข่าวขึ้น ตนและทีมงานเดินทางลงพื้นที่เข้าไปตรวจสอบพร้อมทำการปรับปรุงเรียบร้อยแล้วตั้งแต่เกิดเรื่องผมไม่อยากจะตอบโต้อะไร ผมมีหน้าที่ทำงาน เรื่องที่เป็นข่าวเป็นการเข้าใจผิด โดยตั้งแต่วันที่ 17 ธ.ค. 2552 ที่ผ่านมา ผมได้ไปแก้ไขระบบขัดข้องเรียบร้อยแล้วตั้งแต่เรื่องทุ่นเตือนภัย และหอเตือนภัย ซึ่งวันนี้ผมกล้าพูดได้ว่าเอาตำแหน่งรับประกันว่าระบบทุกๆ อย่างของ 6 จังหวัดที่ประสบภัยจัดการแก้ไขเรียบร้อยแล้วด้าน นายอังสุมาล ศุนาลัย อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ถึงความเป็นไปได้ว่าจะเกิดภัยสึนามิในประเทศไทย ตามคำทำนายของ ดร.สมิทธ ธรรมสโรช อดีต ผอ.ศูนย์เตือนภัยฯ และนายโสรัจจะ นวลอยู่ โหรชื่อดัง รวมทั้งคำเตือนของจากศาสตราจารย์จอห์น แมคคลอสคีย์ สถาบันวิจัยนิเวศวิทยา แห่งมหาวิยาลัยอัลส์เตอร์ ไอร์แลนด์เหนือ ว่า ยังไม่มีโมเดลไหนที่จะคาดการณ์ได้ว่าจะมีเหตุการณ์แผ่นดินไหวได้ เพราะถ้าเหตุการณ์เกิด จะมีเครื่องจับจุดเกิดเหตุก็เริ่มเคราะห์ว่ามันจะมีผลกระทบอะไร สมมุติว่าเกิดท่ีตรงนี้ขึ้น จะมีโมเดลของเราว่าความแรงของการเกิด ณ  จุดตรงนี้เท่าไร  ฉะนั้นถ้าเกิดห่างจากประเทศไทยไป จะคาดการณ์ได้ว่าระยะเวลาการสั่นสะเทือนจะวิ่งเข้ามาถึงได้เมื่อไร เพราะ แรงสั่นสะเทือนนั้นจะมีผลกระทบอะไรกับประเทศไทย เราก็จะเตือนในลักษณะนั้นได้ คือเราก็จะมีจุดในการท่ี่จะเตือนว่าส่ิงที่ได้ถูกเคลื่อนมามีผลกระทบกับเราอย่างไร ส่ิงปลูกสร้างหรืออะไรที่เกี่ยวข้องจะมีผลกระทบอย่างไร ดังนั้นไม่สามารถกำหนดได้ว่ารอยเลื่อนต่างๆ  ที่เกิดขึ้น จุดไหนจะทำให้เกิดแผ่นดินไหวได้ ทั้งนี้ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ยังกล่าวถึงคำทำนายว่า จะเกิดเหตุการณ์สึนามิกลางปี 2553 ของโหรชื่อดังด้วยว่า ยังไม่มีข้อมูลมาสนับสนุนได้ว่าจะเกิดหรือไม่เกิด เพราะการทำนายจะต้องมีข้อมูลที่เป็นตัวประกอบทั้งหมด  เอามาประกอบกันแล้วถึงสรุปข้อมูลน้ันได้ว่ามันจะเกิดขึ้นได้อย่างไร ยกตัวอย่างได้จากการเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวขึ้นมาหลายประเทศแล้วทำไมทั่วโลกยังไม่ตื่นตัว และยืนยันว่ายังไม่มีทฤษฎีไหนตอบโจทย์ได้ว่าปี  53 จะเกิดสึนามิขึ้นได้  เพราะ ถ้ารู้ว่าจะเกิด  เราก็จะเตือนให้ทัน  เพราะมีศูนย์เตือนภัยเต็มไปหมด ถามว่ากังวลหรือมีผลกระทบไหมผมว่าคำเตือนของโหรและ ดร.สมิทธิ์ทำให้หลายคนตื่นตัว เพราะถ้ารู้ว่ากำลังจะเกิดเหตุการณ์แล้วสามารถหาวิธีป้องกันได้  ทำให้เกิดการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินน้อยที่สุด สุดท้ายอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา กล่าวด้วยว่า ส่วนตัวไม่เชื่อว่าสึนามิจะเกิดที่ประเทศไทยจริงๆ ขึ้นอยู่กับว่าน้ำทะเล เวลาที่เกิดแผ่นดินไหวบนพื้นดิน มันก็สะเทือนไปบนดิน แรงที่สั่นสะเทือนวิ่งขึ้นไป ความรุนแรงของมัน  พ วกส่ิงก่อสร้างที่ไม่ได้ถูกดีไซน์มาในลักษณะที่มารับแรงสั่นสะเทือนมันก็จะหักหมด  คือโครงสร้างมันหักก็จะถล่มลงมา  ในแต่ละพื้นที่มันถูกดีไซน์ไม่เหมือนกัน อย่างประเทศไทยโอกาสของการเกิดแผ่นดินไหวไม่มีเลย.เขากล่าว


NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

เปิดโลกการศึกษามุสลิม ตอน:ความทรงจำพ่อหลวงนักศึกษาไทยในซูดาน

เปิดโลกการศึกษามุสลิม ตอน:ความทรงจำพ่อหลวงนักศึกษาไทยในซูดาน



คมชัดลึก : วันนี้จะพาท่านผู้อ่านไปคุยกับนักศึกษาไทยในประเทศซูดาน ที่จัดงานเพื่อพ่อหลวง ด้วยความรักและเคารพในหลวง เมื่อปลายปีที่ผ่านมา






      แม้ว่าจะไม่มีสถานทูตไทยไว้ให้บริการคนไทย แต่มีกงสุลกิตติมศักดิ์ ณ กรุงคาร์ทูม นายยามาล อิล นีฟิลดี เป็นตัวแทนของประเทศไทยให้ความสะดวกกับคนไทยซึ่งปัจจุบันมีประมาณ 300 คน และนักศึกษาไทย 100 คน และทหารไทยที่ประจำอยู่กับกองทหารยูเอ็นอีกจำนวนหนึ่ง        
  สังคมนักศึกษาไทยในซูดานได้เริ่มก่อตัวและมีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันมากขึ้นหลังจากมีการเลือกตั้งนายกสมาคมนักเรียนไทยอย่างเป็นทางการ เมื่อครั้งที่ท่านทูตจริย์วัฒน์ สันตะบุตร เป็นผู้จัดโครงการความสัมพันธ์ ระหว่างนายกสมาคมนักเรียนไทยในไคโร เดินทางไปให้แนวทางการดำเนินการและการบริหารงานของสมาคมนักเรียนในประเทศซูดาน จนถึงบัดนี้ สมาคมนักเรียนไทยในซูดานได้สืบสานต่อรุ่นพี่ด้วยดีเสมอมา
  สมาคมนักเรียนไทยในซูดานจัดงานวันพ่อขึ้น เป็นการจัดงานครั้งแรก มีนายยามาล อิลนิฟิลดี  เข้าร่วมงานและเป็นเกียรติในการร่วมแสดงความจงรักภักดีต่อในหลวง ซึ่งงานวันชาติได้ถูกจัดขึ้นอย่างง่ายๆ เนื่องจากคณะกรรมการบริหารสมาคมชุดใหม่ต่างเพิ่งจะย้ายเข้ามายังที่ทำการใหม่ซึ่งเป็นบ้านหลังเล็กๆ ไว้เป็นที่รวมตัวของนักศึกษาไทยมีกิจกรรมแข่งขันฟุตบอล การเขียนเรียงความเพื่อพ่อ  การเขียนป้ายงาน ทำให้นักศึกษาไทยในซูดานได้รู้จักพ่อหลวงมากยิ่งขึ้น
 นายมัตพงษ์ ขนาดผล นายกสมาคมนักเรียนไทยในซูดานคนปัจจุบัน กล่าวว่า นักเรียนไทยในประเทศซูดาน คือ อีกหนึ่งตัวแทนของคนไทยที่จะนำสิ่งดีๆ กลับมาพัฒนาประเทศ  นักเรียนไทยที่ไปศึกษาที่ประเทศซูดานส่วนใหญ่พูดภาษาอาหรับกลางได้ชัดเจนและมีคุณภาพมากประเทศหนึ่งจริงๆ
      งานวันชาติวันนี้ทำด้วยใจและความสามัคคีของทุกคน หากแต่งานนี้จะไม่เกิดขึ้นได้หากไม่ได้รับการช่วยเหลือและร่วมมือในการเป็นสื่อหรือตัวเชื่อมของเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงไคโร วันนี้นักเรียนไทยในซูดานยังคงขาดอุปกรณ์หลายอย่างในการเสริมสร้างทางด้านสุขภาพ ทางด้านการกีฬา และวิชาการทางสามัญ โอกาสหน้าจะนำแฟนๆ ไปรู้จักสังคมนักเรียนไทยในซูดานให้มากยิ่งขึ้น...อิงชาอัลลอฮ์ 
 








ข่าวที่เกี่ยวข้องสถานการณ์ความมั่นคงยุโรปปี2553อิหร่านยันลูก'บินลาเดน'อยู่สถานทูตซาอุฯ อิหร่านกักเมีย-ลูก"บิน ลาเดน"ไว้8ปีเอ็นจีโอ-ชาติกำลังพัฒนาค้านข้อตกลงโลกร้อนปิดฉากแล้วประชุมโลกร้อนที่โคเปนเฮเก้น

NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

เปิดม่านการศึกษาประจำวันที่21ม.ค.

เปิดม่านการศึกษาประจำวันที่21ม.ค.



คมชัดลึก : 0 เป็นหัวเรือใหญ่ในยุคบุกเบิก "วิทยาลัยชุมชน" แม้ทุกวันนี้พ้นเก้าอี้ "รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ" ไปแล้ว แต่ "ดร.สิริกร มณีรินทร์" ประธานกรรมการวิทยาลัยชุมชน ยังอุทิศชีวิตให้แก่งานด้านการศึกษา มาตราบทุกวันนี้ด้วยใจรัก!








 0 แต่ในฐานะศิษย์เก่าเตรียมอุดมศึกษา รุ่นที่ 31 "ดร.สิริกร" สวมหมวก "อุปนายก" สมาคมนักเรียนเก่าเตรียมอุดมศึกษา ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้รับความไว้วางใจให้นั่งเก้าอี้ "ประธานโครงการเสริมสร้างศักยภาพโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ด้วยหอสมุด หม่อมหลวงปิ่น มาลากุล  และห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์" ที่เตรียมเปิดแถลงข่าวในวันพฤหัสที่ 21 มกราคม เวลา 14.00 น. ณ ชั้น 2 ตึก 4 อาคารห้องสมุด ที่ ร.ร.ต.อ.  
 0  นัยว่าวันว่างของ "ดร.สิริกร" ยังสวมบทคนข่าวทีวี ผ่านยูบีซี 8 ของทรู เน้นเกาะติดข่าวด้านการศึกษาเป็นหลัก แว่วว่ากระทรวงศึกษาธิการภายใต้ความดูแลของพรรคประชาธิปัตย์ ยังมีหลายเรื่องที่รัฐมนตรีศึกษาฯ "เกาไม่ถูกที่คัน" อีกเพียบ!
 0 "นิรมล ทิรานนท์" รองประธานกรรมการประชาสัมพันธ์ สมาคมนักเรียนเก่าเตรียมอุดมฯ ขอเชิญศิษย์เก่าร่วมงาน "รัก ต.อ. ขอจงอยู่ยืนนาน" คืนสู่เหย้าเตรียมอุดม ในวันศุกร์ที่ 5 ก.พ. เวลา 17.00-22.00 น. ณ สนามฟุตบอล ร.ร.ต.อ. จองบัตร www.triamudom-alumni.com 0-2252-2325, 0-2255-5880
ครูแจ่ม








ข่าวที่เกี่ยวข้องวชช.สระแก้วเปิดฝึกอบรมอนุรักษ์ไก่ชนรอบรั้วเกษตร (พฤหัสบดีที่ 17 ธ.ค.52)

วชช.หนุนสร้างอาชีพให้ "วัยรุ่น"
ช่วยลดปัญหาสังคม-เพิ่มรายได้ กระแสตอบรับE-Learningกทม.ดีแห่เรียนเพียบ จุรินทร์ทัวร์ฝรั่งเศสเยี่ยม2มหาลัยดัง-ปั้นคนรับใช้ชาติ

NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

ภาษาอังกฤษง่ายนิดเดียวรองเท้า 1 คู่

ภาษาอังกฤษง่ายนิดเดียวรองเท้า 1 คู่



คมชัดลึก :สวัสดีค่ะ คุณแอนดรูว์ ถ้าเราเข้าไปซื้อรองเท้า แล้วต้องการจะลองอีกข้างหนึ่งของรองเท้าที่เขาโชว์อยู่ (ปกติร้านขายรองเท้าจะโชว์อย่างละข้าง) จะบอกกับเด็กว่าอย่างไร รองเท้า 1 คู่ เรียกว่า a pair of shoes ถ้ารองเท้า 1 ข้างจะเรียกว่าอย่างไรคะ






จาก Naowanit
ผมเองก็เห็นใจครับ เนื่องจากว่าเท้าซ้ายของผมใหญ่กว่าเท้าขวา (ไม่ต้องหัวเราะนะท่านผู้อ่าน มนุษย์เราเกือบทุกคนข้างหนึ่งจะใหญ่กว่าอีกข้าง) แต่ในร้านเขาชอบเสนอข้างขวามาให้ลอง บางครั้งลืมว่าเท้าซ้ายใหญ่กว่า ลองข้างขวาแล้วพอดี ชอบ ซื้อ พอถึงบ้านใส่อีกครั้งรวมถึงข้างซ้าย แฮ่วแล้ว! ใส่ไม่ได้!
ก็เรียกว่า the left shoe (ข้างซ้าย) กับ the right shoe (ข้างขวา) ได้เลยครับ เช่นMay I try on the left shoe? (ฉันขอลองข้างซ้ายได้ไหมคะ)Can I try the left one, please? (ขอลองข้างซ้ายได้ไหมคะ)สังเกตว่าสามารถเรียกว่า the left one หรือ the right one ได้ ไม่จำเป็นต้องระบุว่าเป็น shoe ทุกครั้ง อีกจุดหนึ่งที่น่าสนใจคือ กริยา ลองสวมใส่ (รองเท้า เสื้อผ้า) เราใช้ try หรือ try on ครับ เช่นCan I try this on? (ผมขอลองใส่เสื้อนี้ดูได้ไหมคะ)I tried it on but it didn’t fit. (ฉันลองใส่แล้วแต่มันแคบไป)พบกันคราวหน้า อย่าลืมว่าภาษาอังกฤษง่ายนิดเดียวครับ








ข่าวที่เกี่ยวข้องเฉิดฉายหรูหราบนพรมแดงเวทีลูกโลกทองคำหูหนวกหึงโหดเชือดคอเมียดับ-ก่อนฆ่าตัวตายมหัศจรรย์ลูกชิ้นตกทะลุมิติ บอยล์ออกรายการทอล์ค โชว์โอปราห์ วินฟรีย์ ลายเส้นสีจัดจ้าน"เจิด"อย่างแรง

NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

กยศ.ให้กู้เรียนมหาลัย เกือบแสนเหตุมีผู้ชำระหนี้คืนเพิ่มขึ้นเกินเป้า

กยศ.ให้กู้เรียนมหาลัย เกือบแสนเหตุมีผู้ชำระหนี้คืนเพิ่มขึ้นเกินเป้า



คมชัดลึก : สุเมธ เผยทุน กยศ.ระดับอุดมศึกษาเพิ่มขึ้นเกือบเท่า ระบุจากเดิมตั้งเป้าแค่ 5 หมื่นราย แต่เพิ่มขึ้นเป็น 99,918 ราย เหตุมีผู้ชำระหนี้คืนมากขึ้น พร้อมฝากมหาวิทยาลัยให้ข้อมูลเรื่องการชำระคืน








ดร.สุเมธ แย้มนุ่น เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ คณะอนุกรรมการบัญชีจ่ายที่สองได้ประชุมกันซึ่งการรายงานผลการชำระหนี้คืน ในส่วนของคณะอนุกรรมการบัญชีจ่ายที่สอง โดยข้อมูลล่าสุดวันที่ 30 กันยายน 2552 ที่มีผู้ครบกำหนดชำระเงินคืน 980,469 ราย มาชำระเงินคืน 721,356 ราย คิดเป็น 73.57% ยังมีผู้ค้างชำระเงินคืนอีก 259,113 ราย คิดเป็น 26.43% ซึ่งเป็นข่าวดีที่มีผู้ชำระเงินคืนเพิ่มขึ้น และได้ขอให้มหาวิทยาลัยช่วยแนะนำนักศึกษาเรื่องการใช้เงินคืน เพราะจะทำให้รุ่นน้องได้มีโอกาสกู้เงินเรียนเพิ่มขึ้น
 อย่างไรก็ตามจากผู้ชำระเงินคืนมากทำให้คณะกรรมการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ปล่อยกู้ให้เด็กเพิ่มขึ้นในปีการศึกษา 2553 จากเดิมมีงบประมาณเพียง 2.8 หมื่นล้านบาท เพิ่มถึง 3.8 หมื่นล้านบาท เฉพาะอุดมศึกษาเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวคือจากเดิมจะได้กู้ 5 หมื่นราย เป็น 99,918 ราย
 ดร.สุเมธ กล่าวต่อว่า ที่ประชุมยังได้หารือกันเกี่ยวกับการจัดสรรวงเงินสำหรับผู้กู้ยืมรายใหม่ ปีการศึกษา 2553 (กยศ.) อนุมัติให้ในส่วนของคณะอนุกรรมการบัญชีจ่ายที่สองได้รับการจัดสรรทุกระดับการศึกษา รวมทั้งสิ้น 99,918 ราย วงเงิน 5,415,161,300 บาท แบ่งเป็นผู้กู้ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย 100 ราย วงเงิน 1,440,000 บาท ปวช. 681 ราย วงเงิน 15,186,300 บาท ปวท./ปวส. 3,600 ราย วงเงิน 1,440,00,000 บาท และอนุปริญญา/ปริญญาตรี 95,537 ราย วงเงิน 254,535,000 บาท ส่วนจะจัดสรรอย่างไรนั้นต้องมาดูในรายละเอียดอีกครั้ง








ข่าวที่เกี่ยวข้องนักศึกษามีเฮกยศ.ขึ้นค่าครองชีพ10% กังวลยอดกู้เงินด่วนพุ่งปีใหม่ร้านค้าอัดโปรโมชั่นล่อวัยรุ่นนศ.เบี้ยวหนี้กยศ.พุ่ง2.7พันคนรวมหนี้186ล้านลูกหนี้กยศ.กาฬสินธุ์จ่อถูกฟ้องกว่า3พันคน ไอแบงก์ร่วมบริหารกยศ.

NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

ศูนย์คุณธรรมปัดฝุ่นศาสนิกสัมพันธ์ในร.ร.เน้นเยาวชน 3 จว.ใต้

ศูนย์คุณธรรมปัดฝุ่นศาสนิกสัมพันธ์ในร.ร.เน้นเยาวชน 3 จว.ใต้



คมชัดลึก :น.ส.นราทิพย์ พุ่มทรัพย์ ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาพลังแผ่นดินเชิงคุณธรรม เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ศูนย์ได้ประชุมเพื่อหารือแนวทางการดำเนินงานโครงการส่งเสริมศาสนิกสัมพันธ์ในสถานศึกษา ในปี 2553 โดยมีผู้แทนจาก 3 ศาสนา






 ได้แก่ มุขนายกยอแซฟ ชูศักดิ์ สิริสุทธิ์ พระสังฆราชสังฆมณฑลนครราชสีมา ประธานโครงการส่งเสริมศาสนสัมพันธ์ในสถานศึกษา นายมฮัมหมัดเฟาซี แยนา ผู้แทนสภายุวมุสลิมโลกสำนักงานประเทศไทย ผู้แทนศูนย์ศึกษาและพัฒนาสันติวิธี มหาวิทยาลัยมหิดล ผู้จัดการโรงเรียนท่าอิฐศึกษาและกลุ่มองค์กรเครือข่ายในระดับมหาวิทยาลัยร่วมประชุม เพื่อกำหนดกรอบการดำเนินงาน และขยายผลองค์ความรู้แนวทางการจัดกิจกรรมยุวทูตศาสนิกสัมพันธ์ในสถานศึกษา เพื่อให้ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายในทุกระดับและสามารถเชื่อมโยงให้เกิดเครือข่ายศาสนิกสัมพันธ์อย่างแพร่หลาย
 “ที่ผ่านมาเราได้ยุวทูตศาสนิกสัมพันธ์ 49 คน บางคนศึกษาต่ออุดมศึกษา และมีเครือข่ายจำนวนมาก ที่นำโครงการศาสนิกสัมพันธ์ไปเป็นแนวทางจัดกิจกรรมในสถานศึกษา และชุมชนของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในปีนี้คณะกรรมการมีเป้าหมายจัดกิจกรรมค่ายยุวทูตศาสนิกสัมพันธ์ และเสริมสร้างแกนนำในระดับมัธยมศึกษา และอุดมศึกษาทั่วทุกภูมิภาค รวมทั้งกลุ่มเยาวชนในชุมชนพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จำนวน 60 คน เพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขอย่างยั่งยืน” น.ส.นราทิพย์ กล่าว
 มุขนายกยอแซฟ ชูศักดิ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมามียุวทูตศาสนิกสัมพันธ์ทั้ง 49 คน ได้นำแนวทางการจัดกิจกรรมไปดำเนินการเผยแพร่และประยุกต์ใช้จนเป็นที่แพร่หลาย เห็นได้จากความสำเร็จของโครงการส่งเสริมกิจกรรมศาสนิกสัมพันธ์ ในโรงเรียนท่าอิฐศึกษาและมหาวิทยาลัยต่างๆ อีกหลายแห่ง ซึ่งมียุวทูตศาสนิกสัมพันธ์ศึกษาอยู่ ในปีนี้เรามีเป้าหมายขยายเครือข่ายไปถึงพื้นที่ 3 จังหวัดใต้เน้นสร้างผู้นำยุวทูตศาสนิกสัมพันธ์ในระดับมหาวิทยาลัย ทั้งนี้ เยาวชนและสถานศึกษาที่สนใจเข้าร่วมโครงการ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 0-2644-9900 หรือ www.moralcenter.or.th








ข่าวที่เกี่ยวข้องงานวิจัยมสธ. ชี้รัฐต้องหนุนสื่อคุณธรรมเล่าสู่กันฟัง-ครูผู้ขัดเกลาเตือนครูอย่าปั้นข้อมูลนร.ชงประเมินวิทยฐานะ-ทีชเชอร์แชนแนลเปิดเม.ย.เตือนครูอย่าปั้นข้อมูลเลื่อนวิทยฐานะมุมมองใหม่-"ทำดีได้เที่ยวฟรี"ร.ร.มัธยมบ้านแก้งวิทยา

NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

พม.ประสานมหาดไทยจ่ายเงินค่าทำศพผ่านอำเภอ

พม.ประสานมหาดไทยจ่ายเงินค่าทำศพผ่านอำเภอ

อิสสระ สมชัยคาดว่าภายใน 1-2 เดือนหลังจากมีการประกาศระเบียบ การจ่ายเงินค่าทำศพดังกล่าวในราชกิจจานุเบกษาแล้ว  มหาดไทย-พม.จะลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อดำเนินการต่อไป...  นายอิสสระ สมชัย รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวว่า นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) 50 อบต. จาก จ.อุดรธานี มาพบตน เพื่อขอทราบนโยบายการจ่ายเงินสงเคราะห์ ค่าทำศพผู้สูงอายุ เนื่องจากบาง อบต.ยังไม่ได้รับเงิน ซึ่ง พม.มีนโยบายที่จะจ่ายเงินค่าทำศพให้ผู้สูงอายุที่อายุ  60  ปีบริบูรณ์เป็นต้นไปทุกคน  จำนวน  2,000 บาท ที่ผ่านมาการจ่ายเงินผ่าน อบต.อาจล่าช้า ขณะที่ พม.ไม่มีเจ้าหน้าที่ใน อบต. ตนจึงมีแนวคิดว่าจะจ่ายผ่านอำเภอให้กับผู้มายื่นออกใบมรณบัตรได้เลย คาดว่าภายใน 1-2 เดือนหลังจากมีการประกาศระเบียบ การจ่ายเงินค่าทำศพดังกล่าวในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ตนจะเชิญนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย มาร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเรื่องนี้ เพื่อ พม.จะนำงบประมาณฝากให้กระทรวงมหาดไทยสั่งทางอำเภอจ่ายเงินค่าทำศพให้เกิดความรวดเร็ว   รมว.พม. กล่าวอีกว่า ส่วนการจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ พบปัญหามากมาย อาทิ อบต.นำงบฯเบี้ยผู้สูงอายุไปสร้างถนน ใส่ร้ายรัฐบาลว่าไม่มีเงิน แล้วอ้างว่าเงินที่จ่ายเป็นเงินท้องถิ่น เอางบฯไปหาเสียงเลือกตั้ง  ทำให้มีผู้สูงอายุไม่ได้รับเงินหรือได้รับล่าช้า ซึ่งรัฐบาลตั้งจ่ายงบฯตามจำนวนผู้ลงทะเบียน 5.5 ล้านคน ได้รับเดือนละ 500 บาท ก็ตั้งงบฯ 33,000 ล้านบาท จ่ายให้ทีละ 16,500 ล้านบาท ต่อ 6 เดือน แต่จากรายงานพบว่าแต่ละปีจะมีผู้สูงอายุเสียชีวิตประมาณ 2 แสนคน หรือไม่มีผู้สูงอายุรับเบี้ย 1,200 ล้านบาท  เงินก้อนนี้หายไปไหน เพราะไม่ปรากฏว่ามี อบต.ใดส่งเงินคืนให้ พม.เลย อย่างไรก็ตามปีหน้าตนจะปรับให้จ่ายผ่านธนาคารทั้งหมด.


NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

เดินหน้าอุ้มโรงเรียนถิ่นทุรกันดาร

เดินหน้าอุ้มโรงเรียนถิ่นทุรกันดาร

เนื่องจากนักเรียนไม่สามารถเดินทางไปกลับระหว่างบ้านกับโรงเรียนในแต่ละวันได้ เพราะอยู่ห่างไกลเดินทางยากลำบาก ทำให้ครูในโรงเรียนต้องรับภาระดูแลเลี้ยงดูเด็ก.... นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ รมช.ศึกษาธิการ เปิดเผยว่า แม้ตนจะไม่ได้กำกับดูแลสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) โดยตรง แต่เนื่องจากเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดตาก ได้ลงพื้นที่พบปะชาวบ้าน ครู ผู้บริหารโรงเรียน และนักเรียนในพื้นที่ต่างๆ โดยเฉพาะในภาคเหนือ ทำให้พบปัญหาของโรงเรียนที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกลทุรกันดาร ที่ต้องช่วยเหลือหลายเรื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรงเรียนที่ต้องรับภาระให้นักเรียนมากินนอนอยู่ที่โรงเรียน  เนื่องจากนักเรียนไม่สามารถเดินทางไปกลับระหว่างบ้านกับโรงเรียนในแต่ละวันได้ เพราะอยู่ห่างไกลเดินทางยากลำบาก ทำให้ครูในโรงเรียนต้องรับภาระดูแลเลี้ยงดูเด็กทั้งเรื่องอาหารการกินและที่อยู่หลับนอน ซึ่งก็ทำได้อย่างตามมีตามเกิด  รมช.ศึกษาธิการกล่าวอีกว่า ด้วยเหตุนี้ตนจึงผลักดันให้ สพฐ.ทำแผนเพื่อช่วยเหลือโรงเรียนเหล่านี้ทั่วประเทศอย่างเร่งด่วน เพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณโครงการแผนปฏิบัติ การไทยเข้มแข็งหรือ SP2 จำนวน 2,000 ล้านบาท ซึ่งก็เป็นที่น่ายินดีที่คณะรัฐมนตรี โดยเฉพาะนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้ให้ความสนใจและสนับสนุนงบฯไปดำเนินการเรื่องดังกล่าวอย่างเต็มที่ ซึ่งหลังจากนี้ สพฐ.จะดำเนินการใน 5 เรื่อง ได้แก่ 1. จัดสร้างอาคารเรียนใหม่ให้กับโรงเรียนในถิ่นทุรกันดารที่มีเด็กมาอยู่กินนอนตลอด 24 ชั่วโมง  2. สร้างเรือนนอนใหม่ให้กับนักเรียน 3. จัดเบี้ยเลี้ยงให้กับครู อาจารย์ที่ต้องดูแลเด็กที่มากินนอนอยู่ในโรงเรียนในอัตราเทียบเท่ากับครูโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์ 4. จัดอาหารให้กับเด็กให้ครบทั้ง 3 มื้อ และ 5. จัดเครื่องแต่งกายและอุปกรณ์ทำการเกษตร เพื่อส่งเสริมให้เด็กทำการเกษตรสนับสนุนโครงการอาหารกลางวัน อย่างไรก็ตาม การได้งบฯก้อนดังกล่าวมาสนับสนุนใน 4-5 เรื่องนี้ คาดว่าจะช่วยสร้างขวัญและกำลังใจให้กับครู อาจารย์ และนักเรียนได้อย่างมาก.


NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

เผยอาชีวศึกษาอัตราตกงานน้อยที่สุด

เผยอาชีวศึกษาอัตราตกงานน้อยที่สุด

ชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ เมื่อวิเคราะห์ ลงลึกระดับกลุ่มจังหวัดพบว่า ความต้องการแรงงานในภาคตะวันออก เช่น อุตสาหกรรม การเกษตร การท่องเที่ยว มีความต้องการแรงงานมากในทุกระดับการศึกษา  จากการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อวางแผนการผลิตและพัฒนากำลังคน กระทรวงศึกษาธิการ (กรอ.ศธ.) นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ รมช. ศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุมมีมติปรับแก้ร่างยุทธศาสตร์การพัฒนากำลังคนกับการศึกษาอีกครั้ง ให้สอดคล้องกับโครงสร้างกำลังแรงงานของประเทศ ซึ่งพบว่าผู้ที่จบการศึกษาระดับอาชีวศึกษา ตกงานน้อยที่สุด ส่วนผู้ที่จบปริญญาตรี สายสังคมศาสตร์ ตกงานมากที่สุด และที่น่าตกใจก็คือ แรงงานที่มีการศึกษาระดับ ม.ต้นหรือต่ำกว่า เป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานสูงที่สุด และขาดแคลนมากที่สุด และเมื่อวิเคราะห์ ลงลึกระดับกลุ่มจังหวัดพบว่า ความต้องการแรงงานในภาคตะวันออก เช่น อุตสาหกรรม การเกษตร การท่องเที่ยว มีความต้องการแรงงานมากในทุกระดับการศึกษา แต่กลับมีคนตกงานในทุกระดับการศึกษา ซึ่งอาจเป็นเพราะไม่ได้คุณภาพตามที่ตลาดแรงงานต้องการจึงตกงาน ดังนั้น สิ่งที่ต้องเร่งแก้ไขคือ คุณภาพการศึกษาของแรงงานทุกระดับ ต้องยกระดับให้ได้ถึงเป้าตามที่ตลาดต้องการ โดยที่ประชุม กรอ.ศธ.เห็นว่า จะต้องกำหนดกรอบคุณวุฒิแห่งชาติ หรือ National Qualification Framework (NQF) ซึ่งเป็นมาตรฐานระดับชาติในทุกสาขาวิชา ให้ผลิตบุคลากรที่มีคุณภาพตั้งแต่ระดับมัธยมศึกษา อาชีวศึกษา และอุดมศึกษา   ขณะนี้พบว่าแรงงานที่ใช้อยู่ มีคุณวุฒิระดับ ม.ต้น หรือ ต่ำกว่า ม.ต้น เป็นแรงงานต่างด้าว ซึ่งคงต้องมีการพิจารณากันถึงนโยบายชาติว่า เราต้องการใช้แรงงานเหล่านี้ตลอดไปหรือไม่ นายชัยวุฒิกล่าว และว่า กรอบมาตรฐานระดับชาติ จะใช้เวลาในการดำเนินการ 6 เดือน จากนั้นจะเสนอต่อกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา และสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา นำไปใช้ เพื่อปรับการเรียนการสอนให้ได้มาตรฐานและสอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงาน หากปล่อยไว้ผลผลิตของแต่ละองค์กรหลักก็จะตกงาน และนำระบบแนะแนวเข้ามาใช้ เพื่อแนะแนวให้เด็กเห็นว่า การเรียนด้านอาชีวศึกษามีอัตราการตกงานน้อย ดังนั้น ก็ควรเลือกเรียนด้านอาชีวศึกษา หากจะศึกษาต่อในระดับสูงขึ้น แนวโน้มการตกงานก็มีสูงขึ้นตามไปด้วย.


NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

พอแล้วรวย เตรียมพร้อมรับภัย 2

พอแล้วรวย เตรียมพร้อมรับภัย 2





คมชัดลึก :ฉบับที่แล้วอาจารย์ยักษ์ได้เปิดประเด็นถึงความเป็นไปได้ที่จะเกิดภัยพิบัติใหญ่จากเขื่อนศรีนครินทร์ และเขื่อนวชิราลงกรณ์แตกด้วยสภาพทางภูมิศาสตร์ที่เขื่อนทั้งสองตั้งอยู่บนรอยเลื่อนของเปลือกโลกที่ชื่อว่า รอยเลื่อนศรีสวัสดิ์ และ รอยเลื่อนเจดีย์สามองค์ ซึ่งในอดีตก็มีการบันทึกถึงการไหวตัวของทั้งสองรอยเลื่อนนับร้อยนับพันครั้ง เพียงแต่การไหวตัวของรอยเลื่อนที่ผ่านมาอาจอยู่ลึกลงไปมากยังไม่ส่งผลสะเทือนถึงผิวโลกชั้นบนที่เขื่อนตั้งอยู่







  จู่ๆ ที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตก็ออกมาเปิดเผยข้อมูลรวมทั้งสร้างแบบจำลองคอมพิวเตอร์พูดถึงสภาพของน้ำที่จะหลากลงมาหากเขื่อนแตก ทำให้เราต้อง “เอะใจ” ว่าหากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตมีความมั่นใจถึง “ความปลอดภัย” ร้อยเปอร์เซ็นต์ของเขื่อนก็จะไม่คิดที่จะทำข้อมูลจำลองออกมาแบบนี้ แต่ในอีกด้านหนึ่งก็ถือว่าอาจเป็นการ “เตือนล่วงหน้า” เพราะตั้งแต่เกิดเหตุสึนามิแล้ว คนไทยก็ดูจะรับฟัง “คำเตือน” มากขึ้น
 หากย้อนกลับไปถึงประชาชนเฮติ ถ้ารู้ตัวล่วงหน้าว่าวันใดวันหนึ่งจะมีแผ่นดินไหวขนาดที่คร่าชีวิตคนเป็นเรือนแสน และทำให้คนเรือนล้านไร้ที่อยู่ เขาจะเตรียมตัวอย่างไร
 แน่นอนเมื่อมีภัยพิบัติเกิดขึ้น สิ่งที่จะเป็นปัญหาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ คือ ที่อยู่อาศัย อาหาร ยา การป้องกันโรคระบาด การจัดการกับคนตาย คนบาดเจ็บ ระบบการให้การช่วยเหลือ และการเยียวยา ในแต่ละเรื่องก็เรื่องใหญ่ที่ต้องคิด เตรียมการ วางแผนให้ดี ภัยพิบัติน้ำท่วมสำหรับประเทศไทยมิใช่เรื่องใหม่ แต่ถ้าเป็นภัยพิบัติน้ำท่วมที่มาจาก “เขื่อนแตก” แล้วคงจะเป็นเรื่องใหม่แน่นอน ซึ่งก็ยังคงประเมินความรุนแรงและความเสียหายไม่ได้ในตอนนี้ ในฐานะปัจเจกชนที่คิดว่า “ไม่ประมาท” และ “เตรียมพร้อม” เราควรทำอะไรบ้าง
 1.หาข้อมูลให้แน่ชัดว่าเราอยู่ในจุดเสี่ยงภัยหรือไม่ ถ้าใช่ ภัยที่จะมาถึงตัวนั้นเร็วช้าแค่ไหนมีเวลาในการอพยพมากน้อยแค่ไหน เช่น ในกรณีที่เป็นคนบ้านโป่ง น้ำจากเขื่อนจะมาถึงภายใน 11 ชั่วโมง ภายใน 11 ชั่วโมง ต้องทำอะไร
 2.ศึกษาเส้นทางอพยพ จุดหมายปลายทางที่จะไป ผู้ร่วมเดินทาง การนัดหมาย  3.อุปกรณ์ ข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็น อะไรที่ต้องสละ อะไรที่จำเป็น
 การเตรียมการข้างบนดูเหมือนจะง่าย แต่ในทางปฏิบัติไม่ง่ายเลย และต้องมี “สติ” อย่างมาก น้ำท่วมจากเขื่อนอาจจะรุนแรง ฉับพลัน แต่ก็จะอยู่ไม่นาน เหมือนเทน้ำจากกะละมัง น้ำจะมาเร็ว และไปเร็ว น่าห่วงก็แต่จะมีฝนมาผสมโรง หรือน้ำไม่สามารถไหลลงสู่ทะเลได้ในเวลาอันรวดเร็วจะด้วยเป็นเพราะสาเหตุใดก็ตาม แล้วในกรณีคนเมืองกาญจน์ที่มีข้อมูลว่าน้ำอาจท่วมสูงถึง 25 เมตร อาจารย์ยักษ์จะทำยังไง อาจารย์ยักษ์ก็จะบอกง่ายๆ คือ “ทำใจ” และก็ “ทำบุญ” นอกเสียแต่ว่าบ้านไหนจะมีต้นตะเคียน ยางนา สูงใหญ่ ก็สร้าง “บ้านรังนก” เผื่อไว้เป็นที่หลบภัย
 แต่ ณ วันนี้เหตุการณ์ “เขื่อนแตก” ก็เป็นเรื่องไกลตัว หากเทียบกับ “ภัยแล้ง” ที่กลายเป็น “แขกประจำ” ของประเทศสยามไปเสียแล้ว และนับวันแขกผู้นี้ก็สำแดงอิทธิฤทธิ์มากขึ้นเรื่อยๆ เพียงเดือนกุมภาพันธ์ ข่าวภัยแล้งในภูมิภาคต่างๆ ก็กลายมาเป็นปัญหาระดับชาติอีกครั้งหนึ่ง
 อาจารย์ยักษ์เพิ่งลงใต้ไปทุ่งสง ทหารในกองทัพภาค 4 ก็รายงานมาให้ทราบแล้วว่า ต้องขนน้ำไปประทังความเดือดร้อนให้แก่พี่น้องชาวจังหวัดตรังถึงวันละ 4-5 เที่ยว ประปาชุมชนหลายแห่งน้ำก็แห้งหมดแล้ว นัยว่า “วิกฤติภัยแล้ง” ปีเสือปีนี้จะดุสุด อาจทำให้เสือที่ขาดน้ำ หิวน้ำฆ่ากันตายได้
 อยากฝากรัฐบาลให้เตรียมหาทางป้องกันให้ดี ความขัดแย้งระหว่างภาคเกษตร และภาคอุตสาหกรรมที่น้ำมีความสำคัญมากทั้งคู่อาจถึงขั้นปะทะ และฆ่ากัน
 ที่เตือนไม่ใช่เพราะอาจารย์ยักษ์มองโลกในแง่ร้าย แต่เพราะความขัดแย้งในการ “แย่งชิงน้ำ” ระหว่างภาคเกษตรและอุตสาหกรรมที่รุนแรงถึงขั้นจะ “ฆ่า” กันได้เคยเกิดมาแล้ว แต่ปีนี้สถาณการณ์ที่บ่งบอกว่า น้ำจะวิกฤติที่สุด ก็จะเป็นตัวจุดชนวนให้ความขัดแย้งกลับมาอีก  สุดท้ายที่อยากจะฝากไว้ในการเตรียมภัย คือ “เตรียมใจ”  
"อาจารย์ยักษ์ ณ มหา’ลัยคอกหมู"








ข่าวที่เกี่ยวข้องละครของผู้นำโลกที่โคเปนเฮเกน 1

ยุทธการถอยหลังเข้าคลอง
"รักษ์ไม่จางที่บางปะกง 1"



NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

พัฒนาสู่ธุรกิจ บ้านไม้สำเร็จรูป ผลิตผลจากอาชีพรับเหมาก่อสร้าง

พัฒนาสู่ธุรกิจ บ้านไม้สำเร็จรูป
ผลิตผลจากอาชีพรับเหมาก่อสร้าง




คมชัดลึก : หากใครที่ชื่นชอบงานไม้แล้ว คงไม่มีใครปฏิเสธได้ว่าชีวิตนี้อยากที่จะมีบ้านไม้หลังงามๆ สักหลังไว้อยู่อาศัยเมื่อยามแก่เฒ่า และเพื่อเป็นการตอบโจทย์ของสังคมในปัจจุบัน ที่ต้องการความสะดวกสบาย ความรวดเร็ว บนพื้นฐานบ้านดีที่มีมาตรฐาน คุณภาพคงทนแข็งแรง ที่สำคัญราคาไม่แพงจนเกินกำลังของผู้บริโภค ด้วยเหตุนี้ "อัสนี ศรีทองคำ" อดีตนิสิตปริญญาโท คณะวิศวกรรมศาสตร์ จากมอดินแดง หรือที่รู้จักกันดีในนาม "ช่างเบิร์ด" เจ้าของกิจการ บ้านไม้ขอนแก่น จึงสร้างบ้านไม้เร็จรูป หรือบ้านน็อกดาวน์ (Nock Down) ขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า






   ช่างเบิร์ด วิศวกรหนุ่ม วัย 34 ปี เล่าให้ฟังว่า อยู่บ้านเลขที่ 177 หมู่ 7 ต.เมืองเก่า อ.เมือง จ.ขอนแก่น เรียนจบปริญญาตรี (วศ.บ.) และปริญญาโท (บธ.ม.,เอ็มบีเอ) สาขาวิศวกรรมโยธา คณะวิศวกรรมศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น หลังเรียนจบเคยทำอาชีพรับเหมาก่อสร้าง แต่ด้วยความที่เป็นคนชื่นชอบงานไม้ การตกแต่งภายใน และเล็งเห็นว่าบ้านไม้สำเร็จรูปในภาคอีสานยังไม่มีใครทำ จึงลองทำดูและได้รับการตอบรับจากลูกค้าดีพอสมควรจึงผันตนเองจากผู้รับเหมาก่อสร้างมาทำบ้านสำเร็จรูปอย่างเต็มตัว             “การทำบ้านสำเร็จรูปนี้เพิ่งทำได้เพียง 5 เดือน แต่มีลูกค้าสั่งทำเฉลี่ยเดือนละ 2 หลัง ถือว่าเป็นกระแสตอบรับที่ดีพอสมควร ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่อยู่ใน จ.ขอนแก่น ส่วนราคาขึ้นอยู่กับขนาดและความยากง่ายของแบบบ้าน โดยมีราคาต่ำสุดหลังละ 8 หมื่นบาท ไปจนถึง 5-6 แสนบาท โดยราคาบ้านทุกหลังได้รวมค่าขนส่ง ค่าตกแต่งภายใน โดยทางร้านได้ติดตั้งไฟฟ้าไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ลูกค้าเพียงแค่ต่อไฟฟ้าก็สามารถเข้าอยู่อาศัยได้ทันที บ้านแต่ละหลังไม่ว่าจะหลังใหญ่หรือหลังเล็กจะใช้เวลาทำเพียง 1 เดือนเท่านั้น”
   ช่างเบิร์ดเล่าต่ออีกว่า ไม้ที่ใช้สำหรับสร้างบ้านน็อกดาวน์ ทางร้านได้ซื้อแบบเหมาทั้งหลัง เพราะถ้าซื้อเป็นเมตรจะทำให้ต้นทุนสูงขึ้น ส่วนแบบบ้านนั้นลูกค้าสามารถเลือกแบบบ้านได้เอง โดยมีแบบให้เลือก หรือจะให้ที่ร้านออกแบบให้ก็ได้ โดยลูกค้าส่วนใหญ่ที่สั่งบ้านสำเร็จรูปจะเป็นลูกค้าที่ทำธุรกิจรีสอร์ท บ้านพักตากอากาศ
 "เรื่องฝีมือการันตีได้ เพราะช่างไม้ทั้ง 15 คน เป็นลูกน้องเก่าที่เคยทำงานด้วยกันตั้งแต่เมื่อครั้งผมยังรับเหมาก่อสร้างอยู่ ซึ่งทุกคนมีความชำนาญในรายละเอียดของการทำงานอยู่แล้ว โดยมีผมเป็นคนออกแบบและควบคุมการก่อสร้างเอง จึงมั่นใจได้ว่าบ้านไม้ที่สั่งทำจากที่นี่มีความมั่นคงแข็งแรง มีคุณภาพที่ได้มาตรฐาน คุ้มค่าราคาแน่นอน" ช่างเบิร์ด แจง
 นอกจากทำบ้านไม้น็อกดาวน์แล้ว ยังรับทำศาลา รับปรึกษาออกแบบงานก่อสร้างทั่วไป รับรื้อถอนบ้านไม้และโกดังเก่า ในปีนี้จะทำศาลาทรงไทยแบบเหนือ และจะทำให้ “บ้านไม้ขอนแก่น” เป็นศูนย์รวมบ้านไม้ทุกแบบ เพื่อให้มีแบบที่หลากหลาย เป็นตัวเลือกให้ลูกค้าได้มากขึ้น”
   "ค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนคิดเป็นค่าช่างเดือนละ 4.5 หมื่นบาท ค่าเช่าที่เดือนละ 3 หมื่นบาท ค่าไม้ซื้อเป็นราคาเหมาทั้งหลังซึ่งจะมีความแตกต่างกันออกไป เมื่อหักค่าใช้จ่ายต่างๆ แล้ว ธุรกิจบ้านไม้สำเร็จรูปนี้สร้างรายได้ให้ตนเดือนละหลายหมื่นบาท ซึ่งถือเป็นรายได้ที่น่าพอใจ ถึงแม้ธุรกิจนี้จะมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง แต่สิ่งที่ตนได้มานั้นมากกว่ารายได้ แต่เป็นความสุขที่ตนได้ทำในสิ่งที่มีความชอบ และรักที่จะทำ” ช่างหนุ่มกล่าว
 ส่วนผู้ที่ชื่นชอบบ้านไม้ หรือต้องการบ้านไม้สำเร็จรูปติดต่อช่างเบิร์ดได้ที่ 08-7428-2288 หรือใครที่ต้องการไปชมความงามของบ้านไม้ด้วยตนเองสามารถไปได้ที่ “บ้านไม้ขอนแก่น” ริมถนนมิตรภาพ (ขอนแก่น-โคราช) ใกล้สี่แยกเลี่ยงเมืองขอนแก่น-ชุมแพ   ขั้นตอนการทำบ้านไม้น็อกดาวน์                                                                                 สำหรับลักษณะเหมือนกับการสร้างบ้านทั่วไป คือ หลังจากที่ลูกค้าได้เลือกแบบบ้านที่ปัจจุบันนี้มีให้เลือกถึง 10 แบบด้วยกัน จากนั้นก็จะขึ้นโครงบ้าน หากเป็นหลังใหญ่ขนาดบ้าน 60 ตารางเมตร จะใช้เวลาในการขึ้นโครงบ้านประมาณ 3 วัน ซึ่งโครงบ้านจะมีลักษณะกึ่งรีสอร์ท ระดับสูงจากพื้นดินประมาณ 100 เมตร พร้อมกับทายากันปลวกให้เรียบร้อย
 ต่อมาหลังขึ้นโครงบ้านเสร็จ เราก็จะนำไม้เก่าที่ซื้อแบบเหมามาไส และตัดให้ได้ขนาดของแบบบ้าน เมื่อเสร็จขั้นตอนนี้ก็จะเปิดให้ลูกค้ามาดูไม้ที่ใช้ว่าพอใจหรือไม่ หากลูกค้าตกลงเราก็จะรื้อโครงบ้านน็อกดาวน์หลังดังกล่าวแล้วค่อยนำไปประกอบตามสถานที่ที่ลูกค้าต้องการ อาทิ บ้านสวน บ้านนา ซึ่งขั้นตอนนี้จะใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์
 ส่วนขั้นตอนสุดท้ายคือ การตกแต่งภายใน ทั้งทาสีบ้าน การเดินสายไฟ และฉนวนกันความร้อน และเก็บรายละเอียดต่างๆ ซึ่งขั้นตอนนี้ใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ก็เป็นอันเสร็จสิ้นของการสร้างบ้านไม้น็อกดาวน์ ซึ่งทุกขั้นตอนจะแล้วเสร็จภายใน 30 วัน           "ปาริชาติ พวงจำปา"










NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

โลกจะหอมฟุ้งหนักขึ้น อุณหภูมิสูงขึ้นบังคับพืชพันธุ์ส่งกลิ่นแรงขึ้น

โลกจะหอมฟุ้งหนักขึ้น อุณหภูมิสูงขึ้นบังคับพืชพันธุ์ส่งกลิ่นแรงขึ้น

รายงานการศึกษาทบทวนทางวิทยาศาสตร์ ครั้งใหญ่ส่อว่า ฤทธิ์เดชของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ จะบันดาลให้โลกมีกลิ่นหอมฟุ้งขึ้นยิ่งกว่าเก่ารายงานกล่าวว่า เมื่อระดับของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สูงขึ้น และอุณหภูมิโลกอุ่นขึ้น ก็จะเป็นเหตุให้การใช้ผืนดิน ปริมาณฝนฟ้า และการใช้น้ำ ก็จะต้องเปลี่ยนแปรไปด้วย ตามข่าวของสำนักข่าวบีบีซีกล่าวต่อไปว่า เหตุจากความแปรปรวนเหล่านี้ จะทำให้ พืชพันธุ์ต่างๆ พากันปล่อยสารเคมีที่มีกลิ่น อันเป็นสารประกอบอินทรีชีวภาพออกมา มีผลทำให้พืชพันธุ์จะปรับเปลี่ยน การทำปฏิกิริยาต่อกัน และการป้องกันแมลงรบกวนโลกอาจจะได้กลิ่นคลุ้งกว่าเดิมอยู่แล้ว เนื่องจากพืชพันธุ์ ต่างเริ่มปล่อยสารเคมีที่มีกลิ่นออกมา นายโจเซฟ พีนูลาส แห่งหน่วยนิเวศวิทยาโลก มหาวิทยาลัยแห่งบาร์เซโลนา ประเทศสเปนบอก มันได้แรงขึ้นเป็นทวีคูณ ในระยะช่วง 30 ปีที่แล้วมา อาจจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 10 อยู่แล้ว และในระยะ 10 ปีข้างหน้า หากโลกร้อนขึ้นอีก 2-3 องศา อย่างที่ทำนายไว้ จะสูงขึ้นเป็นร้อยละ 30 ถึง 40 ก็เป็นได้พืชจะปล่อยสารดังกล่าวออกมาตามธรรมชาติ หน้าที่หลักเพื่อช่วยการเจริญเติบโตและการย่อยอาหารให้เป็นพลังงาน เพื่อการติดต่อสื่อสารกับต้นอื่น และ ป้องกันตนเองจากสัตว์กินพืช อย่างเช่น สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่กินหญ้าและแมลงรบกวน.


NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

ไม่ควรใช้จีทีี200 โพลฟันธง ชาวบ้านสับสน

ไม่ควรใช้จีทีี200 โพลฟันธง ชาวบ้านสับสน

สวนดุสิตโพล ระบุ ชาวบ้านงง จีที 200 ใช้ได้หรือไม่ได้กันแน่ เหตุรัฐบาลกับทหารให้ข้อมูลขัดแย้งกัน 39.23% ขณะที่ความคิดเห็นส่วนมาก ระบุว่าไม่ควรใช้เครื่องนี้ต่อไป 52.38%...  เมื่อวันที่ 20 ก.พ.  สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต  เผยผลการสำรวจความเห็นในหัวข้อ  ประชาชนคิดอย่างไร? กับ เครื่อง GT200 ตามที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้เลิกใช้ GT200 และยืนยันชัดเจนแน่นอนแล้วว่า จะไม่มีการจัดซื้ออุปกรณ์นี้เพิ่มเติม โดยขอให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และคณะกรรมการตรวจสอบฯ โดยเฉพาะในส่วนผู้ทรงคุณวุฒิ ได้แจ้งผลของการทดลองและอธิบายความเข้าใจให้ตรงกัน ขณะที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก  แถลงยืนยันให้เจ้าหน้าที่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และหน่วยงานของกอทัพบก ใช้เครื่องตรวจหาวัตถุระเบิด GT200 ต่อไป เนื่องจากเจ้าหน้าที่ยืนยันว่า ใช้งานได้จริง สวนดุสิตโพล  สำรวจความเห็นจากกลุ่มตัวอย่างประชาชนทั่วประเทศ โดยเฉพาะผู้ที่อาศัยใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่มีต่อเครื่อง GT200 จำนวน 1,260 คน ระหว่างวันที่ 17-19 ก.พ.2553  ได้ผลสรุปดังนี้ 1.ความคิดเห็นของประชาชน กรณี นายกรัฐมนตรี  ให้เลิกใช้ GT200 แต่ทหารยังเห็นว่าใช้ได้อยู่ อันดับ 1 รู้สึกสับสนกับ GT200 ว่า จริงๆ แล้วใช้ได้หรือไม่กันแน่ / รัฐบาลกับทหารให้ข้อมูลขัดแย้งกัน 39.23% 2.อยากรู้ข้อข้อเท็จจริง ไม่ควรปิดบังข้อมูล / ควรคำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของพี่น้อง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นสำคัญ 27.20% อันดับ 3 อยากให้ตรวจสอบที่มาที่ไปของการจัดซื้อ GT200 อย่างละเอียด 19.83% อันดับ 4 เมื่อดูจากผลการทดสอบกับราคาที่ซื้อมาคิดว่าไม่คุ้มเท่าที่ควร 13.74% 2.เมื่อถามว่าประชาชนคิดว่า ควรใช้เครื่อง GT200 ต่อไปหรือไม่ อันดับ 1 ไม่ควรใช้ถึง 52.38% เพราะ จากผลการทดสอบพบว่าเครื่องมือยังไม่มีความแม่นยำพอ ไม่มั่นใจในประสิทธิภาพของเครื่อง ไม่ควรเอาชีวิตของพี่น้องประชาชนมาเสี่ยง ไม่คุ้มค่ากับงบประมาณที่เสียไป ฯลฯ อันดับ 2 ควรใช้ต่อไป 25.71% เพราะทหารได้ออกมายืนยันแล้วว่าเครื่อง GT200 สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และจะได้ไม่ต้องเสียงบประมาณในการสั่งซื้ออุปกรณ์ตัวใหม่ ฯลฯ และอันดับ 3 ไม่แน่ใน 21.91% เพราะฝ่ายทหารยืนยันว่า GT200 ใช้ได้แต่นายกรัฐมนตรี ประกาศว่าไม่ให้ใช้ เลยไม่รู้ว่าจะเชื่อใครดี, การทดสอบครั้งนี้ไม่มีสื่อมวลชน หรือบุคคลภายนอกเข้าไปร่วมสังเกตการ หรือเป็นสักขีพยาน ฯลฯ


NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

เด็กตาบอดร้อง ชัยวุฒิ ขอเพิ่มเวลาสอบโอเน็ต

เด็กตาบอดร้อง ชัยวุฒิ ขอเพิ่มเวลาสอบโอเน็ต

เด็กพิการทางสายตาเรียกร้อง รมช.ศึกษาฯ ให้เพิ่มเวลาในการทำข้อสอบโอเน็ต ระบุเหตุผลอ่านข้อสอบช้ากว่าเด็กปกติ ด้าน ชัยวุฒิ รับหลักการพร้อมให้โอกาส เผยทปอ.ลดค่าสอบGAT-PAT เหลือ 150 บาทต่อวิชาแล้ว เริ่ม ก.ค.53...เมื่อวันที่ 20 ก.พ. ที่โรงเรียนสันติราษฎร์วิทยาลัย นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมนางอุทุมพร จามรมาน ผู้อำนวยการสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) และคณะ ได้ตรวจเยี่ยมสนามสอบแบบทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นพื้นฐาน หรือ โอเน็ต ชั้น ม.6 ประจำปีการศึกษา 2552 โดยมีนายณัฐกิจ บัวขม ผู้อำนวยการ ร.ร.สันติราษฎร์วิทยาลัย ให้การต้อนรับ โดยช่วงเช้าเป็นการสอบวิชาสังคมศึกษา และที่สนามสอบ ร.ร.สันติราษฎร์วิทยาลัย มีนักเรียนพิเศษที่พิการทางสายตาร่วมสอบด้วย 5 คน ซึ่งจัดห้องสอบให้พิเศษ 5 ห้อง โดยมีครูช่วยอ่านข้อสอบให้ห้องละ 2 คน และนายชัยวุฒิ ได้ให้ความสนใจซักถามถึงความพึงพอใจในการสอบและปัญหาอุปสรรคของนักเรียนพิการทางสายตา โดยนายชลิต คูหาทอง นักเรียนพิการทางสายตา กล่าวว่า การแยกห้องสอบเป็นสิ่งที่ดี แต่ปัญหาของตน คือ เวลาสอบไม่เพียงพอ เพราะต้องใช้เวลาในการอ่านข้อสอบนานกว่าเด็กปกติ จึงอยากให้เพิ่มเวลาสอบสำหรับนักเรียนตาบอดด้วย ส่วน น.ส.ธารทิพย์ มากคุ้ม นักเรียนพิการทางสายตาอีกคน กล่าวเช่นเดียวกันว่าอยากให้เพิ่มเวลาสอบสำหรับเด็กพิการ เพราะเด็กปกติสามารถกวาดสายตาอ่านข้อสอบได้อย่างรวดเร็ว แต่เด็กพิการทางสายตาต้องคอยฟังครูอ่านคำถามและคำตอบ ซึ่งต้องใช้เวลามากกว่าปกตินายชัยวุฒิ กล่าวภายหลังว่า การจัดสอบในภาพรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย แต่ยังคงพบปัญหาว่า เด็กนักเรียนลืมบัตรประจำตัวประชาชน หรือบัตรนักเรียน ที่มีรูปแสดงตน มายื่นแสดงตัวตนก่อนเข้าห้องสอบ โดยคนที่ลืมก็ไม่สามารถเข้าสอบได้ ส่วนการทุจริตยังไม่มีรายงาน สำหรับข้อเรียกร้องของเด็กพิการทางสายตานั้น ตนเห็นด้วยในหลักการ อีกทั้งทาง สทศ.ก็รับปัญหาไปพิจารณา ที่จะต้องหารือกับทางสำนักงานการศึกษาพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ก่อน เพื่อหาแนวทางปรับเวลาสอบให้เหมาะสมกับนักเรียนพิการ แม้จะมีจำนวนไม่มากนัก แต่กระทรวงศึกษาธิการ ก็พร้อมจะให้โอกาสกับเด็กทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน ส่วนในปีนี้รูปแบบข้อสอบโอเน็ต ม.6 มีการปรับเปลี่ยน และแจ้งให้นักเรียนทราบล่วงหน้า 1 เดือน แต่ถูกนักเรียนและผู้ปกครองจำนวนหนึ่งต่อว่ามานั้น รมช.ศึกษาธิการ กล่าวว่า จากการสอบถามนักเรียนที่สนามสอบ ร.ร.สันติราษฎร์ฯ ทุกคนก็บอกว่า อ่านคำสั่งแล้วก็เข้าใจ ไม่มีปัญหา โดยส่วนตัวเห็นว่า หากผู้สอบมีการเตรียมตัว มีเนื้อหาที่แน่น ไม่ว่าข้อสอบจะเป็นรูปแบบใดก็ทำได้ทั้งนั้นนายชัยวุฒิ ยังกล่าวถึงข้อเสนอของ นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ให้ที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) ลดค่าสอบแบบวัดความถนัดทั่วไป (GAT) และ แบบวัดความถนัดทางวิชาชีพ/วิชาการ (PAT) วิชาละ 200 บาทว่า ทางนายประสาท สืบค้า อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ในฐานะประธาน ทปอ.ได้ส่งหนังสือแจ้ง สทศ.อย่างเป็นทางการ ให้ลดค่าสอบเหลือวิชาละ 150 บาท โดย สทศ.จะปรับลดบางบริการ เช่น ค่าส่งคะแนนสอบทางไปรษณีย์ถึงตัวนักเรียน ตกคนละ 20 บาท โดยประกาศผลผ่านทางเว็บไซต์อยู่แล้ว และลดค่าบริหารจัดการ โดย สทศ.จะตรวจกระดาษคำตอบเอง และค่าใช้จ่ายเรื่องงานวิจัย ทั้งนี้ในปีนี้ลดลงได้รวม 50 บาท จะเริ่มได้ในการสมัครสอบเดือน ก.ค.นี้.

NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

เชียงใหม่ดันโครงการ ไถหลบซังข้าว ลดโลกร้อน

เชียงใหม่ดันโครงการ ไถหลบซังข้าว ลดโลกร้อน

เป็นปุ๋ยอินทรีย์ที่มีประโยชน์ต่อนาข้าวแถมยังจะช่วยลดการใช้ปุ๋ยเคมี โดยจัดอบรมให้เกษตรกรรู้ถึงประโยชน์จากการไถกลบตอซังที่ถูกต้องและเหมาะสม...นายไพโรจน์ แสงภู่วงษ์ รอง ผู้ว่าราชาการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวในการเปิดโครงการรณรงค์ไถกลบตอ-ซังข้าว  จัดขึ้นโดยสำนักงานพัฒนาที่ดินเขต 6 ที่บ้านป่าสักขวาง อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ เพื่อบรรเทาภาวะโลกร้อนว่า โครงการนี้ทำขึ้น โดยให้เกษตรกรรู้ถึงประโยชน์จากการไถกลบตอซังที่ถูกต้องและเหมาะสม ขณะเดียวกันตอ ซังข้าว ที่ไถกลบยังจะเป็นปุ๋ยอินทรีย์ที่มีประโยชน์ต่อนาข้าว นอกจากนั้นยังจะช่วยลดการใช้ปุ๋ยเคมีและสารเคมีลดด้วย ด้าน นายอัครเดช บุญผ่องศรี ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาที่ดิน เขต 6 กล่าวว่า ปัจจุบันได้ มีการสาธิตการนำตอซังข้าวที่เหลือใช้จากไร่นามาเป็นวัสดุในการบำรุงดิน โดยผสมผสานกับผลิตภัณฑ์เทดโนโลยีชีวภาพ 12 มหัศจรรย์  ประสบความสำเร็จมาแล้วในหลายพื้นที่


NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

เกษตรฯเมืองสิงห์ แนะวิธีปราบหนูนา

เกษตรฯเมืองสิงห์ แนะวิธีปราบหนูนา

ปรับปรุงคันนาให้เล็ก กำจัดวัชพืชไม่ให้เป็นที่อยู่อาศัย วางกับดักบริเวณทางเดิน ขุดรูหนูกำจัดทั้งรัง และอนุรักษ์สัตว์นักล่าหนูกินเป็นอาหาร...นายสมนึก เพชรช่วย รักษาราชการแทนเกษตรสิงห์บุรี กล่าวถึงวิธีป้องกันกำจัดหนูที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ว่า เกษตรกรควรปรับปรุงสภาพแวดล้อมไม่ให้เหมาะสมเป็นที่อยู่อาศัยของหนู ได้แก่ 1.ปรับคันนาให้เล็กเพียงพอที่กักเก็บน้ำ กำจัดวัชพืชเพื่อไม่ให้เหมาะสมเป็นที่อยู่อาศัย และแหล่งหลบซ่อนจากศัตรูธรรมชาติ 2.ดักจับโดยใช้กับดักหรือกรง โดยดักบริเวณทางเดินหรือแหล่งที่อยู่ของหนู 3.การขุดหนูสามารถกำจัดได้ทั้งรัง 4.การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติได้ เช่น งูชนิดต่างๆ พังพอน นกฮูก ฯลฯ สัตว์เหล่านี้จะจับหนูกินเป็นอาหาร 5.การใช้สารเคมีป้องกันกำจัด แต่ควรเป็นวิธีสุดท้าย ทั้งนี้หากพบการระบาดให้แจ้งที่ สำนักงานเกษตรอำเภอ และศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตรในเขตพื้นที่


NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

เตือนพบโรคระบาดในมันสำปะหลัง

เตือนพบโรคระบาดในมันสำปะหลัง

ขอให้เกษตรกรหลีกเลี่ยงการปลูกไปก่อน เพราะอยู่ในช่วงหน้าแล้งและกำลังมีการระบาดของเพลี้ยแป้งสีชมพู ไม่ให้มีการกระจายในวงกว้าง...นายปวิต ถมยาวิทย์ เกษตรและสหกรณ์อุดรธานี กล่าวว่า ในระยะนี้ขอให้เกษตรกรหลีกเลี่ยงการปลูกมันสำปะหลังไปก่อน เพราะอยู่ในช่วงหน้าแล้งและกำลังมีการระบาดของเพลี้ยแป้งสีชมพู ช่วงปลูกที่เหมาะสม คือ ช่วงฤดูฝน คือประมาณเดือน เม.ย. – พ.ค.ของฤดูปลูกปี 2553 ที่สำคัญก่อนปลูกต้องชุบท่อนพันธุ์ด้วยสารฆ่าแมลงสารไทอะมิโทแซมทุกครั้ง และอย่านำท่อนพันธุ์จากแหล่งที่เคยระบาดของเพลี้ยแป้งมาปลูก นอกจากนี้ก็ต้องออกสำรวจแปลงแป้งมันสำปะหลัง หากพบการระบาด ขอให้รีบแจ้งให้เจ้าหน้าที่เกษตรตำบลหรือเกษตรอำเภอท้องที่โดยด่วนที่สุด เพราะจะได้ช่วยกันควบคุมและป้องกันมิให้เพลี้ยแป้งสีชมพูระบาดเป็นวงกว้างและยากต่อการควบคุม.


NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

ไทยเจ๋ง พัฒนาโคนม พันธุ์ทรอปิคอลโฮลสไตน์

ไทยเจ๋ง พัฒนาโคนม พันธุ์ทรอปิคอลโฮลสไตน์

ดีเด่นในด้านความสมบูรณ์พันธุ์ ความต้านทานโรคเต้านมอักเสบ ช่วยให้เกษตรกรได้โคนมเยี่ยมที่สุดในอาเซียน ส่งออกไปเวียดนาม และมาเลเซีย...นายปรีชา สมบูรณ์ประเสริฐ อธิบดีกรมปศุสัตว์ เผยว่า กรมปศุสัตว์ประสบความสำเร็จในการพัฒนาโคนมพันธุ์ ทรอปิคอลโฮลสไตน์ โคนมสายเลือดไทย ให้มีความดีเด่นในด้านความสมบูรณ์พันธุ์ ความต้านทานโรคเต้านมอักเสบ เพื่อช่วยให้เกษตรกรได้โคนมที่มีพันธุกรรมยอดเยี่ยมที่สุดในอาเซียน ส่งออกแม่โคนมของไทยไปเวียดนาม และมาเลเซีย และยังเป็นเจ้าภาพจัดอบรมถ่ายทอดความรู้ด้านการผสมเทียมและปรับปรุงพันธุ์ให้แก่ประเทศเพื่อนบ้าน เช่น พม่า กัมพูชา ฟิลิปปินส์ เนื่องจากประเทศไทยเป็นประเทศเดียวในอาเชียนที่มีความพร้อมและประสบความสำเร็จในการพัฒนาจนได้พันธุ์โคนมที่ให้ผลผลิตดีเลี้ยงง่าย ภายใต้ภูมิภาคอากาศแบบร้อนชื้นของอาเซียน


NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

แนะใช้เกษตรอินทรีย์ลดการใช้สารเคมี

แนะใช้เกษตรอินทรีย์ลดการใช้สารเคมี

เพื่อลดใช้สารเคมีทางการเกษตรแล้วจำนวน 53,030 กลุ่ม เกษตรกรจำนวน 2.65 ล้านคน พัฒนาเข้าสู่ระบบเกษตรอินทรีย์ตามมาตรฐาน... นายฉลอง เทพวิทักษ์กิจ รองอธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน เปิดเผยว่า ได้ดำเนินโครงการส่งเสริมการใช้สารอินทรีย์เพื่อลดการใช้สารเคมีทางการเกษตร โดยเริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2550-2552 และได้จัดตั้งกลุ่มเกษตรกรใช้สารอินทรีย์ เพื่อลดใช้สารเคมีทางการเกษตรแล้วจำนวน 53,030 กลุ่ม เกษตรกรจำนวน 2.65 ล้านคน โดยมีบางกลุ่มเกษตรกรที่มีความเข้มแข็ง สามารถพัฒนาศักยภาพเป็นกลุ่มเกษตรอินทรีย์ตามมาตรฐานระดับต่างๆ ได้ ดังนั้นเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมของเจ้าหน้าที่กรมพัฒนาที่ดิน ในการให้คำแนะนำการผลิตเกษตรอินทรีย์ ให้กับกลุ่มเกษตรกรที่มีความพร้อมจะพัฒนาเข้าสู่ระบบเกษตรอินทรีย์ตามมาตรฐาน IFOAM และ Organic Thailand กรมพัฒนาที่ดิน ได้จัดฝึกอบรมการพัฒนาวิทยากรระดับพื้นที่ ด้านมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ โดยในปีนี้จะอบรมเพิ่มเติมอีก 2 หลักสูตร คือ การให้คำแนะนำสำหรับการขอรับรองผลิตพืชอินทรีย์และการขอรับรองผลิตเกษตรอินทรีย์ตามมาตรฐานสากล เพื่อให้วิทยากรระดับพื้นที่ของกรมพัฒนาที่ดิน มีความรู้และความเข้าใจ ในการผลิตพืชอินทรีย์ (Organic Thailand) และเกษตรอินทรีย์ตามมาตรฐานสากล (IFOAM) นอกจากนี้ยังจะพัฒนาศักยภาพของวิทยากรระดับพื้นที่ เพื่อทำหน้าที่วิทยากรแกนหลักในการส่งเสริมและให้คำแนะนำกับกลุ่มเกษตรกรฯ ให้สามารถปรับเปลี่ยนไปสู่การผลิตระบบเกษตรอินทรีย์ตามมาตรฐานระดับต่างๆ ต่อไป.


NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

ตะลึง เกษตรฯพบปุ๋ย ไร้มาตรฐาน 79ตัวอย่าง

ตะลึง เกษตรฯพบปุ๋ย ไร้มาตรฐาน 79ตัวอย่าง

สั่งการให้กรมส่งเสริมสหกรณ์ กรมวิชาการเกษตร และสารวัตรเกษตร ลงพื้นที่ตรวจสอบและให้ดำเนินคดีอย่างเฉียบขาดทันที...นายศุภชัย โพธิ์สุ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวกรณี กรมส่งเสริมสหกรณ์ตรวจพบปุ๋ยเคมี และปุ๋นอินทรีย์ ไม่ได้มาตรฐาน วางจำหน่ายในสหกรณ์การเกษตรทั่วประเทศ โดยเฉพาะปุ๋ยอินทรีย์ที่ตรวจวิเคราะห์พบคุณภาพไม่ได้มาตรฐาน ได้สั่งการให้กรมส่งเสริมสหกรณ์ กรมวิชาการเกษตร และสารวัตรเกษตร ลงพื้นที่ตรวจสอบและให้ดำเนินคดีอย่างเฉียบขาดทันที สำหรับการตรวจสอบครั้งนี้ได้เก็บตัวอย่างปุ๋ยจากสหกรณ์การเกษตรทั่วประเทศ 3,535 ตัวอย่าง ตรวจสอบในห้องปฏิบัติการแล้ว 207 ตัวอย่าง แบ่งเป็นปุ๋ยเคมี 180 ตัวอย่าง พบว่าไม่ผ่านมาตรฐาน 79 ตัวอย่าง หรือคิดเป็นร้อยละ 44 ขณะที่ปุ๋ยอินทรีย์ ตรวจวิเคราะห์แล้ว 79 ตัวอย่าง ไม่ผ่านมาตรฐานทั้งหมด


NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

ก.เกษตรชงแผน พัฒนา ลุ่มน้ำปากพนัง

ก.เกษตรชงแผน พัฒนา ลุ่มน้ำปากพนัง

นายธีระ วงศ์สมุทรตามพระราชดำริเพื่อพัฒนาอาชีพ  ยกระดับรายได้เกษตรกร 1.4 แสนครัวเรือน แบ่งเป็น 5 ยุทธศาสตร์  เสนอผ่าน กปร.เพื่อให้นายกฯ พิจารณา ...นายธีระ วงศ์สมุทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงวางพระราชหฤทัยให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ดำเนินงานในโครงการพระราชดำริหลายโครงการ อาทิ โครงการลุ่มน้ำปากพนัง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ เพื่อพัฒนาอาชีพเกษตรกรประมาณ 1.4 แสนครัวเรือน ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 1.98 ล้านไร่ โดยจัดทำแผนแม่บทการพัฒนาอาชีพและส่งเสริมรายได้ภาคเกษตรปีงบประมาณ 2553-2556 เพื่อยกระดับรายได้ของเกษตรกร ในพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังที่เป็นพื้นที่บางส่วนใน 3 จังหวัด คือ นครศรีธรรมราช พัทลุง และสงขลา ให้เพิ่มขึ้นจากปัจจุบันร้อยละ 20 ในปี 2556รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวต่อว่า โครงการลุ่มน้ำปากพนัง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ได้แบ่งเป็น 5 ยุทธศาสตร์ ได้แก่ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การพัฒนาการผลิต การเพิ่มมูลค่าผลผลิตและการแปรรูป การพัฒนาอาชีพเสริมเพิ่มรายได้ และการบริหารจัดการและติดตามผล และกำหนดเขตพัฒนาออกเป็น 6 เขต ตามศักยภาพและความเหมาะสมของพื้นที่ ได้แก่ เขตปลูกข้าวเพื่อการค้า พื้นที่ 600,500 ไร่ เขตปลูกข้าวเพื่อบริโภค พื้นที่ 195,000 ไร่ เขตปลูกปาล์มน้ำมันพื้นที่ 533,700 ไร่ เขตปลูกไม้ผล-ยางพารา พื้นที่ 147,503 ไร่ เขตเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ พื้นที่ 110,284 ไร่ และเขตป่าไม้ พื้นที่เขตป่าไม้ 313,038 ไร่ และพื้นที่ป่าชายเลน 43,934 ไร่ รวมวงเงินงบประมาณรวม 3,874 ล้านบาทในระยะเวลา 4 ปีนายธีระ กล่าวต่ออีกว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงวางพระราชหฤทัยให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ดำเนินงานในโครงการพระราชดำริหลายโครงการ สำหรับโครงการลุ่มน้ำปากพนัง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ เพื่อพัฒนาอาชีพเกษตรกร ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 1.98 ล้านไร่ ขณะนี้ กระทรวงเกษตรฯ ได้นำเสนอแผนผ่านเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (กปร.) แล้ว เพื่อนำเสนอต่อนายกรัฐมนตรี เพื่อผลักดันให้เกิดเป็นรูปธรรมตามพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อเกษตรกรลุ่มน้ำปากพนังเป็นอย่างยิ่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวด้วยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติกรอบวงเงินให้กระทรวงเกษตรฯ ดำเนินการแก้ปัญหาและชดเชยความเสียหายจากเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลระบาดในนาข้าว 1,240 ล้านบาท ขณะนี้ คณะทำงานกำลังเร่งสำรวจพื้นที่และจำนวนเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ เพื่อเร่งไถกลบนาข้าวที่มีปัญหาให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว เป็นการตัดวงจรเพลี้ยกระโดดไม่ให้ระบาดขยายวงกว้างเพิ่มอีก หลังจากนั้น จะสามารถจ่ายค่าชดเชยความเสียหายให้ชาวนาเป็นเงินสดไร่ละ 2,280 บาท ไถกลบและแจกพันธุ์ข้าวปลูกที่ต้านทานเพลี้ยกระโดด 15 กิโลกรัม/ไร่ เพื่อให้เริ่มปลูกใหม่ ในเดือนพ.ค.   คาดว่าค่าชดเชยจะถึงมือชาวนาภายในเดือน มี.ค.2553


NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

กรมประมง ประกาศปิดอ่าว3เดือน

กรมประมง ประกาศปิดอ่าว3เดือน

เพื่อดูแลรักษาทรัพยากรสัตว์น้ำ ช่วงฤดูวางไข่ ระหว่างวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 15 พฤษภาคมของทุกปี ฝ่าฝืนจับจริงปรับจริง...นางสมหญิง เปี่ยมสมบูรณ์ อธิบดีกรมประมง กล่าวว่า ขณะนี้เป็นช่วงฤดูที่สัตว์น้ำในฝั่งทะเลอ่าวไทยกำลังมีไข่ วางไข่ และเลี้ยงตัวในวัยอ่อน กรมประมงตระหนักถึงความสำคัญและจำเป็นที่จะต้องดูแลรักษาทรัพยากรสัตว์น้ำเหล่านี้เอาไว้ จึงได้กำหนดให้มีการใช้มาตรการบริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำ ด้านทะเลฝั่งอ่าวไทย เป็นระยะเวลา 3 เดือน ระหว่างวันที่ 15 ก.พ. ถึงวันที่ 15 พ.ค.ของทุกปี หากมีการฝ่าฝืนใช้เครื่องมือต้องห้ามทำการประมงในพื้นที่ที่ได้ประกาศปิดอ่าวฯ ต้องระวางโทษปรับตั้งแต่ 5,000 บาทถึง 10,000 บาท หรือ จำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือทั้งปรับทั้งจำ กรณีพบเห็นการกระทำผิด แจ้งได้ที่ โทร.0-7752-2003 ตลอด 24 ชั่วโมง


NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

รัฐบาลโต้ข่าว ระบายสต็อกข้าว 2ล้านตัน

รัฐบาลโต้ข่าว ระบายสต็อกข้าว 2ล้านตัน

รองเลขาธิการนายกฯ ย้ำข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง ยันไม่ได้เป็นมติของ กขช.ด้าน ไตรรงค์ เตรียมนัดสมาคมโรงสีข้าวหารือ...นายธราดล เปี่ยมพงศ์สานต์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง (นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายเศรษฐกิจ)  ปฏิเสธกรณีมีระบุว่า รัฐบาลจะระบายข้าวในสต๊อกออกสู่ตลาด 2 ล้านตัน ยืนยันว่าข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง และไม่ได้เป็นมติของที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ หรือ กขช.จึงจำเป็นต้องชี้แจง เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อราคาข้าวในภาพรวม รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง  กล่าวด้วยว่า นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายเศรษฐกิจ มีความเป็นห่วงเรื่องนี้ จึงได้นัดสมาคมโรงสีข้าวเข้าหารือ ที่ทำเนียบรัฐบาล ในวันอาทิตย์ที่ 21 ก.พ. เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและรับฝังนโยบายเรื่องข้าวที่ชัดเจนจากรัฐบาล


NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

คลังสมองของหนูข้าวกล่องน่ากินภาพหนังสือส่งแสกน

คลังสมองของหนูข้าวกล่องน่ากินภาพหนังสือส่งแสกน



คมชัดลึก : "ข้าวกล่องน่ากิน" ผลงาน ณัฎฐนิช พุฒิพิทยาธร จัดพิมพ์โดยสำนักพิมรักลูกบุ๊กส์ ภายในเล่มแนะนำเมนู "ข้าวกล่อง" หน้าตาน่ารัก 50 เมนูพร้อมภาพประกอบสวยงาม ช่วยคุณแม่ใช้เมนูข้าวกล่องเหล่านี้จูงใจให้ลูกวัย 0-6 ขวบหันมากินผักและผลไม้






เพราะ แค่ยอมอดทนตื่นเช้าขึ้นอีกนิด เสียเวลาเพิ่มอีกหน่อย ไม่เกิน 15 นาทีเท่านั้น แล้วลงมือปรุงอาหาร บรรจงจัดอาหารลงกล่อง เติมนั่นนิด เติมนี่หน่อย คุณแม่อยากให้ลูกกินอะไร คุณค่าอาหารแบบไหนที่ต้องการบอกได้เลยว่า อาหารกล่องที่คุณแม่ทำสุดฝีมือสามารถตอบโจทย์เหล่านี้ได้ครบถ้วน แค่ทุกเช้าหรือทุกกลางวัน ลูกเปิดฝากล่องแล้วเห็นความรักของคุณแม่ลอยอบอวลอยู่ข้างใน แค่นี้ก็คุ้มค่ากับการลงแรงกายและใจแล้ว" คุณแม่ที่สนใจหาซื้อหนังสือเล่มนี้ได้ตามร้านหนังสือชั้นนำทั่วไป








ข่าวที่เกี่ยวข้องเปิดราบ11เยี่ยมครัวทหาร-บ้านเฮี้ยน!นครบาลจัดรถขยายเสียงเคลื่อนที่รับเสื้อแดง ปล่อยดาราดัง"แอนดรูว์-ศุมภร"คดียาไอซ์อย่าลืมหนู!!!ถึงผู้ว่าฯ กทม.

NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

ละครหุ่นมือร.ร.บ้านลาดวิทยาอนุรักษ์นกป่าชายเลน

ละครหุ่นมือร.ร.บ้านลาดวิทยาอนุรักษ์นกป่าชายเลน



คมชัดลึก :ผลจากการพาเด็กๆ ชมรมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โรงเรียนบ้านลาดวิทยา จ.เพชรบุรี สำรวจธรรมชาติอนุรักษ์แม่น้ำเพชร ควบคู่ไปกับกิจกรรมดูนก วาดภาพระบายสี จดบันทึกรายละเอียด ฝึกการแสดงละครหุ่นมือ กับวิทยากรเจ้าขุนทอง ที่สนับสนุนโดย สมาคมอนุรักษ์นกและธรรมชาติแห่งประเทศไทย เมื่อปี 2551






ทำให้ บุญรอด เขียวอยู่ หรือครูน้อย ครูที่ปรึกษาชุมนุมอนุรักษ์ธรรมชาติ ก่อตั้งละครหุ่นมือ ศิลปะร่วมสมัยที่ผสมผสานการเชิดหุ่นของไทย ประยุกต์เข้ากับละครเวทีเป็นศิลปะสมัยใหม่ ใช้หุ่นมือเป็นสื่อนำเสนอเรื่องราวต่างๆ ทำให้ผู้ชมเกิดจินตนาการกว้างไกลกว่า สามารถสื่อสารได้ง่ายกว่าการใช้ผู้แสดงเป็นคนหรือสัตว์จริงๆ จนได้รับการสนับสนุนด้วยดีจาก มงคล ชูวงษ์วัฒนะ ผู้อำนวยการโรงเรียน
พร้อมทั้งเปิดให้นักเรียนเข้ามามีส่วนร่วมคิดร่วมทำ จะเห็นได้จากตัวหุ่นทำจากแผ่นฟองน้ำ ฉีดสเปรย์เพิ่มสีสันฝีมือของ อติพร มีแก้ว หรือน้องอุ้ม อายุ 17 ปี นักเรียนชั้น ม.5 โรงเรียนบ้านลาดวิทยา ร่วมมือประดิษฐ์กับเพื่อนๆ นักเรียนกลุ่มชุมนุมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โรงเรียนบ้านลาดวิทยา ภายใต้ชื่อคณะละครหุ่นมือ “กลุ่มประกายดิน” คิดเนื้อเรื่องสร้างตัวละคร สะท้อนให้ผู้ชมฉุกคิดอนุรักษ์พื้นที่ป่าชายเลน
เนื้อหาเกี่ยวกับ นกชายเลนปากช้อน อพยพจากไซบีเรียเข้ามาในประเทศไทย สภาพถิ่นที่อยู่อาศัยจากเดิมที่เป็นพื้นที่ป่าชายเลนเปลี่ยนแปลงไป มีบ้านพักอาศัยของมนุษย์มาแทนที่ ฝูงนกจึงต้องบินไปหาที่อยู่ใหม่ ด้วยพื้นที่ป่าชายเลนลดน้อยลง ทำให้นกชายเลนปากช้อนถูกจับตัวไป สุดท้ายได้รับการช่วยเหลือจนหลุดพ้นอันตราย
 น้องอุ้ม ร่วมแต่งเรื่องราวกับเพื่อนๆ สะท้อนความสำคัญพื้นที่ป่าชายเลนแหล่งที่อยู่อาศัยนกชายเลนปากช้อน ถูกคุกคามจากการรบกวนของมนุษย์ ซึ่งเป็นนกขนาดเล็กยาวประมาณ 15 เซนติเมตร มีลักษณะเด่นพิเศษสะดุดตาต่างออกไปจากนกชายเลนทั่วไป ตรงบริเวณปากสีดำ แผ่แบนกว้างออกเด่นชัด บริเวณช่วงปลายปาก มองดูคล้ายช้อนหรือใบพาย ที่ใกล้จะสูญพันธุ์พบประมาณ 20 ตัว บริเวณบ้านปากทะเล อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี จุดดูนกชายเลนปากช้อนที่ดีที่สุดในประเทศไทย ซึ่งเขาหวังว่าการแสดงละครหุ่นมือของกลุ่มประกายดิน จะมีส่วนช่วยให้ผู้ชมการแสดงเก็บไปเป็นแง่คิดและตระหนักในสิ่งที่เกิดขึ้น เพื่อช่วยกันดูแลไม่บุกรุกทำลายพื้นป่าชายเลน
สมัชญา ทองสุข หรือน้องกิ๊ฟ อายุ 17 ปี ตำแหน่งผู้เชิดหุ่นมือ บอกว่า ทุกครั้งที่แสดงต้องรู้สึกมีอารมณ์ร่วมไปกับหุ่นที่เชิด ทั้งการคิด ตลอดจนท่าทางการแสดงออก ให้หุ่นมีชีวิตด้วยเทคนิค มือขวาสวมหุ่นบังคับปากตามคำพูดเสียงพากย์ มือซ้ายจับไม้เชิดแขนเจ้าหุ่น ท่วงท่าการเคลื่อนไหว แขนต้องสัมพันธ์จังหวะก้าวเท้าด้วย จากกิจกรรมที่ทำไม่กระทบต่อผลการเรียน ตรงข้ามช่วยฝึกฝนสมาธิ เกิดทักษะทางความคิด ให้กล้าแสดงออกอย่างเหมาะสม
ส่วน จารุวรรณ นกแก้ว หรืออ้อม อายุ 16 ปี ตำแหน่งพากย์เสียง บอกวิธีดึงดูดผู้ชมการแสดง ว่าต้องอาศัยความหลากหลายของตัวละครหุ่น อาทิ นกชายเลนปากช้อน นกกินเปี้ยว นกกวัก ปลาตีน เป็นต้น รวมทั้งเสียงดนตรีที่ผสมผสานเข้ากับเสียงพากย์ที่บันทึกเสียงไว้ ทำให้ตัวผู้เล่นกับหุ่นมือโลดแล่นไปตามจังหวะของเรื่องที่ผู้เชิดตัวละครต่างรู้จังหวะการเชิดเป็นอย่างดี
เช่นเดียวกับ กนกพร วิจารณ์ หรือน้องเมย์ อายุ 17 ปี บอกว่า สมาชิกผู้แสดงหุ่นมือทั้ง 10 คน ได้ลงมือคิดทำด้วยตนเอง ตั้งแต่การวางแผนขั้นตอนการทำงานร่วมกับผู้อื่น การออกแสดงรณรงค์สร้างจิตสำนึกอนุรักษ์พื้นที่ป่าชายเลนในสถานที่ต่างๆ อาทิ งานเทศกาลดูนกเมืองไทย ครั้งที่ 8 ที่สวนรถไฟ งานเปิดบ้านรักษ์นก โดยการท่าเรือแห่งประเทศไทย ที่สถานตากอากาศบางปู จ.สมุทรปราการ สิ่งเหล่านี้ล้วนสร้างจิตอาสาให้เกิดขึ้นแก่เยาวชน พร้อมได้รับทักษะชีวิตที่หาไม่ได้ในห้องเรียนโรงเรียนที่สนใจการเชิดละครหุ่นมืออนุรักษ์นกท้องถิ่นสอบถามได้ที่ มงคล ชูวงษ์วัฒนะ ผู้อำนวยโรงเรียนบ้านลาดวิทยา โทร.08-1937-0141
    0 หทัยรัตน์   ดีประเสริฐ 0








ข่าวที่เกี่ยวข้องสอนเด็กรุ่นใหม่เรียนรู้ภารกิจเพื่อมนุษยชาติ



NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

แบ่งปันการเรียนรู้ประจำวันที่ 20 มี.ค.

แบ่งปันการเรียนรู้ประจำวันที่ 20 มี.ค.





คมชัดลึก : 0 ค่าย BRAIN-BASED LEARNING CAMP เชิญชวนเยาวชนชาย-หญิง อายุระหว่าง 8-15 ปี เข้าค่าย BRAIN-BASED LEARNING CAMP ซีเอ็ดคิดดีเเคมป์ รุ่นที่ 41 วันที่ 23-26 มี.ค. ณ เขาใหญ่สราญรมย์ รีสอร์ท อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา






เพื่อสนับสนุนให้เยาวชนได้เรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ ฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์เเบบตรรกะหาเหตุผลเพื่อแก้ปมปัญหาในกิจกรรมเกมวางเเผนต่างๆ สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ ค่าใช้จ่ายคนละ 5,900 บาท สอบถามโทร.0-2657-6003-4 
 0 ค่ายรู้ทันใจ Self Discovery Camp ค่ายรู้ทันใจสำหรับเด็กวันที่ 23-27 มี.ค. มุ่งเน้นพัฒนาการเรียนรู้ด้วยการฝึกสติและสมาธิอย่างมีความสุขผ่านกิจกรรมที่หลากหลายผสานการเรียนรู้และคุณธรรมอย่างสมวัย ภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิดของคุณครูผู้เชี่ยวชาญ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่คุณปพิชญา โทร.0-2717-5111 หรือ 08-6984-9977 หรือ www.primapublishing.co.th
  0 สนุกกับจินตนาการในศิลปะไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ร่วมกับคณะจิตรกรรมประติมากรรมและภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร เชิญชวนเยาวชนอายุระหว่าง 12-18 ปีใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ในช่วงปิดเทอมนี้ เรียนรู้ศิลปะไทย ในโครงการฝึกทักษะศิลปะในหัวข้อ “สนุกกับจินตนาการในศิลปะไทย” โดยทีมอาจารย์และนักศึกษาจากคณะจิตรกรรมประติมากรรมและภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ทุกวันเสาร์ที่ 3, 17, 24 เม.ย. และ 1 พ.ค.นี้ รวม 4 ครั้ง ณ พิพิธภัณฑ์ธนาคารไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ ตั้งแต่เวลา 09.30-17.00 น. ไม่เสียค่าใช้จ่าย รับสมัครถึงวันที่ 29 มี.ค. สอบถามได้ที่โทร.0-2544-3858 หรือ  0-2544-4525-7








ข่าวที่เกี่ยวข้องธรรมะเกลาใจวัยใส
ศิลปะพัฒนาอารมณ์ระบบคิดสติปัญญามุมมองใหม่-สอนเลี้ยงควาย-ทำนาปลูกฝังนักเรียนรู้พอเพียง เลาะรั้วท้องถิ่น (อังคารที่ 29 ธ.ค.52)ภาพวาดจินตนาการเด็กปลูกจิตสำนึกให้รักชาติ

NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

เตรียมรับสมัคร GAT/PAT ครั้งที่ 2 เริ่มเดือน พ.ค.นี้

เตรียมรับสมัคร GAT/PAT ครั้งที่ 2 เริ่มเดือน พ.ค.นี้

ทปอ. ให้ปรับลดค่าสมัครสอบ GAT/PAT ครั้งที่ 2/2553 ซึ่งจะเริ่มสมัคร 1-30 พ.ค. นี้ เหลือวิชาละ 150 บาท...ตามที่ที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) จะปรับลดค่าสมัครสอบแบบวัดความถนัดทั่วไป หรือ GAT และแบบวัดความถนัดทางวิชา ชีพ/วิชาการ หรือ PAT จากวิชาละ 200 บาท เหลือวิชาละ 150 บาท ตามนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ซึ่งทำให้สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) ปรับลดค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่ไม่จำเป็น ทั้งปรับการบริหารจัดการเพื่อลดค่าดำเนินการบางส่วนลงนั้น ศ.ดร.อุทุมพร จามรมาน ผอ.สทศ. กล่าวว่า ทปอ.ได้ส่งหนังสืออย่างเป็นทางการถึง สทศ. แล้ว โดยให้ปรับลดค่าสมัครสอบ GAT/PAT ครั้งที่ 2/2553 ซึ่งจะเริ่มรับสมัครในวันที่ 1-30 พ.ค.นี้ ให้เหลือวิชาละ 150 บาท และให้ สทศ.จัดสอบเฉพาะเด็ก ม.6 เท่านั้นผอ.สทศ. กล่าวต่อว่า ส่วน สทศ.ได้ส่งหนังสือถึง รศ.ดร.มณฑล สงวนเสริมศรี รักษาการเลขาธิการทปอ. เพื่อเสนอ ทปอ. ขอลดเงินที่ สทศ.ต้องหักจากค่าสมัครสอบและนำส่งเงินให้ ทปอ. วิชาละ 10 บาท/คน/วิชา จำนวน 3 วิชา ได้แก่ แบบวัดความถนัดทั่วไปหรือ GAT, แบบวัดความถนัดทางคณิตศาสตร์ หรือ PAT1 และแบบวัดความถนัดทางวิทยาศาสตร์ หรือ PAT2 ซึ่งเป็นวิชาที่มีเด็กสอบจำนวนมาก แต่ ทปอ.ยังไม่ตอบกลับมาว่าจะยอมตามที่ สทศ.เสนอหรือไม่ ซึ่งหาก ทปอ.ยืนยันเก็บทุกวิชาตามเดิม สทศ. คงต้องใช้วิธีลดสนามสอบลงให้เหลือเท่าที่จำเป็น ซึ่งทำให้ผู้สอบอาจไม่สะดวกบ้าง สำหรับสนามสอบใน กทม. พบว่า เด็กจะสอบมากในการสอบวันที่ 1-2 ส่วนวันที่ 3-4 เหลือน้อยลง อาจต้องให้เด็กเลือกสอบ 4 วัน 4 สนามสอบ เพื่อลดจำนวนสนามสอบให้เหลือเท่าที่จำเป็น.


NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

หวั่นเก็บเงินมัดจำสกัดนร.สละสิทธิ์

หวั่นเก็บเงินมัดจำสกัดนร.สละสิทธิ์

นายกสมาคมผู้ปกครองฯและครูโรงเรียนเทพศิรินทร์ หวั่น สถานศึกษา เก็บเงินมัดจำ ป้องกันเด็กสละสิทธิ์ สอบ เข้าม. 1 และ ม. 4 เพื่อ มาสอบใหม่ใน 8 จังหวัดที่เลื่อนสมัคร ชี้ ยังไม่เห็นแนวทางป้องกัน...นายประสิทธิ์ มีแต้ม นายกสมาคมผู้ปกครองและครูโรงเรียนเทพศิรินทร์ เปิดเผยว่า ตามที่ได้มีการประกาศเลื่อนปฏิทินการรับนักเรียนใน 8 จังหวัด ที่มีการประกาศใช้ พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงในราชอาณาจักร ส่วน 68 จังหวัดหรือ 169 เขตพื้นที่การศึกษาที่เหลือ ให้ใช้ปฏิทินรับนักเรียนเดิมนั้น ตนได้พูดคุยกับผู้บริหารสถานศึกษาหลายแห่ง พบว่ากำลังเกิดความวิตกกังวลว่าเด็กที่สอบคัดเลือกเข้า ม.1 และ ม.4 ได้แล้ว จะสละสิทธิ์แล้วมาสอบคัดเลือกใหม่ในสถานศึกษาที่อยู่ในพื้นที่ 8 จังหวัดที่รับสมัครภายหลัง โดยเฉพาะเด็กที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงกับกรุงเทพฯ สถานศึกษาจึงกำลังคิดหาแนวทางการป้องกันการสละสิทธิ์  โดยอาจเกิดปัญหาการเรียกเก็บเงินบางรายการที่สถานศึกษาสามารถเรียกเก็บได้ก่อนเวลา เพื่อเป็นหลักประกันว่าเด็กจะไม่สละสิทธิ์ ซึ่งจะสร้างความเดือดร้อนให้แก่ ผู้ปกครอง นายประสิทธิ์กล่าวอีกว่า ส่วนการป้องกันไม่ให้ เด็กใน  68  จังหวัดมาสอบใหม่นั้น  ตนยังไม่เห็นแนวทางที่จะป้องกันได้ เพราะ สพฐ.ไม่มีระบบข้อมูลออนไลน์เหมือนกับสำนักงานคณะกรรมการการอุดม ศึกษา (สกอ.) ประกอบกับมีสถานศึกษาและเด็กจำนวนมาก การจะให้สถานศึกษาช่วยตรวจสอบจึงทำได้ยาก ทั้งนี้ สพฐ.รอประเมินสถานการณ์ทางการเมืองหลังวันที่ 23 มี.ค.แล้วจึงประกาศการรับสมัครนักเรียนชั้น ม.1 และ ม.4 ตนหวั่นว่าอาจจะต้องมีการเลื่อนการมอบตัวออกไป เพราะสถานศึกษาดำเนินการสอบคัดเลือกไม่ทัน  โดยเฉพาะสถานศึกษาขนาดใหญ่ ดังนั้น ควรประกาศให้สถานศึกษาใน 8 จังหวัดใช้คะแนนสอบทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นพื้นฐาน (โอเน็ต) ในการพิจารณาคัดเลือกเด็กเข้าเรียน ม.1 และ ม.4 ซึ่งจะสะดวกและย่นเวลา แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) ว่าจะประกาศผลสอบโอเน็ตได้ทันหรือไม่.


NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

การเมืองแบบธรรมาธิปไตย

การเมืองแบบธรรมาธิปไตย



คมชัดลึก :ความขัดแย้งทางการเมืองที่มีการแบ่งสีแยกฝ่ายในขณะนี้เป็นปรากฏการณ์ที่สังคมไทยต้องทำความเข้าใจและเรียนรู้อย่างหนัก และถ้ายอมเปิดใจกว้างสดับตรับฟังทั้ง เหลือง และ แดง ประเด็นปัญหาที่ยกมาอ้างเพื่อลบล้างความชอบธรรมของอีกฝ่าย ล้วนเป็นเรื่องเดียวกัน เช่น ปัญหาสังคม ความไม่ยุติธรรม อภิสิทธิ์ การใช้อำนาจบาตรใหญ่ การมีสองมาตรฐาน ซึ่งล้วนไม่สามารถแก้ไขได้ไม่ว่าใครมาเป็นรัฐบาล ภายใต้โครงสร้างอำนาจแบบเดิม







 การต่อสู้ทางการเมืองปัจจุบันจึงเป็นความพยายามในการเปลี่ยน “ขั้วอำนาจ” มากกว่าการ “เปลี่ยนสังคม” ให้ดีขึ้น เพียงแต่การต่อสู้ช่วงชิงอำนาจได้พัฒนายกระดับโดยการดึงเอามวลชนเข้ามาเกี่ยวข้อง แทนการช่วงชิงอำนาจในหมู่นักการเมืองด้วยกันเองเหมือนแต่ก่อน เพราะทุกคนต่างก็เชื่อกันว่า หากประชาธิปัตย์ไปและเพื่อไทยมา ปัญหาที่ถกเถียงกันก็จะยังวนเวียนอยู่ในวังวนเดิมๆ เพียงแค่ "เปลี่ยนตัวละคร" แต่ฉากก็จะยังเป็นฉากเดิมๆ  
 คำถามที่อาจารย์ยักษ์มีมาตลอดตั้งแต่การเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ.2475 อำนาจที่รัชกาลที่ 7 ได้ตั้งใจให้ไว้กับประชาชนนั้นไม่เคยเกิดขึ้นจริงเลยในสังคมไทย อำนาจถูก “รวมศูนย์” ไว้ที่ส่วนกลาง จนส่วนกลางกลายเป็นระบบราชการที่อ้วน ใหญ่ เทอะทะ และไร้ประสิทธิภาพ จนไม่อาจบริหารประเทศให้เกิดประโยชน์สูงสุดได้ 
 ทุกอย่างถูกทำให้เป็น “มาตรฐานเดียว” แทนการยอมรับความแตกต่างหลากหลาย ซึ่งถือเป็นความสวยงามของสังคมไทย
 เรากำลังพูดถึง พหุสังคม แต่ขณะเดียวกันก็ครอบงำสังคม พยายามทำให้ทุกคนต้องยอมรับ “มาตรฐาน” ที่ยืมมาจากคนอื่น โดยไม่ได้มองรากเหง้าของตนเอง!!!
 ยังจำกันได้ไหมว่าเมื่อวัฒนธรรมตะวันตกเข้ามาใหม่ๆ ผู้นำไทยหลงใหลได้ปลื้มจนทุบทำลายของดีๆ ของปู่ย่าตายายของเราไป ดนตรีไทยกลายเป็นของต้องห้าม เหล้าที่ชาวบ้านกลั่นกินกันเองทุกวันจู่ๆ ก็ถูกตีตราว่าผิดกฎหมาย หมอไทยที่เคยเป็นที่พึ่งของคนยากถูกกล่าวหาว่าเป็นหมอเถื่อน ของที่ “ยืม” เขามาไม่ว่าจะใช้ได้หรือไม่ได้กลายเป็นของดีมีมาตรฐานทั้งเหล้า ยา หมอ รวมทั้ง “การเมือง” 
 ในการทำฝายของคนโบราณ เวลาเลือก “แก่ฝาย” ซึ่งจะเป็นผู้ที่ดูแลการสร้างฝายรวมถึงบริหารจัดการน้ำในชุมชน คนโบราณแม้ไม่ได้ร่ำเรียนมาสูงก็รู้ดีว่า แก้ฝายต้องมีองค์ประกอบที่ขาดไม่ได้ 2 ประการ คือ หนึ่ง มีความยุติธรรม คือ รู้จักใช้ “ธรรม” ในการยุติปัญหา ข้อขัดแย้ง และการไม่ลงรอยกัน
 สอง มีความรู้ระดับผู้เชี่ยวชาญในเรื่องน้ำและการสร้างฝาย คุณธรรมและความรู้ จึงเป็นคุณสมบัติที่ขาดข้อใดข้อหนึ่งไม่ได้ของผู้ปกครอง แม้ในระดับที่ถือเป็นหน่วยเล็กๆ อย่างการสร้างฝาย   การเมืองไทยปัจจุบันขาดทั้งสองส่วน เพราะ “ยืม” คนอื่นมาโดยไม่ได้มองรากเหง้าของตนเอง ในขณะที่ทิ้งทำลายของเก่า โดยที่ก็ไม่รู้ว่าของใหม่คืออะไร แต่เชื่อไว้ก่อนว่า ของใหม่ต้องดีกว่าของเก่า 
 การเมืองในคราบ “ประชาธิปไตย” ของเราที่ยืมเขามาจึงเป็นการเมืองแบบ “ลูกผีลูกคน”  เหมือนเสื้อผ้าที่ใส่ทีไรก็ไม่เคยพอดีตัวเสียที ถ้าจะให้พอดีก็จะต้อง “หั่น” ส่วนเกินออกซึ่งก็จะต้องมีอาการบาดเจ็บ
 ทำไมเราไม่เอาเสื้อที่เราเคยใส่พอดียี่ห้อ “ธรรมาธิปไตย” กลับมาใส่อีกครั้ง จะดูเชยแต่ใส่สบายก็ชั่งปะไร!!!
"อาจารย์ยักษ์ ณ มหาลัยคอกหมู"
  










NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

Blog Archive