โซนรักสัตว์ประจำวันอาทิตย์ 23 พ.ค.53
คมชัดลึก : +++ คณะสัตวแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลสัตว์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน ฝากบอกถึงเจ้าของสัตว์เลี้ยงทั้ง สุนัข แมว อื่นๆ ว่าโรงพยาบาลสัตว์ได้เปิด ศูนย์โรคระบบประสาท ออร์โธปิดิกส์ และเวชศาสตร์ฟื้นฟูเพื่อสัตว์เลี้ยงให้บริการครบวงจร
ทั้งด้านการตรวจวินิจฉัย การรักษาทางยาและการผ่าตัด การฟื้นฟูร่างกายสัตว์เลี้ยงต่างๆ ให้สมบูรณ์แข็งแรง...ทั้งนี้ ได้แถลงเปิดศูนย์และการเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ ไปเมื่อวันที่ 31 มี.ค.ที่ผ่านมา ... เอ้า!! เจ้าของสัตว์เลี้ยงที่สนใจจะไปใช้บริการล่ะก็ หากยังไม่เข้าใจ มีข้อสงสัย หรืออยากทราบรายละเอียดเพิ่มเติม สอบถามไปได้ที่ประชาสัมพันธ์ศูนย์ โทร.08-6562-3918, 0-2942-8181-3
+++ กาญจน์ชัย แสนวงศ์ ผอ.สวนสัตว์ดุสิต ฝากบอกถึงน้องๆ หนูๆ เยาวชนทุกคน ว่าตอนนี้ใกล้หมดเขตการส่งจดหมาย ไปรษณียบัตรร่วมตั้งชื่อเจ้าลูกม้าลาย (เพศเมีย) และเจ้าลูกม้าแคระอาร์เจนตินา (เพศผู้) ...น้องๆ ที่สนใจให้สามารถส่งไปได้ที่สวนสัตว์ดุสิต เลขที่ 71 ถนนพระราม 5 เขตดุสิต กรุงเทพฯ 10300 (วงเล็บว่าตั้งชื่อลูกม้าลาย ลูกม้าแคระ) หมดเขตวันที่ 31 พ.ค. หรือโทรสอบถามไปได้ที่ 0-2281-2000 ... หากสะดวกที่จะใช้อินเทอร์เน็ตให้ส่งผลงานไปได้ทางเว็บไซต์ www.dusitzoo.org ...ท่านใดตั้งชื่อได้ถูกใจคณะกรรมการ สวนสัตว์จะส่งของรางวัลที่ระลึกให้ถึงบ้าน รับรองถูกใจแน่นอนครับพ้ม!
+++ ฟังทางนี้! ผศ.ดร.บัญชา ทองมี และนักศึกษาคณะเทคโนโลยีการประมงทางน้ำ ม.แม่โจ้ บอกว่า ช่วงนี้หน้าฝนกำลังมาเยือน... เพื่อขยายผลการใช้ “ชีววิธี” (Biocontrol) ในการกำจัดไข่ยุงป้องกันโรคไข้เลือดออกจากยุงลาย โดยเฉพาะพื้นที่ชื้นแฉะ มีน้ำขัง ...จึงแนะนำให้เลี้ยง “ปลาแกมบูเซีย" หรือ "ปลากินยุง” และ “ปลาหางนกยูง” เพราะเจ้าปลาทั้งสองตัวนี้ มีสรรพคุณกำจัดไข่ยุงลายได้ชะงัด อีกทั้งช่วยทดแทนการใช้สารเคมีกำจัดไข่ยุงได้เป็นอย่างดี แถมช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมแบบประหยัดต้นทุนได้อีกด้วย น่าสนใจมากครับ! ...ประชาชน ชุมชนใดที่สนใจอยากเลี้ยง สอบถามรายละเอียดได้ที่คณะเทคโนโลยีการประมงฯ โทร.0-5387-3470
+++ มูลนิธิบ้านสงเคราะห์สัตว์พิการ (ในความอุปถัมภ์ของหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน) 15/1 หมู่ 1 ซอยพระมหาการุณย์ ถ.ติวานนท์ ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี 11120 ... เชิญชวนผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาควัตถุปัจจัยแก่บรรดาเหล่าน้องหมา น้องแมว ของมูลนิธิกว่า 200 ชีวิต ที่ต้องการด่วนคือ ข้าวสาร อาหารเม็ด อาหารกระป๋องสุนัขและแมว ยากันยุงแบบขด หรือในรูปบริจาคเป็นเงินเพื่อซื้ออาหาร... สอบถามรายละเอียดที่มูลนิธิ โทร. 0-2584-4896, 0-2961-5625 ช่วยกันนะครับ!
เม่นแคระ (thanee@nationgroup.com)
ข่าวที่เกี่ยวข้องคะแนนต่ำสุด-สูงสุดแอดมิชชั่นส์ปีการศึกษา25553คะแนนต่ำสุด-สูงสุดแอดมิชชั่นส์ปีการศึกษา 2553คะแนนต่ำสุด-สูงสุดแอดมิชชั่นส์ปีการศึกษา2553 พิชิตปัญหาสัตว์เลี้ยง - ปัญหาหมาในสถานที่ราชการ ศธ.อุ้มคนพิการเรียนอุดมสามัญและอาชีพ
NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6
Saturday, May 22, 2010
ท่องโลกเกษตรกับคมชัดลึก(1)ดูวิถีพอเพียงที่ศูนย์มาบเอื้อง
ท่องโลกเกษตรกับคมชัดลึก(1)ดูวิถีพอเพียงที่ศูนย์มาบเอื้อง
คมชัดลึก : กว่า 20 ปีที่ อ.วิวัฒน์ ศัลยกำธร หรืออาจารย์ยักษ์ มหาลัยคอกหมู ประธานมูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ ได้เนรมิตพื้นที่แห้งแล้งกันดาร มีสภาพเป็นดินดานจำนวนกว่า 40 ไร่ เป็น "ศูนย์กสิกรรมธรรมชาติมาบเอื้อง" ที่บ้านมาบเอื้อง ต.หนองบอนแดง อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี เมื่อครั้งที่เขายังรับใช้ใต้เบื้องพระยุคลบาท ในฐานะที่รับราชการใกล้ชิดพระองค์ท่าน ในหน่วยงานสำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (กปร.) สำนักนายกรัฐมนตรี
มาถึงวันนี้ "ศูนย์กสิกรรมธรรมชาติมาบเอื้อง" ได้กลายเป็นแหล่งเรียนรู้ ดูงานและสถานที่ฝึกอบรมสำหรับผู้ที่สนใจในวิถีพอเพียง ทั้งภาครัฐ เอกชน ตลอดจนประชาชนที่สนใจโดยทั่วไป ตามหลักเกษตรทฤษฎีใหม่ ภายใต้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาแล้วนับหมื่นราย มีเครือข่ายอยู่ทั่วประเทศกว่า 60 ศูนย์
"ท่องโลกเกษตร" อาทิตย์นี้จะพาไปดูการทำงานและกิจกรรมของศูนย์ ภายใต้การกมบังเหียนของ อ.วิวัฒน์ ศัลยกำธร ที่ได้พลิกฟื้นดินดาน ใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้กลายเป็นป่าที่สมบูรณ์ อุดมไปด้วยพืชผักและผลไม้นานาชนิดที่ปลูกไว้ภายในศูนย์แห่งนี้
ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ อ.วิวัฒน์ ศัลยกำธร จึงได้รวบรวมกลุ่มคนในหลายๆ อาชีพที่มีแนวคิด แนวอุดมการณ์ ในการที่จะฟื้นฟูประเทศ โดยการนำแนวคิดเรื่องทฤษฎีใหม่เศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้กับการทำการเกษตร และการดำรงชีวิตให้อยู่รอดได้อย่างยั่งยืน รวมทั้งการรณรงค์ให้เกษตรกรเลิกใช้สารเคมี หยุดการพึ่งพาชาติตะวันตก และหันกลับมาพึ่งพาตนเอง โดยใช้เทคโนโลยี และภูมิปัญญาชาวบ้านที่เคยสืบทอดกันมาเพื่อเน้นการทำเกษตรที่ยั่งยืนบนผืนแผ่นดินไทย
จึงได้จัดตั้งเป็น “ชมรมกสิกรรมธรรมชาติ” ขึ้นในปี 2540 ก่อนที่จดทะเบียนเป็น มูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2544 โดยมีเป้าหมายเพื่อเป็นการนำโครงการต่างๆ ที่ชมรมได้ดำเนินการมาสานต่อ และเผยแพร่ ขยายให้กว้างไกลยิ่งขึ้น ซึ่งปัจจุบันมีเครือข่ายของมูลนิธิกระจายอยู่ทั่วประเทศจำนวน 63 ศูนย์ สำหรับใช้เป็นต้นแบบให้แก่ประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียงเพื่อนำไปใช้เป็นแบบอย่างในการประกอบอาชีพ
ปัจจุบันศูนย์กสิกรรมธรรมชาติมาบเอื้อง ภายใต้การดูแลและดำเนินการโดยมูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ ที่มี อ.วิวัฒน์ เป็นประธาน นับเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ด้านการเกษตรตามแนวทฤษฎีใหม่ ภายใต้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงอย่างครบวงจร มีหลักสูตรการอบรมที่หลากหลาย อาทิ การพัฒนาผู้นำการเปลี่ยนแปลงสู่การพึ่งตนเองตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง, การเลี้ยงกุ้งด้วยเทคโนโลยีชีวภาพ, เทคโนโลยีการผลิตส้มด้วยชีวภาพ, การจัดน้ำเสียและขยะด้วยเทคโนโลยีชีวภาพ, เทคโนโลยีการผลิตไม้ผลอินทรีย์, การบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมตามแนวพระราชดำริ, เทคนิคการวางแผนเชิงยุทธศาสตร์สู่การเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง, และหลักสูตรการสร้างป่าชุมชน
ทุกหลักสูตรนั้น อ.วิวัฒน์ บอกว่า เน้นให้เข้าใจถึงปรัชญา หลักการ แนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง การสร้างกระบวนการมีส่วนร่วม การวิเคราะห์ สังเคราะห์ การสร้างภาวะผู้นำ การปรับเปลี่ยนวิธีคิด การสร้างจิตสำนึกใหม่แบบพึ่งตนเองการเรียนรู้กระแสการเปลี่ยนแปลง และรู้เท่าทัน โดยผู้ที่จะเข้าอบรมในศูนย์แห่งนี้ แต่ละหลักสูตรมีระยะเวลาที่แตกต่างกันไปตั้งแต่หลักสูตรเรียนรู้ 2 วัน 1 คืนถึง 8 วัน 8 คืน หรือจะฝึกจนชำนาญถึง 3 เดือนก็ได้ โดยทุกหลักสูตรเรียนฟรี โดยมีงบประมาณการสนับสนุนจากภาครัฐด้วยจำนวนหนึ่ง
ผลจากความหลากหลายของหลักสูตรนั่นเอง ทำให้เนื้อที่กว่า 40 ไร่ ภายในศูนย์ในปัจจุบัน ได้มีการจัดแบ่งพื้นเป็นสัดส่วน เพื่อให้สอดคล้องในการปฏิบัติของแต่ละหลักสูตรอย่างลงตัว โดยแบ่งเป็นฐานการเรียนรู้ต่างๆ จำนวน 9 ฐานเพื่อให้ผู้เข้าอบรมได้ฝึกการปฏิบัติจริง อาทิ คนเอาถ่าน คนมีไฟ คนรักษ์ป่า คนมีน้ำยา เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีส่วนที่เป็นพื้นที่ป่า 3 อย่างประโยชย์ 4 อย่าง สำหรับปลูกไม้ยืนต้นไว้ใช้สอย ทำบ้าน ทำฟืน ปลูกไม้ผลไว้กิน และพืชผักส่วนครัวไว้ประกอบอาหารและสมุนไพร ซึ่งไม้ทั้ง 3 ชนิดนี้จะให้ประโยชน์อย่างมหาศาลในการสร้างความสมดุลให้แก่ระบบนิเวศ ซึ่งจะช่วยลดภาวะโลกร้อนนั่นเอง
และในวันเสาร์ที่ 12 มิถุนายน 2553 นี้ โครงการท่องโลกเกษตรกับ "คม ชัด ลึก" จะพาผู้สนใจเยี่ยมชมศูนย์กสิกรรมธรรมชาติมาบเอื้อง โดยมี "อ.วิวัฒน์ ศัลยกำธร" ประธานมูลนิธิให้เกียรติเป็นวิทยากรบรรยายสรุปการดำเนินงาน พร้อมพาเยี่ยมชมกิจกรรมที่น่าสนใจตามจุดต่างๆ -2 วัน 1 คืนกับคมชัดลึก
เสาร์ที่ 12 มิถุนายน 255306.00 น. - พร้อมกันที่อาคารเนชั่นฯ ถ.บางนา-ตราด (กม.4.5) (รับประทาน ชา กาแฟ โอวัลติน ปาท่องโก๋ ร้อนๆ ก่อนออกเดินทาง)06.30 น. - เดินทางไปยังศูนย์กสิกรรมธรรมชาติมาบเอื้อง อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี09.00 น. - ถึงศูนย์มาบเอื้อง ฟังบรรยายสรุปจาก อ.วิวัฒน์ ศัลยกำธร หรือ อ.ยักษ์ มหาลัยคอกหมู พร้อมเยี่ยมชมกิจกรรมภายในศูนย์10.30 น. - ออกเดินทางไปยังสวนวิชาพันธุ์ไม้ อ.หนองใหญ่ จ.ชลบุรี11.00 น. - ถึงสวนวิชาพันธุ์ไม้ ฟังบรรยายสรุปจาก วิชา โกมลกิจเกษตร เจ้าของสวน 12.00 น. - รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านก๋วยเตี๋ยวปลาสามย่าน อ.แกลง จ.ระยอง13.00 น. - ออกเดินทางไปยังศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำระยอง ต.เพ อ.เมือง จ.ระยอง 14.00 น. - ถึงศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำระยอง เยี่ยมชมกิจกรรมของศูนย์16.00 น. - ไหว้สักการะอนุสาวรีย์สุนทรภู่ อ.แกลง จ.ระยอง18.00 น. - รับประทานอาหารเย็น ณ ร้านตังเก แหลมแม่พิมพ์20.00 น. - เข้าที่พัก ณ โรงแรมระยองสตาร์ อาทิตย์ที่ 13 มิถุนายน 255308.00 น. - รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม 09.00 น. - เดินทางไปยังสวนลุงไพบูลย์ ต.นาตาขวัญ อ.เมือง จ.ระยอง 09.30 น. - ถึงสวนลุงไพบูลย์ของลุงไพบูลย์ อรัญนารถ พร้อมลิ้มรสผลไม้สดๆ จากสวน 10.30 น. - เดินทางไปยังเรือนเพาะชำหม้อข้าว หม้อแกงลิงของ ประกิต โพธิ์ศรี 11.00 น. - ถึงเรือนเพาะชำหม้อข้าว หม้อแกงลิง พร้อมเยี่ยมชมขั้นตอนการเพาะชำ12.00 น. - รับประทานอาหารกลางวัน ณ สวนย่าสน (คนเคยมา) ต้นตำรับอาหารพื้นเมืองระยอง 13.00 น. - เดินทางไปยังตลาดกลางผลไม้ จ.ระยอง14.00 น. - เลือกซื้อผลไม้และของฝากตามอัธยาศัย15.00 น. - เดินทางกลับกรุงเทพฯ18.00 น. - ถึงอาคารเนชั่นฯ ถ.บางนา-ตราด (กม.4.5) โดยสวัสดิภาพ สนใจสอบถามรายละเอียดและสำรองที่นั่งโทร.0-2338-3356-7, 08-9497-5500 (ค่าลงทะเบียน 3,852 บาท/ท่าน รับเพียง 40 ท่าน)
สุรัตน์ อัตตะ
ข่าวที่เกี่ยวข้องตำนานแผ่นดิน-ศูนย์ป้องกันและปราบปรามประมงทะเลอ่าวไทยฝั่งตะวันออก จ.ระยอง บ้าน+อพาร์ตเมนต์ไม่บานที่สุพรรณบุรีนศ.แบ่งโซนสมัชชาคุณธรรมคาดลดจำนวนคนโกงประเทศเปิดบ้านเป็น"ศูนย์เรียนรู้"หนุนเกษตรกรทำปุ๋ยใช้เองพุธที่ 19 พฤษภาคม 2533
NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6
คมชัดลึก : กว่า 20 ปีที่ อ.วิวัฒน์ ศัลยกำธร หรืออาจารย์ยักษ์ มหาลัยคอกหมู ประธานมูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ ได้เนรมิตพื้นที่แห้งแล้งกันดาร มีสภาพเป็นดินดานจำนวนกว่า 40 ไร่ เป็น "ศูนย์กสิกรรมธรรมชาติมาบเอื้อง" ที่บ้านมาบเอื้อง ต.หนองบอนแดง อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี เมื่อครั้งที่เขายังรับใช้ใต้เบื้องพระยุคลบาท ในฐานะที่รับราชการใกล้ชิดพระองค์ท่าน ในหน่วยงานสำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (กปร.) สำนักนายกรัฐมนตรี
มาถึงวันนี้ "ศูนย์กสิกรรมธรรมชาติมาบเอื้อง" ได้กลายเป็นแหล่งเรียนรู้ ดูงานและสถานที่ฝึกอบรมสำหรับผู้ที่สนใจในวิถีพอเพียง ทั้งภาครัฐ เอกชน ตลอดจนประชาชนที่สนใจโดยทั่วไป ตามหลักเกษตรทฤษฎีใหม่ ภายใต้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาแล้วนับหมื่นราย มีเครือข่ายอยู่ทั่วประเทศกว่า 60 ศูนย์
"ท่องโลกเกษตร" อาทิตย์นี้จะพาไปดูการทำงานและกิจกรรมของศูนย์ ภายใต้การกมบังเหียนของ อ.วิวัฒน์ ศัลยกำธร ที่ได้พลิกฟื้นดินดาน ใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้กลายเป็นป่าที่สมบูรณ์ อุดมไปด้วยพืชผักและผลไม้นานาชนิดที่ปลูกไว้ภายในศูนย์แห่งนี้
ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ อ.วิวัฒน์ ศัลยกำธร จึงได้รวบรวมกลุ่มคนในหลายๆ อาชีพที่มีแนวคิด แนวอุดมการณ์ ในการที่จะฟื้นฟูประเทศ โดยการนำแนวคิดเรื่องทฤษฎีใหม่เศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้กับการทำการเกษตร และการดำรงชีวิตให้อยู่รอดได้อย่างยั่งยืน รวมทั้งการรณรงค์ให้เกษตรกรเลิกใช้สารเคมี หยุดการพึ่งพาชาติตะวันตก และหันกลับมาพึ่งพาตนเอง โดยใช้เทคโนโลยี และภูมิปัญญาชาวบ้านที่เคยสืบทอดกันมาเพื่อเน้นการทำเกษตรที่ยั่งยืนบนผืนแผ่นดินไทย
จึงได้จัดตั้งเป็น “ชมรมกสิกรรมธรรมชาติ” ขึ้นในปี 2540 ก่อนที่จดทะเบียนเป็น มูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2544 โดยมีเป้าหมายเพื่อเป็นการนำโครงการต่างๆ ที่ชมรมได้ดำเนินการมาสานต่อ และเผยแพร่ ขยายให้กว้างไกลยิ่งขึ้น ซึ่งปัจจุบันมีเครือข่ายของมูลนิธิกระจายอยู่ทั่วประเทศจำนวน 63 ศูนย์ สำหรับใช้เป็นต้นแบบให้แก่ประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียงเพื่อนำไปใช้เป็นแบบอย่างในการประกอบอาชีพ
ปัจจุบันศูนย์กสิกรรมธรรมชาติมาบเอื้อง ภายใต้การดูแลและดำเนินการโดยมูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ ที่มี อ.วิวัฒน์ เป็นประธาน นับเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ด้านการเกษตรตามแนวทฤษฎีใหม่ ภายใต้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงอย่างครบวงจร มีหลักสูตรการอบรมที่หลากหลาย อาทิ การพัฒนาผู้นำการเปลี่ยนแปลงสู่การพึ่งตนเองตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง, การเลี้ยงกุ้งด้วยเทคโนโลยีชีวภาพ, เทคโนโลยีการผลิตส้มด้วยชีวภาพ, การจัดน้ำเสียและขยะด้วยเทคโนโลยีชีวภาพ, เทคโนโลยีการผลิตไม้ผลอินทรีย์, การบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมตามแนวพระราชดำริ, เทคนิคการวางแผนเชิงยุทธศาสตร์สู่การเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง, และหลักสูตรการสร้างป่าชุมชน
ทุกหลักสูตรนั้น อ.วิวัฒน์ บอกว่า เน้นให้เข้าใจถึงปรัชญา หลักการ แนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง การสร้างกระบวนการมีส่วนร่วม การวิเคราะห์ สังเคราะห์ การสร้างภาวะผู้นำ การปรับเปลี่ยนวิธีคิด การสร้างจิตสำนึกใหม่แบบพึ่งตนเองการเรียนรู้กระแสการเปลี่ยนแปลง และรู้เท่าทัน โดยผู้ที่จะเข้าอบรมในศูนย์แห่งนี้ แต่ละหลักสูตรมีระยะเวลาที่แตกต่างกันไปตั้งแต่หลักสูตรเรียนรู้ 2 วัน 1 คืนถึง 8 วัน 8 คืน หรือจะฝึกจนชำนาญถึง 3 เดือนก็ได้ โดยทุกหลักสูตรเรียนฟรี โดยมีงบประมาณการสนับสนุนจากภาครัฐด้วยจำนวนหนึ่ง
ผลจากความหลากหลายของหลักสูตรนั่นเอง ทำให้เนื้อที่กว่า 40 ไร่ ภายในศูนย์ในปัจจุบัน ได้มีการจัดแบ่งพื้นเป็นสัดส่วน เพื่อให้สอดคล้องในการปฏิบัติของแต่ละหลักสูตรอย่างลงตัว โดยแบ่งเป็นฐานการเรียนรู้ต่างๆ จำนวน 9 ฐานเพื่อให้ผู้เข้าอบรมได้ฝึกการปฏิบัติจริง อาทิ คนเอาถ่าน คนมีไฟ คนรักษ์ป่า คนมีน้ำยา เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีส่วนที่เป็นพื้นที่ป่า 3 อย่างประโยชย์ 4 อย่าง สำหรับปลูกไม้ยืนต้นไว้ใช้สอย ทำบ้าน ทำฟืน ปลูกไม้ผลไว้กิน และพืชผักส่วนครัวไว้ประกอบอาหารและสมุนไพร ซึ่งไม้ทั้ง 3 ชนิดนี้จะให้ประโยชน์อย่างมหาศาลในการสร้างความสมดุลให้แก่ระบบนิเวศ ซึ่งจะช่วยลดภาวะโลกร้อนนั่นเอง
และในวันเสาร์ที่ 12 มิถุนายน 2553 นี้ โครงการท่องโลกเกษตรกับ "คม ชัด ลึก" จะพาผู้สนใจเยี่ยมชมศูนย์กสิกรรมธรรมชาติมาบเอื้อง โดยมี "อ.วิวัฒน์ ศัลยกำธร" ประธานมูลนิธิให้เกียรติเป็นวิทยากรบรรยายสรุปการดำเนินงาน พร้อมพาเยี่ยมชมกิจกรรมที่น่าสนใจตามจุดต่างๆ -2 วัน 1 คืนกับคมชัดลึก
เสาร์ที่ 12 มิถุนายน 255306.00 น. - พร้อมกันที่อาคารเนชั่นฯ ถ.บางนา-ตราด (กม.4.5) (รับประทาน ชา กาแฟ โอวัลติน ปาท่องโก๋ ร้อนๆ ก่อนออกเดินทาง)06.30 น. - เดินทางไปยังศูนย์กสิกรรมธรรมชาติมาบเอื้อง อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี09.00 น. - ถึงศูนย์มาบเอื้อง ฟังบรรยายสรุปจาก อ.วิวัฒน์ ศัลยกำธร หรือ อ.ยักษ์ มหาลัยคอกหมู พร้อมเยี่ยมชมกิจกรรมภายในศูนย์10.30 น. - ออกเดินทางไปยังสวนวิชาพันธุ์ไม้ อ.หนองใหญ่ จ.ชลบุรี11.00 น. - ถึงสวนวิชาพันธุ์ไม้ ฟังบรรยายสรุปจาก วิชา โกมลกิจเกษตร เจ้าของสวน 12.00 น. - รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านก๋วยเตี๋ยวปลาสามย่าน อ.แกลง จ.ระยอง13.00 น. - ออกเดินทางไปยังศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำระยอง ต.เพ อ.เมือง จ.ระยอง 14.00 น. - ถึงศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำระยอง เยี่ยมชมกิจกรรมของศูนย์16.00 น. - ไหว้สักการะอนุสาวรีย์สุนทรภู่ อ.แกลง จ.ระยอง18.00 น. - รับประทานอาหารเย็น ณ ร้านตังเก แหลมแม่พิมพ์20.00 น. - เข้าที่พัก ณ โรงแรมระยองสตาร์ อาทิตย์ที่ 13 มิถุนายน 255308.00 น. - รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม 09.00 น. - เดินทางไปยังสวนลุงไพบูลย์ ต.นาตาขวัญ อ.เมือง จ.ระยอง 09.30 น. - ถึงสวนลุงไพบูลย์ของลุงไพบูลย์ อรัญนารถ พร้อมลิ้มรสผลไม้สดๆ จากสวน 10.30 น. - เดินทางไปยังเรือนเพาะชำหม้อข้าว หม้อแกงลิงของ ประกิต โพธิ์ศรี 11.00 น. - ถึงเรือนเพาะชำหม้อข้าว หม้อแกงลิง พร้อมเยี่ยมชมขั้นตอนการเพาะชำ12.00 น. - รับประทานอาหารกลางวัน ณ สวนย่าสน (คนเคยมา) ต้นตำรับอาหารพื้นเมืองระยอง 13.00 น. - เดินทางไปยังตลาดกลางผลไม้ จ.ระยอง14.00 น. - เลือกซื้อผลไม้และของฝากตามอัธยาศัย15.00 น. - เดินทางกลับกรุงเทพฯ18.00 น. - ถึงอาคารเนชั่นฯ ถ.บางนา-ตราด (กม.4.5) โดยสวัสดิภาพ สนใจสอบถามรายละเอียดและสำรองที่นั่งโทร.0-2338-3356-7, 08-9497-5500 (ค่าลงทะเบียน 3,852 บาท/ท่าน รับเพียง 40 ท่าน)
สุรัตน์ อัตตะ
ข่าวที่เกี่ยวข้องตำนานแผ่นดิน-ศูนย์ป้องกันและปราบปรามประมงทะเลอ่าวไทยฝั่งตะวันออก จ.ระยอง บ้าน+อพาร์ตเมนต์ไม่บานที่สุพรรณบุรีนศ.แบ่งโซนสมัชชาคุณธรรมคาดลดจำนวนคนโกงประเทศเปิดบ้านเป็น"ศูนย์เรียนรู้"หนุนเกษตรกรทำปุ๋ยใช้เองพุธที่ 19 พฤษภาคม 2533
NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6
เลาะรั้วมหาวิทยาลัยประจำวันที่23พ.ค.
เลาะรั้วมหาวิทยาลัยประจำวันที่23พ.ค.
คมชัดลึก :0 ศิลปะปูนปั้นมรดกไทย วิทยาลัยเพาะช่าง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ กระทรวงวัฒนธรรม สมาคมประติมากรไทย และบริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน)
ร่วมกันจัดการประกวดศิลปะปูนปั้นแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 10 ประจำปี 2553 ขึ้นเมื่อวันที่ 5-9 พ.ค. ณ มหาวิทยาลัยมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ ศาลายา จ.นครปฐม โดยมีนายประทีป เลี่ยวไพรัตน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) เป็นประธานในพิธีเปิดการแข่งขัน
0 ผลปรากฏว่า รางวัลชนะเลิศประเภทที่ 1 ปั้นปูนสด ได้แก่ ศุภกานต์ ตุ่นหนิ้ว จากผลงาน “พระราชพิธีตรียัมปวาย พระอิศวรมหาเทพผู้ยิ่งใหญ่ เสด็จลงมาเยี่ยมโลก” รับรางวัลเงินสด 1.2 แสนบาท พร้อมโล่พระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี รางวัลชนะเลิศประเภทที่ 2 ปั้นปูนสำเร็จรูป ทีพีไอ ได้แก่ ปัญญา คำเคน จากผลงาน “สืบสานสู่ขวัญข้าว” รับรางวัลเงินสด 1.2 แสนบาท พร้อมโล่พระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี รางวัลชนะเลิศประเภทที่ 3 ผลงานสำเร็จรูป ได้แก่ ปัญญา คำเคน จากผลงาน “ยิงลูกยาง” รับรางวัลเงินสด 1.2 แสนบาท พร้อมโล่พระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
0 ส่วนรางวัลชนะเลิศประเภทเยาวชน ปั้นปูนสำเร็จรูป ทีพีไอ ได้แก่ พุทธชาติ กองเมือง จากผลงาน “ยุทธหัตถี (ชนช้าง)” รับรางวัลเงินสด 5 หมื่นบาท พร้อมโล่พระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่ง ศุภกานต์ ตุ่นหนิ้ว และ ปัญญา คำเคน ได้รับรางวัลประติมากรปูนปั้นยอดเยี่ยม ซึ่งเป็นรางวัลพิเศษที่มอบให้ศิลปินหรือช่างปูนปั้นที่ได้รับรางวัลชนะเลิศยอดเยี่ยมรวมกันครบ 4 รางวัล ได้รับรางวัลเงินสดเพิ่มอีกคนละ 1.2 แสนบาท พร้อมโล่เชิดชูเกียรติ
ข่าวที่เกี่ยวข้องท่องแดนมนุษย์กินคนเมดาน-ทะเลสาบโตบา-บาสตากีร์ ออกแบบปรับปรุงกรุงเทพฯและประเทศไทยกันใหม่ ให้น่าอยู่อย่างมีอารยะคมเคียมคมปากกา - ท่องทางวัฒนธรรม อีสานตอนกลาง คะแนนต่ำสุด-สูงสุดแอดมิชชั่นส์ปีการศึกษา 2553สานมรดกวัฒนธรรม"หุ่นไทยไม่ให้สูญ
NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6
คมชัดลึก :0 ศิลปะปูนปั้นมรดกไทย วิทยาลัยเพาะช่าง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ กระทรวงวัฒนธรรม สมาคมประติมากรไทย และบริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน)
ร่วมกันจัดการประกวดศิลปะปูนปั้นแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 10 ประจำปี 2553 ขึ้นเมื่อวันที่ 5-9 พ.ค. ณ มหาวิทยาลัยมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ ศาลายา จ.นครปฐม โดยมีนายประทีป เลี่ยวไพรัตน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) เป็นประธานในพิธีเปิดการแข่งขัน
0 ผลปรากฏว่า รางวัลชนะเลิศประเภทที่ 1 ปั้นปูนสด ได้แก่ ศุภกานต์ ตุ่นหนิ้ว จากผลงาน “พระราชพิธีตรียัมปวาย พระอิศวรมหาเทพผู้ยิ่งใหญ่ เสด็จลงมาเยี่ยมโลก” รับรางวัลเงินสด 1.2 แสนบาท พร้อมโล่พระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี รางวัลชนะเลิศประเภทที่ 2 ปั้นปูนสำเร็จรูป ทีพีไอ ได้แก่ ปัญญา คำเคน จากผลงาน “สืบสานสู่ขวัญข้าว” รับรางวัลเงินสด 1.2 แสนบาท พร้อมโล่พระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี รางวัลชนะเลิศประเภทที่ 3 ผลงานสำเร็จรูป ได้แก่ ปัญญา คำเคน จากผลงาน “ยิงลูกยาง” รับรางวัลเงินสด 1.2 แสนบาท พร้อมโล่พระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
0 ส่วนรางวัลชนะเลิศประเภทเยาวชน ปั้นปูนสำเร็จรูป ทีพีไอ ได้แก่ พุทธชาติ กองเมือง จากผลงาน “ยุทธหัตถี (ชนช้าง)” รับรางวัลเงินสด 5 หมื่นบาท พร้อมโล่พระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่ง ศุภกานต์ ตุ่นหนิ้ว และ ปัญญา คำเคน ได้รับรางวัลประติมากรปูนปั้นยอดเยี่ยม ซึ่งเป็นรางวัลพิเศษที่มอบให้ศิลปินหรือช่างปูนปั้นที่ได้รับรางวัลชนะเลิศยอดเยี่ยมรวมกันครบ 4 รางวัล ได้รับรางวัลเงินสดเพิ่มอีกคนละ 1.2 แสนบาท พร้อมโล่เชิดชูเกียรติ
ข่าวที่เกี่ยวข้องท่องแดนมนุษย์กินคนเมดาน-ทะเลสาบโตบา-บาสตากีร์ ออกแบบปรับปรุงกรุงเทพฯและประเทศไทยกันใหม่ ให้น่าอยู่อย่างมีอารยะคมเคียมคมปากกา - ท่องทางวัฒนธรรม อีสานตอนกลาง คะแนนต่ำสุด-สูงสุดแอดมิชชั่นส์ปีการศึกษา 2553สานมรดกวัฒนธรรม"หุ่นไทยไม่ให้สูญ
NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6
คนรักหมา หมาตัวแรกของผม
คนรักหมา หมาตัวแรกของผม
คมชัดลึก :หลังจากสร้างความประทับใจในวันและคืนแรกที่ได้อยู่ร่วมกัน โดยเฉพาะกับผม เพราะมิคกี้เป็นหมาตัวแรกในชีวิต เรา 3 คนพ่อแม่ลูก (หมา) ก็อาศัยอยู่ในบ้านเช่าหลังน้อยชานเมืองกาญจน์ต่อมาอย่างราบรื่น มิคกี้ไม่เคยก่อปัญหายุ่งยากทั้งทางธุรการและยุทธการให้เราแต่อย่างใด และนอกเหนือจากเรื่องวินัยของการขับถ่ายแล้ว ยังมีอีกเรื่องหนึ่งที่ผมยังจำได้ ที่ยิ่งทำให้เรารักหมาตัวแรกของเรามากยิ่งขึ้นไปอีก
นิสัยปกติอย่างหนึ่งของลูกหมาที่มือใหม่หัดเลี้ยงทั้งหลายควรรับทราบไว้คือ ในช่วงที่ฟันของเขากำลังงอกนั้นจะเกิดอาการอยากกัดโน่นกัดนี่ อาจเป็นเพราะรู้สึกรำคาญยุบยิบขณะฟันกำลังจะแทรกตัวผ่านเหงือกขึ้นมาก็ได้ เปรียบเทียบได้กับลูกคนเรานี่แหละครับ ตอนฟันงอกก็อยากกัดโน่นกัดนี่เหมือนกัน เขาถึงทำของเล่นไว้ให้ลูก (คน) ขบเคี้ยวแก้อาการ “มันเขี้ยว” อย่างที่เรียกกัน
ดังนั้น ช่วงนี้แหละที่หากเจ้าของไม่เข้าใจธรรมชาติของลูกหมา หรือไม่ได้เตรียมพร้อมรับ “สถานการณ์ฉุกเฉินที่ร้ายแรงพอสมควร” เรื่องที่อาจเกิดขึ้นก็คือรองเท้าคู่โปรดหรือประเป๋าหลุยส์ที่หิ้วมาจากประเทศนอกผ่านด่านศุลกากรสนามบินสุวรรณภูมิมาได้อย่างใจหายใจคว่ำ หรือแม้กระทั่งขาโต๊ะ ฯลฯ ก็อาจมีสิทธิเสียหายเพราะตกเป็นเครื่องมือบำบัดความคันเหงือกของน้องหมา ซึ่งอาจจะตามมาด้วยการใช้กำลังเข้าปราบปรามตามแบบสากลจากเบาไปหาหนัก เริ่มด้วย “วัตถุความเร็วต่ำ” คือฝ่ามือเผียะเข้าให้ หรือถ้าโกรธจัด ยั้งไม่อยู่ก็อาจเพิ่มเป็นวัตถุความเร็วสูงขึ้นก็ได้
โกรธกันเยอะแล้วครับระหว่างคนกับหมา ดีไม่ดีคนข้างเคียงเขาเห็นว่าทำรุนแรงไปผิดหลักสากลแล้วยื่นมือเข้ามาแทรกแซง ว่าไปทำร้ายหมาผู้บริสุทธิ์ปราศจากอาวุธเพราะเขี้ยวยังไม่งอกได้อย่างไร
หรือจะอ้างว่าเป็นเรื่องภายใน...ต่างชาติไม่เกี่ยว ?
ถ้าเข้าใจธรรมชาติช่วงนี้ของน้องหมาก็หาทางป้องกันไว้ครับ ตามร้านเพ็ทช็อปเขาเอาหนังวัวมาดัดแปลงทำเป็นรูปกระดูก หรือให้สะใจกันไปเลยก็รูปรองเท้าซึ่งมีทั้งรองเท้าแตะไปจนถึงหุ้มส้น ซื้อไปฝากน้องหมาของท่าน จะได้มีที่ลองเขี้ยว ไม่ต้องใช้รองเท้า กระเป๋า ขาโต๊ะ รีโมทคอนโทรล ฯลฯ ให้หมางใจกัน และเมื่อฟันงอกเต็มที่อาการคันเหงือกเหล่านี้ก็จะหายไปเอง เลิกมันเขี้ยว เลิกกัดข้าวกัดของ...
ใครมาเที่ยวบ้านผม หากช่างสังเกตจะเห็นรอยฟันแทะปรากฏเป็นหลักฐานทางโบราณคดีอย่างชัดเจนอยู่ทั่วไปตามขาโต๊ะ รับรองได้ว่าไม่ใช่ฝีปากลูกหลานของผมซึ่งแม้จะซนดุเดือดเลือดพล่านเพียงใดตามประสาผู้สืบสกุลทหารกล้า แต่ก็ไม่ถึงกับแทะขาโต๊ะหรอกครับ
ฝีปากของลูกหมากว่า 20 ตัวที่เราเลี้ยงติดต่อกันมานั่นเอง...
แต่รับประกันซ่อมฟรี ไม่มีรอยแทะของมิคกี้หมาตัวแรกของเราแต่อย่างใด...
บัญชร ชวารศิลป์
ข่าวที่เกี่ยวข้องภาพมันฟ้องตร.ลิ้นพันวางยา "ศอฉ."หุ่นยนต์ ส.ส.ไอเดีย3ดีรุ่นจิ๋วสะท้อน ส.ส.ในฝันประชาชน อย่ามาก อย่าน้อยเกินไป นิรุตติ์ ศิริจรรยา...กินข้าววันละมื้อกว่าจะถึงวันนี้
NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6
คมชัดลึก :หลังจากสร้างความประทับใจในวันและคืนแรกที่ได้อยู่ร่วมกัน โดยเฉพาะกับผม เพราะมิคกี้เป็นหมาตัวแรกในชีวิต เรา 3 คนพ่อแม่ลูก (หมา) ก็อาศัยอยู่ในบ้านเช่าหลังน้อยชานเมืองกาญจน์ต่อมาอย่างราบรื่น มิคกี้ไม่เคยก่อปัญหายุ่งยากทั้งทางธุรการและยุทธการให้เราแต่อย่างใด และนอกเหนือจากเรื่องวินัยของการขับถ่ายแล้ว ยังมีอีกเรื่องหนึ่งที่ผมยังจำได้ ที่ยิ่งทำให้เรารักหมาตัวแรกของเรามากยิ่งขึ้นไปอีก
นิสัยปกติอย่างหนึ่งของลูกหมาที่มือใหม่หัดเลี้ยงทั้งหลายควรรับทราบไว้คือ ในช่วงที่ฟันของเขากำลังงอกนั้นจะเกิดอาการอยากกัดโน่นกัดนี่ อาจเป็นเพราะรู้สึกรำคาญยุบยิบขณะฟันกำลังจะแทรกตัวผ่านเหงือกขึ้นมาก็ได้ เปรียบเทียบได้กับลูกคนเรานี่แหละครับ ตอนฟันงอกก็อยากกัดโน่นกัดนี่เหมือนกัน เขาถึงทำของเล่นไว้ให้ลูก (คน) ขบเคี้ยวแก้อาการ “มันเขี้ยว” อย่างที่เรียกกัน
ดังนั้น ช่วงนี้แหละที่หากเจ้าของไม่เข้าใจธรรมชาติของลูกหมา หรือไม่ได้เตรียมพร้อมรับ “สถานการณ์ฉุกเฉินที่ร้ายแรงพอสมควร” เรื่องที่อาจเกิดขึ้นก็คือรองเท้าคู่โปรดหรือประเป๋าหลุยส์ที่หิ้วมาจากประเทศนอกผ่านด่านศุลกากรสนามบินสุวรรณภูมิมาได้อย่างใจหายใจคว่ำ หรือแม้กระทั่งขาโต๊ะ ฯลฯ ก็อาจมีสิทธิเสียหายเพราะตกเป็นเครื่องมือบำบัดความคันเหงือกของน้องหมา ซึ่งอาจจะตามมาด้วยการใช้กำลังเข้าปราบปรามตามแบบสากลจากเบาไปหาหนัก เริ่มด้วย “วัตถุความเร็วต่ำ” คือฝ่ามือเผียะเข้าให้ หรือถ้าโกรธจัด ยั้งไม่อยู่ก็อาจเพิ่มเป็นวัตถุความเร็วสูงขึ้นก็ได้
โกรธกันเยอะแล้วครับระหว่างคนกับหมา ดีไม่ดีคนข้างเคียงเขาเห็นว่าทำรุนแรงไปผิดหลักสากลแล้วยื่นมือเข้ามาแทรกแซง ว่าไปทำร้ายหมาผู้บริสุทธิ์ปราศจากอาวุธเพราะเขี้ยวยังไม่งอกได้อย่างไร
หรือจะอ้างว่าเป็นเรื่องภายใน...ต่างชาติไม่เกี่ยว ?
ถ้าเข้าใจธรรมชาติช่วงนี้ของน้องหมาก็หาทางป้องกันไว้ครับ ตามร้านเพ็ทช็อปเขาเอาหนังวัวมาดัดแปลงทำเป็นรูปกระดูก หรือให้สะใจกันไปเลยก็รูปรองเท้าซึ่งมีทั้งรองเท้าแตะไปจนถึงหุ้มส้น ซื้อไปฝากน้องหมาของท่าน จะได้มีที่ลองเขี้ยว ไม่ต้องใช้รองเท้า กระเป๋า ขาโต๊ะ รีโมทคอนโทรล ฯลฯ ให้หมางใจกัน และเมื่อฟันงอกเต็มที่อาการคันเหงือกเหล่านี้ก็จะหายไปเอง เลิกมันเขี้ยว เลิกกัดข้าวกัดของ...
ใครมาเที่ยวบ้านผม หากช่างสังเกตจะเห็นรอยฟันแทะปรากฏเป็นหลักฐานทางโบราณคดีอย่างชัดเจนอยู่ทั่วไปตามขาโต๊ะ รับรองได้ว่าไม่ใช่ฝีปากลูกหลานของผมซึ่งแม้จะซนดุเดือดเลือดพล่านเพียงใดตามประสาผู้สืบสกุลทหารกล้า แต่ก็ไม่ถึงกับแทะขาโต๊ะหรอกครับ
ฝีปากของลูกหมากว่า 20 ตัวที่เราเลี้ยงติดต่อกันมานั่นเอง...
แต่รับประกันซ่อมฟรี ไม่มีรอยแทะของมิคกี้หมาตัวแรกของเราแต่อย่างใด...
บัญชร ชวารศิลป์
ข่าวที่เกี่ยวข้องภาพมันฟ้องตร.ลิ้นพันวางยา "ศอฉ."หุ่นยนต์ ส.ส.ไอเดีย3ดีรุ่นจิ๋วสะท้อน ส.ส.ในฝันประชาชน อย่ามาก อย่าน้อยเกินไป นิรุตติ์ ศิริจรรยา...กินข้าววันละมื้อกว่าจะถึงวันนี้
NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6
หุ่นยนต์ ส.ส.ไอเดีย3ดีรุ่นจิ๋วสะท้อน ส.ส.ในฝันประชาชน
หุ่นยนต์ ส.ส.ไอเดีย3ดีรุ่นจิ๋วสะท้อน ส.ส.ในฝันประชาชน
คมชัดลึก : แทบไม่น่าเชื่อว่าการออกแบบหุ่นยนต์สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือ หุ่นยนต์ ส.ส. ของเด็กประถม โรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ฝ่ายประถม 54 คน ส่วนใหญ่แสดงไอเดียชี้ชัดว่า ต้องการสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ที่สามารถทำประโยชน์ให้แก่บ้านเมืองได้หลากหลาย ช่วยผู้ประสบภัยจากเหตุการณ์ต่างๆ ได้ทันท่วงที และที่สำคัญเด็กๆ ไม่ต้องการให้มีการคอรัปชั่นในบ้านเมืองของเราอีกต่อไป มีหน้าตาและคุณสมบัติที่หลากหลายแตกต่างกันไปตามจินตนาการ
นี่คือจินตนาการที่เกิดขึ้นจากการประกวดออกแบบหุ่นจำลองตามจินตนาการของนักเรียนวิชา 3 ดี แอนิเมชั่น (3D Animation) ระดับประถมศึกษา โรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ฝ่ายประถม และกิจกรรมของกลุ่มนักเรียนโครงการไอซีที จีเนียส ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น ที่โรงเรียนวชิรธรรมสาธิต ซึ่งกำหนดว่า ให้นักเรียนผู้เข้าแข่งขันทุกคนออกแบบหุ่นจำลองตามจินตนาการ ด้วยคอมพิวเตอร์ในรูปแบบ 3 ดี แอนิเมชั่น (3D Animation) ภายใต้หัวข้อ หุ่นยนต์สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือ “หุ่นยนต์ ส.ส.” ผลปรากฏว่า "ส.ส.สับปะรดล้อเบิ้ม" ของ “น้องป่าน" ด.ญ.ศุภลาภินี ภักดีฉนวน นักเรียนชั้น ป.3 แอนิเมเตอร์ ที่อายุน้อยที่สุดของการประกวดครั้งนี้ ได้รับคัดเลือกให้เป็นผลงานที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ
น้องป่าน เล่าว่า “ส.ส.สับปะรดล้อเบิ้ม" มีจุดเด่นอยู่ที่มีตารอบตัวคอยตรวจจับความชั่วร้ายในบ้านเมือง สอดส่องดูแลไม่ให้เกิดการคอรัปชั่น มีมือที่ใหญ่สามารถช่วยเหลือประชาชนได้อย่างรวดเร็ว พุงโตเหมาะเป็นที่หลบภัยและที่พักพิงของประชาชน ถึงแม้จะตัวใหญ่แต่ก็เคลื่อนไหวได้รวดเร็ว ทำให้สามารถเข้าถึงพื้นที่และบรรเทาความเดือดร้อนได้ทันท่วงที ที่สำคัญมีระบบความคิดที่สอนให้ประชาชนรู้จักทำงานและสามารถสร้างงานให้ประชาชนได้เหมาะสมกับความสามารถของเขา ถ้ามี ส.ส.สับปะรดล้อเบิ้มในเมืองไทย บ้านเมืองจะพัฒนาได้อย่างรวดเร็ว ประชาชนมีคุณภาพ และพึ่งพาตนเองได้
ขณะที่ ผลงานการออกแบบ “หุ่นยนต์ ส.ส.” ในรูปแบบ 3 ดี แอนิเมชั่น (3D Animation) ของกลุ่มนักเรียนโครงการไอซีที จีเนียส ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น ที่โรงเรียนวชิรธรรมสาธิต ซึ่งได้รับการส่งเสริมให้เรียนรู้เทคโนโลยีในเชิงสร้างสรรค์กันตั้งแต่เด็กๆ เลยทีเดียว ปรากฏว่ามีผลงานการออกแบบที่ส่งเข้าประกวดทั้งหมดกว่า 70 ชิ้น ซึ่งรางวัลชนะเลิศเป็นหุ่นยนต์ ส.ส. “มิสเตอร์ อีโค่” ฝีมือออกแบบของ “น้องจ๋า” ด.ญ.ศศิภา ไกรสาลีย์ นักเรียนชั้น ม.2 ที่มาพร้อมไหวพริบปฏิภาณในการตอบข้อซักถามของคณะกรรมการได้อย่างดีเยี่ยม
น้องจ๋า เล่าถึง ส.ส. “มิสเตอร์ อีโค่” ว่า “เป็นหุ่นยนต์ ส.ส.ที่มีลักษณะเด่นตรงที่มีคุณธรรม จริยธรรมสูง รับฟังความคิดเห็นของประชาชน เข้าช่วยเหลือประชาชนได้อย่างรวดเร็วในทุกที่ทุกสถานการณ์ และที่สำคัญต้องเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม, อยากให้มี ส.ส.อย่างมิสเตอร์ อีโค่มาบริหารประเทศมากๆ จะได้อยู่ดีกินดี มีความสุข เพราะมี ส.ส.ที่ตั้งใจทำงานเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง
รศ.สุปราณี จิราณรงค์ ผู้อำนวยการโรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ฝ่ายประถม และรองคณบดีคณะครุศาสตร์ จุฬาฯ และอาจารย์พิชยนันท์ สารพานิช ผู้อำนวยการโรงเรียนวชิรธรรมสาธิต ให้ความเห็นตรงกันว่า การพัฒนาการศึกษาด้านเทคโนโลยีและคอมพิวเตอร์ของเยาวชน ต้องทำด้วยใจมุ่งมั่นที่จะพัฒนานักเรียนให้มีคุณภาพทางการศึกษา มีความสุขที่จะศึกษา มีทักษะที่จะนำสิ่งที่ศึกษานั้นไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ ที่สำคัญสามารถใช้เทคโนโลยีสู่ความเป็นสากลได้อย่างสร้างสรรค์ซึ่งน้องๆ และพ่อแม่ ผู้ปกครอง ต้องการชมผลงานการออกแบบหุ่นจำลองตามจินตนาการด้วยคอมพิวเตอร์ในรูปแบบ 3 ดี แอนิเมชั่น (3D Animation) ภายใต้หัวข้อ “หุ่นยนต์ ส.ส.” ของน้องๆ ทั้งสองโรงเรียน ขอชมได้ที่โรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ฝ่ายประถม โรงเรียนวชิรธรรมสาธิต และสถาบันไอครีเอชั่น 3 ดี แอนิเมชั่น สำหรับเยาวชน ถนนชิดลม สอบถามได้ทุกวันที่ โทร.0-2655-1051-2
ข่าวที่เกี่ยวข้องฟากกว๊านเสริมศักยภาพครู-นร.สู่แนวร่วมสร้าง ร.ร.แกนนำไอซีทีเด็กไทยยอดเยี่ยมแข่งหุ่นยนต์นานาชาติไต้หวันมทร.รัตนโกสินทร์โกอินเตอร์ส่งหุ่นยนต์กู้ภัยชิงแชมป์โลกสารพันไอทีประจำวันที่2พ.ค.
อาทิตย์ที่ 18 เมษายน 2553
NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6
คมชัดลึก : แทบไม่น่าเชื่อว่าการออกแบบหุ่นยนต์สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือ หุ่นยนต์ ส.ส. ของเด็กประถม โรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ฝ่ายประถม 54 คน ส่วนใหญ่แสดงไอเดียชี้ชัดว่า ต้องการสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ที่สามารถทำประโยชน์ให้แก่บ้านเมืองได้หลากหลาย ช่วยผู้ประสบภัยจากเหตุการณ์ต่างๆ ได้ทันท่วงที และที่สำคัญเด็กๆ ไม่ต้องการให้มีการคอรัปชั่นในบ้านเมืองของเราอีกต่อไป มีหน้าตาและคุณสมบัติที่หลากหลายแตกต่างกันไปตามจินตนาการ
นี่คือจินตนาการที่เกิดขึ้นจากการประกวดออกแบบหุ่นจำลองตามจินตนาการของนักเรียนวิชา 3 ดี แอนิเมชั่น (3D Animation) ระดับประถมศึกษา โรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ฝ่ายประถม และกิจกรรมของกลุ่มนักเรียนโครงการไอซีที จีเนียส ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น ที่โรงเรียนวชิรธรรมสาธิต ซึ่งกำหนดว่า ให้นักเรียนผู้เข้าแข่งขันทุกคนออกแบบหุ่นจำลองตามจินตนาการ ด้วยคอมพิวเตอร์ในรูปแบบ 3 ดี แอนิเมชั่น (3D Animation) ภายใต้หัวข้อ หุ่นยนต์สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือ “หุ่นยนต์ ส.ส.” ผลปรากฏว่า "ส.ส.สับปะรดล้อเบิ้ม" ของ “น้องป่าน" ด.ญ.ศุภลาภินี ภักดีฉนวน นักเรียนชั้น ป.3 แอนิเมเตอร์ ที่อายุน้อยที่สุดของการประกวดครั้งนี้ ได้รับคัดเลือกให้เป็นผลงานที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ
น้องป่าน เล่าว่า “ส.ส.สับปะรดล้อเบิ้ม" มีจุดเด่นอยู่ที่มีตารอบตัวคอยตรวจจับความชั่วร้ายในบ้านเมือง สอดส่องดูแลไม่ให้เกิดการคอรัปชั่น มีมือที่ใหญ่สามารถช่วยเหลือประชาชนได้อย่างรวดเร็ว พุงโตเหมาะเป็นที่หลบภัยและที่พักพิงของประชาชน ถึงแม้จะตัวใหญ่แต่ก็เคลื่อนไหวได้รวดเร็ว ทำให้สามารถเข้าถึงพื้นที่และบรรเทาความเดือดร้อนได้ทันท่วงที ที่สำคัญมีระบบความคิดที่สอนให้ประชาชนรู้จักทำงานและสามารถสร้างงานให้ประชาชนได้เหมาะสมกับความสามารถของเขา ถ้ามี ส.ส.สับปะรดล้อเบิ้มในเมืองไทย บ้านเมืองจะพัฒนาได้อย่างรวดเร็ว ประชาชนมีคุณภาพ และพึ่งพาตนเองได้
ขณะที่ ผลงานการออกแบบ “หุ่นยนต์ ส.ส.” ในรูปแบบ 3 ดี แอนิเมชั่น (3D Animation) ของกลุ่มนักเรียนโครงการไอซีที จีเนียส ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น ที่โรงเรียนวชิรธรรมสาธิต ซึ่งได้รับการส่งเสริมให้เรียนรู้เทคโนโลยีในเชิงสร้างสรรค์กันตั้งแต่เด็กๆ เลยทีเดียว ปรากฏว่ามีผลงานการออกแบบที่ส่งเข้าประกวดทั้งหมดกว่า 70 ชิ้น ซึ่งรางวัลชนะเลิศเป็นหุ่นยนต์ ส.ส. “มิสเตอร์ อีโค่” ฝีมือออกแบบของ “น้องจ๋า” ด.ญ.ศศิภา ไกรสาลีย์ นักเรียนชั้น ม.2 ที่มาพร้อมไหวพริบปฏิภาณในการตอบข้อซักถามของคณะกรรมการได้อย่างดีเยี่ยม
น้องจ๋า เล่าถึง ส.ส. “มิสเตอร์ อีโค่” ว่า “เป็นหุ่นยนต์ ส.ส.ที่มีลักษณะเด่นตรงที่มีคุณธรรม จริยธรรมสูง รับฟังความคิดเห็นของประชาชน เข้าช่วยเหลือประชาชนได้อย่างรวดเร็วในทุกที่ทุกสถานการณ์ และที่สำคัญต้องเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม, อยากให้มี ส.ส.อย่างมิสเตอร์ อีโค่มาบริหารประเทศมากๆ จะได้อยู่ดีกินดี มีความสุข เพราะมี ส.ส.ที่ตั้งใจทำงานเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง
รศ.สุปราณี จิราณรงค์ ผู้อำนวยการโรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ฝ่ายประถม และรองคณบดีคณะครุศาสตร์ จุฬาฯ และอาจารย์พิชยนันท์ สารพานิช ผู้อำนวยการโรงเรียนวชิรธรรมสาธิต ให้ความเห็นตรงกันว่า การพัฒนาการศึกษาด้านเทคโนโลยีและคอมพิวเตอร์ของเยาวชน ต้องทำด้วยใจมุ่งมั่นที่จะพัฒนานักเรียนให้มีคุณภาพทางการศึกษา มีความสุขที่จะศึกษา มีทักษะที่จะนำสิ่งที่ศึกษานั้นไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ ที่สำคัญสามารถใช้เทคโนโลยีสู่ความเป็นสากลได้อย่างสร้างสรรค์ซึ่งน้องๆ และพ่อแม่ ผู้ปกครอง ต้องการชมผลงานการออกแบบหุ่นจำลองตามจินตนาการด้วยคอมพิวเตอร์ในรูปแบบ 3 ดี แอนิเมชั่น (3D Animation) ภายใต้หัวข้อ “หุ่นยนต์ ส.ส.” ของน้องๆ ทั้งสองโรงเรียน ขอชมได้ที่โรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ฝ่ายประถม โรงเรียนวชิรธรรมสาธิต และสถาบันไอครีเอชั่น 3 ดี แอนิเมชั่น สำหรับเยาวชน ถนนชิดลม สอบถามได้ทุกวันที่ โทร.0-2655-1051-2
ข่าวที่เกี่ยวข้องฟากกว๊านเสริมศักยภาพครู-นร.สู่แนวร่วมสร้าง ร.ร.แกนนำไอซีทีเด็กไทยยอดเยี่ยมแข่งหุ่นยนต์นานาชาติไต้หวันมทร.รัตนโกสินทร์โกอินเตอร์ส่งหุ่นยนต์กู้ภัยชิงแชมป์โลกสารพันไอทีประจำวันที่2พ.ค.
อาทิตย์ที่ 18 เมษายน 2553
NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6
ปส.ปรับโครงสร้างกำกับนิวเคลียร์
ปส.ปรับโครงสร้างกำกับนิวเคลียร์
สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ ปรับโครงสร้างการวิจัยและพัฒนาการใช้ประโยชน์นิวเคลียร์และปรมาณู เตรียมจ้างนักวิจัยต่างชาติ พร้อมแก้ไขกฎระเบียบให้ทันสมัย คาดเสร็จในเดือนมิ.ย.นี้...ศ.เกียรติคุณ ดร.ชัยวัฒน์ ต่อสกุลแก้ว เลขาธิการสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ (ปส.) กระทรวงวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี เปิดเผยว่า ปส.ได้ปรับโครงสร้างให้มีการวิจัยและพัฒนาด้านการกำกับดูแลการใช้ประโยชน์ นิวเคลียร์และปรมาณู ซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยมีงานวิจัยด้านนี้มาก่อน โดยจะจ้างนักวิจัยต่างชาติและให้นักวิจัยไทยร่วมเรียนรู้การทำวิจัยดังกล่าว สำหรับงานวิจัยของ ปส. เกี่ยวกับการกำกับดูแลและควบคุมความปลอดภัยในการใช้นิวเคลียร์ภายในประเทศ ซึ่งได้เก็บข้อมูลการปนเปื้อนสารรังสีในดิน น้ำ อากาศ และทะเลภายในประเทศแล้ว แต่หน้าที่ต่อไปของนักวิจัยคือ การทำแบบจำลองการปนเปื้อน นอกจากนี้ จะต้องสร้างนักวิจัยด้านวิศวนิวเคลียร์และฟิสิกส์นิวเคลียร์เพิ่มด้วย เพราะปัจจุบันมีประมาณ 5-6 คนเท่านั้นเลขาธิการ ปส.กล่าวต่อว่า นอกจากนั้น ปส.จะต้องแก้ไขกฎระเบียบข้อบังคับต่างๆ ให้เป็นปัจจุบันและทันสมัยที่สุดให้ได้ภายในปีนี้ รวมถึงออกกฎระเบียบตามกฎกระทรวง คาดว่าภายในเดือน มิ.ย.นี้ จะมีกฎระเบียบออกมาได้.
NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6
สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ ปรับโครงสร้างการวิจัยและพัฒนาการใช้ประโยชน์นิวเคลียร์และปรมาณู เตรียมจ้างนักวิจัยต่างชาติ พร้อมแก้ไขกฎระเบียบให้ทันสมัย คาดเสร็จในเดือนมิ.ย.นี้...ศ.เกียรติคุณ ดร.ชัยวัฒน์ ต่อสกุลแก้ว เลขาธิการสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ (ปส.) กระทรวงวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี เปิดเผยว่า ปส.ได้ปรับโครงสร้างให้มีการวิจัยและพัฒนาด้านการกำกับดูแลการใช้ประโยชน์ นิวเคลียร์และปรมาณู ซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยมีงานวิจัยด้านนี้มาก่อน โดยจะจ้างนักวิจัยต่างชาติและให้นักวิจัยไทยร่วมเรียนรู้การทำวิจัยดังกล่าว สำหรับงานวิจัยของ ปส. เกี่ยวกับการกำกับดูแลและควบคุมความปลอดภัยในการใช้นิวเคลียร์ภายในประเทศ ซึ่งได้เก็บข้อมูลการปนเปื้อนสารรังสีในดิน น้ำ อากาศ และทะเลภายในประเทศแล้ว แต่หน้าที่ต่อไปของนักวิจัยคือ การทำแบบจำลองการปนเปื้อน นอกจากนี้ จะต้องสร้างนักวิจัยด้านวิศวนิวเคลียร์และฟิสิกส์นิวเคลียร์เพิ่มด้วย เพราะปัจจุบันมีประมาณ 5-6 คนเท่านั้นเลขาธิการ ปส.กล่าวต่อว่า นอกจากนั้น ปส.จะต้องแก้ไขกฎระเบียบข้อบังคับต่างๆ ให้เป็นปัจจุบันและทันสมัยที่สุดให้ได้ภายในปีนี้ รวมถึงออกกฎระเบียบตามกฎกระทรวง คาดว่าภายในเดือน มิ.ย.นี้ จะมีกฎระเบียบออกมาได้.
NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6
เด็กนาฏศิลป์เฮ สบศ.ใจปํ้าอุดหนุนทุนเรียนฟรีอื้อ
เด็กนาฏศิลป์เฮ สบศ.ใจปํ้าอุดหนุนทุนเรียนฟรีอื้อ
สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ จัดสรรทุน ให้นักเรียน นักศึกษา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ 300 ทุน ระดับปริญญาตรี เพื่อเข้าเรียนวิทยาลัยนาฏศิลปและ วิทยาลัยช่างศิลป์...นายกมล สุวุฒโฑ อธิการบดีสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ (สบศ.) กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เปิดเผยว่า ตามที่ สบศ. ได้รับสมัครนักเรียนนักศึกษา เพื่อรับทุนการศึกษาเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต นักเรียน นักศึกษา ผู้พิการ และผู้ด้อยโอกาส ปีการศึกษา 2553 นั้น ขณะนี้ได้มีการคัดเลือกผู้ที่ได้รับทุนดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว ดังนี้ คณะศิลปวิจิตร ได้แก่ นายรัตนพร สละธงชัย น.ส.อาทิติยา ทรัพย์เอนก น.ส.ภัทรริญญา พรมผอง นายภูมิพัฒน์ หนูแก้ว คณะศิลปนาฏดุริยางค์ ได้แก่ นายวีรยุทธ ประพนธ์อภิชน นายสุกิตติ์ ทำบุญ น.ส.ศิริวรรณ แตงกรด คณะศิลปศึกษา ได้แก่ น.ส.กชกร เทศถมยา นายรวมพร สีเผือก นายสิรินา เหย็บบวช น.ส.มัทธุรส สุดใจ น.ส.จิตนา สืบสงัด น.ส.ผกาภรธ์ ประกอบผล และ น.ส.สโรชา สุภาพพร้อมนายกมล กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ สบศ. ยังได้ จัดสรรทุนให้กับนักเรียน นักศึกษา ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จำนวน 300 ทุน ในระดับปริญญาตรี ปีละ 40,000-50,000 บาท สำหรับเป็นค่าหน่วยกิต ค่าที่พัก ค่าอาหาร และค่าเดินทาง เพื่อเข้ามาเรียนในวิทยาลัยนาฏศิลปนครศรีธรรมราช วิทยาลัยนาฏศิลปพัทลุง วิทยาลัยช่างศิลปนครศรีธรรมราช ในส่วนของนักเรียนระดับต่ำกว่าปริญญาตรีนั้น ทาง สบศ. ก็ได้จัดสรรให้มีสิทธิเรียนฟรีตามนโยบายของรัฐบาลด้วย นอกจากนี้ สบศ. จะจัดสรรทุนผู้ที่มีความสามารถพิเศษ ให้กับนักเรียนนักศึกษาทั่วประเทศ ถึงร้อยละ 40 ของนักเรียนนักศึกษาทั้งหมด โดยสอบถามได้ที่วิทยาลัยนาฏศิลป วิทยาลัยช่างศิลปทั่วประเทศ หรือ สบศ. โทร. 0-2224-5923.
NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6
สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ จัดสรรทุน ให้นักเรียน นักศึกษา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ 300 ทุน ระดับปริญญาตรี เพื่อเข้าเรียนวิทยาลัยนาฏศิลปและ วิทยาลัยช่างศิลป์...นายกมล สุวุฒโฑ อธิการบดีสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ (สบศ.) กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เปิดเผยว่า ตามที่ สบศ. ได้รับสมัครนักเรียนนักศึกษา เพื่อรับทุนการศึกษาเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต นักเรียน นักศึกษา ผู้พิการ และผู้ด้อยโอกาส ปีการศึกษา 2553 นั้น ขณะนี้ได้มีการคัดเลือกผู้ที่ได้รับทุนดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว ดังนี้ คณะศิลปวิจิตร ได้แก่ นายรัตนพร สละธงชัย น.ส.อาทิติยา ทรัพย์เอนก น.ส.ภัทรริญญา พรมผอง นายภูมิพัฒน์ หนูแก้ว คณะศิลปนาฏดุริยางค์ ได้แก่ นายวีรยุทธ ประพนธ์อภิชน นายสุกิตติ์ ทำบุญ น.ส.ศิริวรรณ แตงกรด คณะศิลปศึกษา ได้แก่ น.ส.กชกร เทศถมยา นายรวมพร สีเผือก นายสิรินา เหย็บบวช น.ส.มัทธุรส สุดใจ น.ส.จิตนา สืบสงัด น.ส.ผกาภรธ์ ประกอบผล และ น.ส.สโรชา สุภาพพร้อมนายกมล กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ สบศ. ยังได้ จัดสรรทุนให้กับนักเรียน นักศึกษา ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จำนวน 300 ทุน ในระดับปริญญาตรี ปีละ 40,000-50,000 บาท สำหรับเป็นค่าหน่วยกิต ค่าที่พัก ค่าอาหาร และค่าเดินทาง เพื่อเข้ามาเรียนในวิทยาลัยนาฏศิลปนครศรีธรรมราช วิทยาลัยนาฏศิลปพัทลุง วิทยาลัยช่างศิลปนครศรีธรรมราช ในส่วนของนักเรียนระดับต่ำกว่าปริญญาตรีนั้น ทาง สบศ. ก็ได้จัดสรรให้มีสิทธิเรียนฟรีตามนโยบายของรัฐบาลด้วย นอกจากนี้ สบศ. จะจัดสรรทุนผู้ที่มีความสามารถพิเศษ ให้กับนักเรียนนักศึกษาทั่วประเทศ ถึงร้อยละ 40 ของนักเรียนนักศึกษาทั้งหมด โดยสอบถามได้ที่วิทยาลัยนาฏศิลป วิทยาลัยช่างศิลปทั่วประเทศ หรือ สบศ. โทร. 0-2224-5923.
NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6
จี้องค์การค้าเร่งปั๊มตำรา 9 รายการ
จี้องค์การค้าเร่งปั๊มตำรา 9 รายการ
รมว.ศึกษาธิการ เร่งองค์การค้า ผลิตหนังสือเรียน อีก 9 รายการที่เหลือ ยืนยัน โรงเรียนจะได้รับหนังสือเรียน ทัน 25 พ.ค. นี้ แน่นอน...เมื่อวันที่ 21 พ.ค.นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้รายงานความคืบหน้าการจัดพิมพ์และการส่งมอบหนังสือเรียนตามโครงการเรียนฟรี เรียนดี 15 ปี อย่างมีคุณภาพว่า หนังสือหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2544 แบ่งเป็นหนังสือเรียน แบบฝึกหัด 73 รายการ และคู่มือครู 9 รายการ รวม 82 รายการ ตอนนี้ได้จัดพิมพ์แล้วเสร็จอยู่ระหว่างการส่งมอบ คิดเป็นร้อยละ 92 ส่วนหนังสือหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2551 ขณะนี้จัดพิมพ์เสร็จแล้วร้อยละ 91 แบ่งเป็นหนังสือเรียน แบบฝึกหัด 143 รายการ คู่มือครู 41 รายการ รวม 184 รายการ ทั้งนี้ หนังสือเรียนและแบบฝึกหัดทั้ง 2 หลักสูตรมีทั้งหมด 216 รายการ โดยขณะนี้องค์การค้าของสำนักงานคณะกรรมการสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) ได้พิมพ์เสร็จและวางจำหน่าย 207 รายการ เหลืออีกเพียง 9 รายการที่ยังพิมพ์ ไม่เสร็จและอยู่ระหว่างการดำเนินการ ได้แก่ ประวัติศาสตร์ สากล ม.4-6, อิสลามศึกษา ป.1, อิสลามศึกษา ป.3, อิสลามศึกษา ม.4-6, เทคโนโลยีและการสื่อสาร ป.4, แบบฝึกหัดเทคโนโลยีและการสื่อสาร ป.1, แบบฝึกหัดเทคโนโลยีและการสื่อสาร ป.4, เทคโนโลยีและการสื่อสาร ม.4-6 และหนังสือเรียนภาษาจาวารมว.ศึกษาธิการกล่าวอีกว่า สพฐ. รายงานว่าหนังสือที่เหลือองค์การค้าฯและโรงพิมพ์เอกชน กำลังเร่งจัดพิมพ์ให้แล้วเสร็จในวันที่ 25 พ.ค.นี้ ทั้งนี้ ตนได้กำชับ ดร.ชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กลับไปเร่งตรวจสอบการส่งมอบหนังสือเรียนของโรงเรียน สังกัด สพฐ.ว่าได้รับหนังสือกี่เปอร์เซ็นต์แล้ว ส่วนที่หลายฝ่ายกังวลว่าในวันที่ 25 พ.ค. จะมีโรงเรียนจำนวนมากไม่ได้รับหนังสือเรียนนั้น ตนได้ย้ำ สพฐ.ไปแล้ว ดังนั้นไม่น่าจะมีปัญหา เด็กจะมีหนังสือเรียนแน่นอน.
NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6
รมว.ศึกษาธิการ เร่งองค์การค้า ผลิตหนังสือเรียน อีก 9 รายการที่เหลือ ยืนยัน โรงเรียนจะได้รับหนังสือเรียน ทัน 25 พ.ค. นี้ แน่นอน...เมื่อวันที่ 21 พ.ค.นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้รายงานความคืบหน้าการจัดพิมพ์และการส่งมอบหนังสือเรียนตามโครงการเรียนฟรี เรียนดี 15 ปี อย่างมีคุณภาพว่า หนังสือหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2544 แบ่งเป็นหนังสือเรียน แบบฝึกหัด 73 รายการ และคู่มือครู 9 รายการ รวม 82 รายการ ตอนนี้ได้จัดพิมพ์แล้วเสร็จอยู่ระหว่างการส่งมอบ คิดเป็นร้อยละ 92 ส่วนหนังสือหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2551 ขณะนี้จัดพิมพ์เสร็จแล้วร้อยละ 91 แบ่งเป็นหนังสือเรียน แบบฝึกหัด 143 รายการ คู่มือครู 41 รายการ รวม 184 รายการ ทั้งนี้ หนังสือเรียนและแบบฝึกหัดทั้ง 2 หลักสูตรมีทั้งหมด 216 รายการ โดยขณะนี้องค์การค้าของสำนักงานคณะกรรมการสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) ได้พิมพ์เสร็จและวางจำหน่าย 207 รายการ เหลืออีกเพียง 9 รายการที่ยังพิมพ์ ไม่เสร็จและอยู่ระหว่างการดำเนินการ ได้แก่ ประวัติศาสตร์ สากล ม.4-6, อิสลามศึกษา ป.1, อิสลามศึกษา ป.3, อิสลามศึกษา ม.4-6, เทคโนโลยีและการสื่อสาร ป.4, แบบฝึกหัดเทคโนโลยีและการสื่อสาร ป.1, แบบฝึกหัดเทคโนโลยีและการสื่อสาร ป.4, เทคโนโลยีและการสื่อสาร ม.4-6 และหนังสือเรียนภาษาจาวารมว.ศึกษาธิการกล่าวอีกว่า สพฐ. รายงานว่าหนังสือที่เหลือองค์การค้าฯและโรงพิมพ์เอกชน กำลังเร่งจัดพิมพ์ให้แล้วเสร็จในวันที่ 25 พ.ค.นี้ ทั้งนี้ ตนได้กำชับ ดร.ชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กลับไปเร่งตรวจสอบการส่งมอบหนังสือเรียนของโรงเรียน สังกัด สพฐ.ว่าได้รับหนังสือกี่เปอร์เซ็นต์แล้ว ส่วนที่หลายฝ่ายกังวลว่าในวันที่ 25 พ.ค. จะมีโรงเรียนจำนวนมากไม่ได้รับหนังสือเรียนนั้น ตนได้ย้ำ สพฐ.ไปแล้ว ดังนั้นไม่น่าจะมีปัญหา เด็กจะมีหนังสือเรียนแน่นอน.
NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6
ศธ.ถกงบปี 54 เตรียมจ่อคิวแจงสภาฯ
ศธ.ถกงบปี 54 เตรียมจ่อคิวแจงสภาฯ
รัฐทุ่มการศึกษาวงเงิน 3.8 แสนล้านบาท อัดฉีดเพิ่มจากปี 53 เกือบ 12% เตรียมแจงสภา 26-27 พ.ค. นี้...นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยว่า ศธ.ได้พิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2554 ตามร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายปี 2554 ซึ่งจะนำเข้าพิจารณาในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ ระหว่างวันที่ 26-27 พ.ค.นี้ โดยปีนี้กระทรวงศึกษาธิการได้รับงบฯ จำนวน 388,050.3187 ล้านบาท เพิ่มจากปีงบประมาณ 2553 จำนวน 41,333.22 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 11.92 โดยแยกตามองค์กรหลักดังนี้ สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ 41,234 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.26% สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา 310 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.27% สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน 241,407 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.18% สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา 79,695 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.61% และสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา 79,695 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.33%รมว.ศึกษาธิการกล่าวอีกว่า สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา 298 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 56.82% สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา 209 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37.05% โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ 318 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.32% สถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการลงทุน 50 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.11% สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ 659 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 56.23% สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 1,586 ล้านบาท เพิ่ม 15.00% อย่างไรก็ตามงบฯที่ได้รับเพิ่มขึ้นจะนำไปดำเนินการในโครงการสำคัญต่างๆ อาทิ โครงการพัฒนาคุณภาพการศึกษาและมาตรฐานการศึกษาเพื่อการปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สอง 8,681 ล้านบาท โครงการยกระดับคุณภาพครูทั้งระบบ 2,757 ล้านบาท โครงการผลผลิตผู้ได้รับการสนับสนุนทุนการศึกษา 1,328 ล้านบาท โครงการโรงเรียนดีต้นแบบระดับตำบล 1,274 ล้านบาท โครงการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สอง 967 ล้านบาท โครงการจัดตั้งมหาวิทยาลัยพะเยา 668 ล้านบาท โครงการพัฒนาคุณภาพการศึกษาผ่านระบบสารสนเทศ 282 ล้านบาท โครงการผลิตครูพันธุ์ใหม่ 136 ล้านบาท โครงการจัดตั้งสถาบันอาชีวศึกษา 57 ล้านบาท.
NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6
รัฐทุ่มการศึกษาวงเงิน 3.8 แสนล้านบาท อัดฉีดเพิ่มจากปี 53 เกือบ 12% เตรียมแจงสภา 26-27 พ.ค. นี้...นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยว่า ศธ.ได้พิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2554 ตามร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายปี 2554 ซึ่งจะนำเข้าพิจารณาในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ ระหว่างวันที่ 26-27 พ.ค.นี้ โดยปีนี้กระทรวงศึกษาธิการได้รับงบฯ จำนวน 388,050.3187 ล้านบาท เพิ่มจากปีงบประมาณ 2553 จำนวน 41,333.22 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 11.92 โดยแยกตามองค์กรหลักดังนี้ สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ 41,234 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.26% สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา 310 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.27% สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน 241,407 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.18% สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา 79,695 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.61% และสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา 79,695 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.33%รมว.ศึกษาธิการกล่าวอีกว่า สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา 298 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 56.82% สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา 209 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37.05% โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ 318 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.32% สถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการลงทุน 50 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.11% สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ 659 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 56.23% สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 1,586 ล้านบาท เพิ่ม 15.00% อย่างไรก็ตามงบฯที่ได้รับเพิ่มขึ้นจะนำไปดำเนินการในโครงการสำคัญต่างๆ อาทิ โครงการพัฒนาคุณภาพการศึกษาและมาตรฐานการศึกษาเพื่อการปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สอง 8,681 ล้านบาท โครงการยกระดับคุณภาพครูทั้งระบบ 2,757 ล้านบาท โครงการผลผลิตผู้ได้รับการสนับสนุนทุนการศึกษา 1,328 ล้านบาท โครงการโรงเรียนดีต้นแบบระดับตำบล 1,274 ล้านบาท โครงการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สอง 967 ล้านบาท โครงการจัดตั้งมหาวิทยาลัยพะเยา 668 ล้านบาท โครงการพัฒนาคุณภาพการศึกษาผ่านระบบสารสนเทศ 282 ล้านบาท โครงการผลิตครูพันธุ์ใหม่ 136 ล้านบาท โครงการจัดตั้งสถาบันอาชีวศึกษา 57 ล้านบาท.
NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6
พิษม็อบทำลูกจ้างอ่วม ตกงานแล้วกว่า1.8หมื่นคน
พิษม็อบทำลูกจ้างอ่วม ตกงานแล้วกว่า1.8หมื่นคน
ก.แรงงานเร่งเยียวยาแรงงานที่ตกงาน จากพิษม็อบแดงป่วน ล่าสุดมีลูกจ้างลงทะเบียนรอความช่วยเหลือราว 1.8 หมื่นคนแล้ว... เมื่อวันที่ 22 พ.ค. ที่กระทรวงแรงงาน มีลูกจ้างที่ถูกเลิกจ้างและตกงาน เนื่องจากการชุมนุมทางการเมืองที่แยกราชประสงค์ ทยอยเดินทางมาลงทะเบียนขอรับความช่วยเหลือเป็นจำนวนมาก โดยนางสงศรี บุญบา รองอธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า ขณะนี้มีลูกจ้างที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว มาลงทะเบียนยอดสะสมเกือบ 18,000 คน โดยกระทรวงแรงงานจะพิจารณาให้ความช่วยเหลือทั้งการจ่ายเงินสิทธิกรณีว่างงาน การติดตามค่าชดเชยจากนายจ้างให้กับลูกจ้าง การติดตามค่าจ้างที่จ่ายไม่ครบให้กับลูกจ้าง และการจ่ายเบี้ยเลี้ยงฝึกอาชีพให้กับคนที่ต้องการเปลี่ยนงานให้กับประชาชน ที่ต้องการเปลี่ยนอาชีพวันละ 120 บาท เป็นเวลา 20 วัน.
NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6
ก.แรงงานเร่งเยียวยาแรงงานที่ตกงาน จากพิษม็อบแดงป่วน ล่าสุดมีลูกจ้างลงทะเบียนรอความช่วยเหลือราว 1.8 หมื่นคนแล้ว... เมื่อวันที่ 22 พ.ค. ที่กระทรวงแรงงาน มีลูกจ้างที่ถูกเลิกจ้างและตกงาน เนื่องจากการชุมนุมทางการเมืองที่แยกราชประสงค์ ทยอยเดินทางมาลงทะเบียนขอรับความช่วยเหลือเป็นจำนวนมาก โดยนางสงศรี บุญบา รองอธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า ขณะนี้มีลูกจ้างที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว มาลงทะเบียนยอดสะสมเกือบ 18,000 คน โดยกระทรวงแรงงานจะพิจารณาให้ความช่วยเหลือทั้งการจ่ายเงินสิทธิกรณีว่างงาน การติดตามค่าชดเชยจากนายจ้างให้กับลูกจ้าง การติดตามค่าจ้างที่จ่ายไม่ครบให้กับลูกจ้าง และการจ่ายเบี้ยเลี้ยงฝึกอาชีพให้กับคนที่ต้องการเปลี่ยนงานให้กับประชาชน ที่ต้องการเปลี่ยนอาชีพวันละ 120 บาท เป็นเวลา 20 วัน.
NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6
เด็กนาฏศิลป์เฮ สบศ.ใจปํ้าอุดหนุนทุนเรียนฟรีอื้อ
เด็กนาฏศิลป์เฮ สบศ.ใจปํ้าอุดหนุนทุนเรียนฟรีอื้อ
สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ จัดสรรทุน ให้นักเรียน นักศึกษา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ 300 ทุน ระดับปริญญาตรี เพื่อเข้าเรียนวิทยาลัยนาฏศิลปและ วิทยาลัยช่างศิลป์...นายกมล สุวุฒโฑ อธิการบดีสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ (สบศ.) กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เปิดเผยว่า ตามที่ สบศ. ได้รับสมัครนักเรียนนักศึกษา เพื่อรับทุนการศึกษาเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต นักเรียน นักศึกษา ผู้พิการ และผู้ด้อยโอกาส ปีการศึกษา 2553 นั้น ขณะนี้ได้มีการคัดเลือกผู้ที่ได้รับทุนดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว ดังนี้ คณะศิลปวิจิตร ได้แก่ นายรัตนพร สละธงชัย น.ส.อาทิติยา ทรัพย์เอนก น.ส.ภัทรริญญา พรมผอง นายภูมิพัฒน์ หนูแก้ว คณะศิลปนาฏดุริยางค์ ได้แก่ นายวีรยุทธ ประพนธ์อภิชน นายสุกิตติ์ ทำบุญ น.ส.ศิริวรรณ แตงกรด คณะศิลปศึกษา ได้แก่ น.ส.กชกร เทศถมยา นายรวมพร สีเผือก นายสิรินา เหย็บบวช น.ส.มัทธุรส สุดใจ น.ส.จิตนา สืบสงัด น.ส.ผกาภรธ์ ประกอบผล และ น.ส.สโรชา สุภาพพร้อมนายกมล กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ สบศ. ยังได้ จัดสรรทุนให้กับนักเรียน นักศึกษา ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จำนวน 300 ทุน ในระดับปริญญาตรี ปีละ 40,000-50,000 บาท สำหรับเป็นค่าหน่วยกิต ค่าที่พัก ค่าอาหาร และค่าเดินทาง เพื่อเข้ามาเรียนในวิทยาลัยนาฏศิลปนครศรีธรรมราช วิทยาลัยนาฏศิลปพัทลุง วิทยาลัยช่างศิลปนครศรีธรรมราช ในส่วนของนักเรียนระดับต่ำกว่าปริญญาตรีนั้น ทาง สบศ. ก็ได้จัดสรรให้มีสิทธิเรียนฟรีตามนโยบายของรัฐบาลด้วย นอกจากนี้ สบศ. จะจัดสรรทุนผู้ที่มีความสามารถพิเศษ ให้กับนักเรียนนักศึกษาทั่วประเทศ ถึงร้อยละ 40 ของนักเรียนนักศึกษาทั้งหมด โดยสอบถามได้ที่วิทยาลัยนาฏศิลป วิทยาลัยช่างศิลปทั่วประเทศ หรือ สบศ. โทร. 0-2224-5923.
NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6
สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ จัดสรรทุน ให้นักเรียน นักศึกษา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ 300 ทุน ระดับปริญญาตรี เพื่อเข้าเรียนวิทยาลัยนาฏศิลปและ วิทยาลัยช่างศิลป์...นายกมล สุวุฒโฑ อธิการบดีสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ (สบศ.) กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เปิดเผยว่า ตามที่ สบศ. ได้รับสมัครนักเรียนนักศึกษา เพื่อรับทุนการศึกษาเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต นักเรียน นักศึกษา ผู้พิการ และผู้ด้อยโอกาส ปีการศึกษา 2553 นั้น ขณะนี้ได้มีการคัดเลือกผู้ที่ได้รับทุนดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว ดังนี้ คณะศิลปวิจิตร ได้แก่ นายรัตนพร สละธงชัย น.ส.อาทิติยา ทรัพย์เอนก น.ส.ภัทรริญญา พรมผอง นายภูมิพัฒน์ หนูแก้ว คณะศิลปนาฏดุริยางค์ ได้แก่ นายวีรยุทธ ประพนธ์อภิชน นายสุกิตติ์ ทำบุญ น.ส.ศิริวรรณ แตงกรด คณะศิลปศึกษา ได้แก่ น.ส.กชกร เทศถมยา นายรวมพร สีเผือก นายสิรินา เหย็บบวช น.ส.มัทธุรส สุดใจ น.ส.จิตนา สืบสงัด น.ส.ผกาภรธ์ ประกอบผล และ น.ส.สโรชา สุภาพพร้อมนายกมล กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ สบศ. ยังได้ จัดสรรทุนให้กับนักเรียน นักศึกษา ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จำนวน 300 ทุน ในระดับปริญญาตรี ปีละ 40,000-50,000 บาท สำหรับเป็นค่าหน่วยกิต ค่าที่พัก ค่าอาหาร และค่าเดินทาง เพื่อเข้ามาเรียนในวิทยาลัยนาฏศิลปนครศรีธรรมราช วิทยาลัยนาฏศิลปพัทลุง วิทยาลัยช่างศิลปนครศรีธรรมราช ในส่วนของนักเรียนระดับต่ำกว่าปริญญาตรีนั้น ทาง สบศ. ก็ได้จัดสรรให้มีสิทธิเรียนฟรีตามนโยบายของรัฐบาลด้วย นอกจากนี้ สบศ. จะจัดสรรทุนผู้ที่มีความสามารถพิเศษ ให้กับนักเรียนนักศึกษาทั่วประเทศ ถึงร้อยละ 40 ของนักเรียนนักศึกษาทั้งหมด โดยสอบถามได้ที่วิทยาลัยนาฏศิลป วิทยาลัยช่างศิลปทั่วประเทศ หรือ สบศ. โทร. 0-2224-5923.
NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6
จี้องค์การค้าเร่งปั๊มตำรา 9 รายการ
จี้องค์การค้าเร่งปั๊มตำรา 9 รายการ
รมว.ศึกษาธิการ เร่งองค์การค้า ผลิตหนังสือเรียน อีก 9 รายการที่เหลือ ยืนยัน โรงเรียนจะได้รับหนังสือเรียน ทัน 25 พ.ค. นี้ แน่นอน...เมื่อวันที่ 21 พ.ค.นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้รายงานความคืบหน้าการจัดพิมพ์และการส่งมอบหนังสือเรียนตามโครงการเรียนฟรี เรียนดี 15 ปี อย่างมีคุณภาพว่า หนังสือหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2544 แบ่งเป็นหนังสือเรียน แบบฝึกหัด 73 รายการ และคู่มือครู 9 รายการ รวม 82 รายการ ตอนนี้ได้จัดพิมพ์แล้วเสร็จอยู่ระหว่างการส่งมอบ คิดเป็นร้อยละ 92 ส่วนหนังสือหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2551 ขณะนี้จัดพิมพ์เสร็จแล้วร้อยละ 91 แบ่งเป็นหนังสือเรียน แบบฝึกหัด 143 รายการ คู่มือครู 41 รายการ รวม 184 รายการ ทั้งนี้ หนังสือเรียนและแบบฝึกหัดทั้ง 2 หลักสูตรมีทั้งหมด 216 รายการ โดยขณะนี้องค์การค้าของสำนักงานคณะกรรมการสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) ได้พิมพ์เสร็จและวางจำหน่าย 207 รายการ เหลืออีกเพียง 9 รายการที่ยังพิมพ์ ไม่เสร็จและอยู่ระหว่างการดำเนินการ ได้แก่ ประวัติศาสตร์ สากล ม.4-6, อิสลามศึกษา ป.1, อิสลามศึกษา ป.3, อิสลามศึกษา ม.4-6, เทคโนโลยีและการสื่อสาร ป.4, แบบฝึกหัดเทคโนโลยีและการสื่อสาร ป.1, แบบฝึกหัดเทคโนโลยีและการสื่อสาร ป.4, เทคโนโลยีและการสื่อสาร ม.4-6 และหนังสือเรียนภาษาจาวารมว.ศึกษาธิการกล่าวอีกว่า สพฐ. รายงานว่าหนังสือที่เหลือองค์การค้าฯและโรงพิมพ์เอกชน กำลังเร่งจัดพิมพ์ให้แล้วเสร็จในวันที่ 25 พ.ค.นี้ ทั้งนี้ ตนได้กำชับ ดร.ชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กลับไปเร่งตรวจสอบการส่งมอบหนังสือเรียนของโรงเรียน สังกัด สพฐ.ว่าได้รับหนังสือกี่เปอร์เซ็นต์แล้ว ส่วนที่หลายฝ่ายกังวลว่าในวันที่ 25 พ.ค. จะมีโรงเรียนจำนวนมากไม่ได้รับหนังสือเรียนนั้น ตนได้ย้ำ สพฐ.ไปแล้ว ดังนั้นไม่น่าจะมีปัญหา เด็กจะมีหนังสือเรียนแน่นอน.
NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6
รมว.ศึกษาธิการ เร่งองค์การค้า ผลิตหนังสือเรียน อีก 9 รายการที่เหลือ ยืนยัน โรงเรียนจะได้รับหนังสือเรียน ทัน 25 พ.ค. นี้ แน่นอน...เมื่อวันที่ 21 พ.ค.นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้รายงานความคืบหน้าการจัดพิมพ์และการส่งมอบหนังสือเรียนตามโครงการเรียนฟรี เรียนดี 15 ปี อย่างมีคุณภาพว่า หนังสือหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2544 แบ่งเป็นหนังสือเรียน แบบฝึกหัด 73 รายการ และคู่มือครู 9 รายการ รวม 82 รายการ ตอนนี้ได้จัดพิมพ์แล้วเสร็จอยู่ระหว่างการส่งมอบ คิดเป็นร้อยละ 92 ส่วนหนังสือหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2551 ขณะนี้จัดพิมพ์เสร็จแล้วร้อยละ 91 แบ่งเป็นหนังสือเรียน แบบฝึกหัด 143 รายการ คู่มือครู 41 รายการ รวม 184 รายการ ทั้งนี้ หนังสือเรียนและแบบฝึกหัดทั้ง 2 หลักสูตรมีทั้งหมด 216 รายการ โดยขณะนี้องค์การค้าของสำนักงานคณะกรรมการสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) ได้พิมพ์เสร็จและวางจำหน่าย 207 รายการ เหลืออีกเพียง 9 รายการที่ยังพิมพ์ ไม่เสร็จและอยู่ระหว่างการดำเนินการ ได้แก่ ประวัติศาสตร์ สากล ม.4-6, อิสลามศึกษา ป.1, อิสลามศึกษา ป.3, อิสลามศึกษา ม.4-6, เทคโนโลยีและการสื่อสาร ป.4, แบบฝึกหัดเทคโนโลยีและการสื่อสาร ป.1, แบบฝึกหัดเทคโนโลยีและการสื่อสาร ป.4, เทคโนโลยีและการสื่อสาร ม.4-6 และหนังสือเรียนภาษาจาวารมว.ศึกษาธิการกล่าวอีกว่า สพฐ. รายงานว่าหนังสือที่เหลือองค์การค้าฯและโรงพิมพ์เอกชน กำลังเร่งจัดพิมพ์ให้แล้วเสร็จในวันที่ 25 พ.ค.นี้ ทั้งนี้ ตนได้กำชับ ดร.ชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กลับไปเร่งตรวจสอบการส่งมอบหนังสือเรียนของโรงเรียน สังกัด สพฐ.ว่าได้รับหนังสือกี่เปอร์เซ็นต์แล้ว ส่วนที่หลายฝ่ายกังวลว่าในวันที่ 25 พ.ค. จะมีโรงเรียนจำนวนมากไม่ได้รับหนังสือเรียนนั้น ตนได้ย้ำ สพฐ.ไปแล้ว ดังนั้นไม่น่าจะมีปัญหา เด็กจะมีหนังสือเรียนแน่นอน.
NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6
ศธ.ถกงบปี 54 เตรียมจ่อคิวแจงสภาฯ
ศธ.ถกงบปี 54 เตรียมจ่อคิวแจงสภาฯ
รัฐทุ่มการศึกษาวงเงิน 3.8 แสนล้านบาท อัดฉีดเพิ่มจากปี 53 เกือบ 12% เตรียมแจงสภา 26-27 พ.ค. นี้...นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยว่า ศธ.ได้พิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2554 ตามร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายปี 2554 ซึ่งจะนำเข้าพิจารณาในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ ระหว่างวันที่ 26-27 พ.ค.นี้ โดยปีนี้กระทรวงศึกษาธิการได้รับงบฯ จำนวน 388,050.3187 ล้านบาท เพิ่มจากปีงบประมาณ 2553 จำนวน 41,333.22 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 11.92 โดยแยกตามองค์กรหลักดังนี้ สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ 41,234 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.26% สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา 310 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.27% สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน 241,407 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.18% สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา 79,695 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.61% และสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา 79,695 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.33%รมว.ศึกษาธิการกล่าวอีกว่า สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา 298 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 56.82% สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา 209 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37.05% โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ 318 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.32% สถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการลงทุน 50 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.11% สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ 659 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 56.23% สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 1,586 ล้านบาท เพิ่ม 15.00% อย่างไรก็ตามงบฯที่ได้รับเพิ่มขึ้นจะนำไปดำเนินการในโครงการสำคัญต่างๆ อาทิ โครงการพัฒนาคุณภาพการศึกษาและมาตรฐานการศึกษาเพื่อการปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สอง 8,681 ล้านบาท โครงการยกระดับคุณภาพครูทั้งระบบ 2,757 ล้านบาท โครงการผลผลิตผู้ได้รับการสนับสนุนทุนการศึกษา 1,328 ล้านบาท โครงการโรงเรียนดีต้นแบบระดับตำบล 1,274 ล้านบาท โครงการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สอง 967 ล้านบาท โครงการจัดตั้งมหาวิทยาลัยพะเยา 668 ล้านบาท โครงการพัฒนาคุณภาพการศึกษาผ่านระบบสารสนเทศ 282 ล้านบาท โครงการผลิตครูพันธุ์ใหม่ 136 ล้านบาท โครงการจัดตั้งสถาบันอาชีวศึกษา 57 ล้านบาท.
NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6
รัฐทุ่มการศึกษาวงเงิน 3.8 แสนล้านบาท อัดฉีดเพิ่มจากปี 53 เกือบ 12% เตรียมแจงสภา 26-27 พ.ค. นี้...นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยว่า ศธ.ได้พิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2554 ตามร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายปี 2554 ซึ่งจะนำเข้าพิจารณาในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ ระหว่างวันที่ 26-27 พ.ค.นี้ โดยปีนี้กระทรวงศึกษาธิการได้รับงบฯ จำนวน 388,050.3187 ล้านบาท เพิ่มจากปีงบประมาณ 2553 จำนวน 41,333.22 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 11.92 โดยแยกตามองค์กรหลักดังนี้ สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ 41,234 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.26% สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา 310 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.27% สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน 241,407 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.18% สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา 79,695 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.61% และสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา 79,695 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.33%รมว.ศึกษาธิการกล่าวอีกว่า สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา 298 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 56.82% สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา 209 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37.05% โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ 318 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.32% สถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการลงทุน 50 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.11% สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ 659 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 56.23% สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 1,586 ล้านบาท เพิ่ม 15.00% อย่างไรก็ตามงบฯที่ได้รับเพิ่มขึ้นจะนำไปดำเนินการในโครงการสำคัญต่างๆ อาทิ โครงการพัฒนาคุณภาพการศึกษาและมาตรฐานการศึกษาเพื่อการปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สอง 8,681 ล้านบาท โครงการยกระดับคุณภาพครูทั้งระบบ 2,757 ล้านบาท โครงการผลผลิตผู้ได้รับการสนับสนุนทุนการศึกษา 1,328 ล้านบาท โครงการโรงเรียนดีต้นแบบระดับตำบล 1,274 ล้านบาท โครงการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สอง 967 ล้านบาท โครงการจัดตั้งมหาวิทยาลัยพะเยา 668 ล้านบาท โครงการพัฒนาคุณภาพการศึกษาผ่านระบบสารสนเทศ 282 ล้านบาท โครงการผลิตครูพันธุ์ใหม่ 136 ล้านบาท โครงการจัดตั้งสถาบันอาชีวศึกษา 57 ล้านบาท.
NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6
พิษม็อบทำลูกจ้างอ่วม ตกงานแล้วกว่า1.8หมื่นคน
พิษม็อบทำลูกจ้างอ่วม ตกงานแล้วกว่า1.8หมื่นคน
ก.แรงงานเร่งเยียวยาแรงงานที่ตกงาน จากพิษม็อบแดงป่วน ล่าสุดมีลูกจ้างลงทะเบียนรอความช่วยเหลือราว 1.8 หมื่นคนแล้ว... เมื่อวันที่ 22 พ.ค. ที่กระทรวงแรงงาน มีลูกจ้างที่ถูกเลิกจ้างและตกงาน เนื่องจากการชุมนุมทางการเมืองที่แยกราชประสงค์ ทยอยเดินทางมาลงทะเบียนขอรับความช่วยเหลือเป็นจำนวนมาก โดยนางสงศรี บุญบา รองอธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า ขณะนี้มีลูกจ้างที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว มาลงทะเบียนยอดสะสมเกือบ 18,000 คน โดยกระทรวงแรงงานจะพิจารณาให้ความช่วยเหลือทั้งการจ่ายเงินสิทธิกรณีว่างงาน การติดตามค่าชดเชยจากนายจ้างให้กับลูกจ้าง การติดตามค่าจ้างที่จ่ายไม่ครบให้กับลูกจ้าง และการจ่ายเบี้ยเลี้ยงฝึกอาชีพให้กับคนที่ต้องการเปลี่ยนงานให้กับประชาชน ที่ต้องการเปลี่ยนอาชีพวันละ 120 บาท เป็นเวลา 20 วัน.
NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6
ก.แรงงานเร่งเยียวยาแรงงานที่ตกงาน จากพิษม็อบแดงป่วน ล่าสุดมีลูกจ้างลงทะเบียนรอความช่วยเหลือราว 1.8 หมื่นคนแล้ว... เมื่อวันที่ 22 พ.ค. ที่กระทรวงแรงงาน มีลูกจ้างที่ถูกเลิกจ้างและตกงาน เนื่องจากการชุมนุมทางการเมืองที่แยกราชประสงค์ ทยอยเดินทางมาลงทะเบียนขอรับความช่วยเหลือเป็นจำนวนมาก โดยนางสงศรี บุญบา รองอธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า ขณะนี้มีลูกจ้างที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว มาลงทะเบียนยอดสะสมเกือบ 18,000 คน โดยกระทรวงแรงงานจะพิจารณาให้ความช่วยเหลือทั้งการจ่ายเงินสิทธิกรณีว่างงาน การติดตามค่าชดเชยจากนายจ้างให้กับลูกจ้าง การติดตามค่าจ้างที่จ่ายไม่ครบให้กับลูกจ้าง และการจ่ายเบี้ยเลี้ยงฝึกอาชีพให้กับคนที่ต้องการเปลี่ยนงานให้กับประชาชน ที่ต้องการเปลี่ยนอาชีพวันละ 120 บาท เป็นเวลา 20 วัน.
NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6
Friday, May 21, 2010
จี้อุดมเปิดประตูส่งนักศึกษาสู่อาเซียน
จี้อุดมเปิดประตูส่งนักศึกษาสู่อาเซียน
เป็นการเปิดประตูสู่ 9 ประเทศในอาเซียน เพราะสิ่งที่จะได้นอกจากประสบการณ์ การเรียนการสอนแล้ว นักศึกษาจะได้ความเป็นเอเชียอีกด้วย... ดร.สุเมธ แย้มนุ่น เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา กล่าวในการบรรยาย โอกาสในการพัฒนานักศึกษาไทยในยุคปัจจุบัน ในพิธีเปิดโครงการสัมมนา เรื่องทิศทางการพัฒนานิสิตนักศึกษา ภายใต้ภาวะวิกฤติ ว่า ขณะนี้ประเทศไทยกำลังเผชิญกับปัญหาคุณภาพการศึกษาอย่างต่อเนื่อง ทั้งคุณภาพของเด็กซึ่งเป็นตัวป้อนเข้าสู่ระบบอุดมศึกษา คุณภาพการจัดการศึกษา คุณภาพอาจารย์ในระดับอุดมศึกษา ตลอดจนสภาพแวดล้อมที่มีผลต่อความเป็นอยู่ ดังนั้น การวิเคราะห์บริบทของสถาบันอุดมศึกษาที่ยึดโยงกับการเปลี่ยนแปลงของโลกาภิวัตน์ ต้องคำนึงถึงสภาพทางสังคมและเศรษฐกิจที่กำลังเปลี่ยนแปลง โดยมีการเปิดเสรีในภูมิภาคเพิ่มมากขึ้น อยากให้สถาบันอุดมศึกษาจัดการเรียนการสอนโดยให้นักศึกษามีโอกาสไปศึกษาในประเทศเพื่อนบ้านอย่างน้อยหนึ่งภาคการศึกษา ซึ่งจะเป็นการเปิดประตูสู่ 9 ประเทศในอาเซียน เพราะสิ่งที่จะได้นอกจากประสบการณ์ การเรียนการสอนแล้ว นักศึกษาจะได้ความเป็นเอเชียอีกด้วย ซึ่งเราควรเตรียมความพร้อมของนักศึกษาเพื่อก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียน.
NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6
เป็นการเปิดประตูสู่ 9 ประเทศในอาเซียน เพราะสิ่งที่จะได้นอกจากประสบการณ์ การเรียนการสอนแล้ว นักศึกษาจะได้ความเป็นเอเชียอีกด้วย... ดร.สุเมธ แย้มนุ่น เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา กล่าวในการบรรยาย โอกาสในการพัฒนานักศึกษาไทยในยุคปัจจุบัน ในพิธีเปิดโครงการสัมมนา เรื่องทิศทางการพัฒนานิสิตนักศึกษา ภายใต้ภาวะวิกฤติ ว่า ขณะนี้ประเทศไทยกำลังเผชิญกับปัญหาคุณภาพการศึกษาอย่างต่อเนื่อง ทั้งคุณภาพของเด็กซึ่งเป็นตัวป้อนเข้าสู่ระบบอุดมศึกษา คุณภาพการจัดการศึกษา คุณภาพอาจารย์ในระดับอุดมศึกษา ตลอดจนสภาพแวดล้อมที่มีผลต่อความเป็นอยู่ ดังนั้น การวิเคราะห์บริบทของสถาบันอุดมศึกษาที่ยึดโยงกับการเปลี่ยนแปลงของโลกาภิวัตน์ ต้องคำนึงถึงสภาพทางสังคมและเศรษฐกิจที่กำลังเปลี่ยนแปลง โดยมีการเปิดเสรีในภูมิภาคเพิ่มมากขึ้น อยากให้สถาบันอุดมศึกษาจัดการเรียนการสอนโดยให้นักศึกษามีโอกาสไปศึกษาในประเทศเพื่อนบ้านอย่างน้อยหนึ่งภาคการศึกษา ซึ่งจะเป็นการเปิดประตูสู่ 9 ประเทศในอาเซียน เพราะสิ่งที่จะได้นอกจากประสบการณ์ การเรียนการสอนแล้ว นักศึกษาจะได้ความเป็นเอเชียอีกด้วย ซึ่งเราควรเตรียมความพร้อมของนักศึกษาเพื่อก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียน.
NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6
กรมอุทยานฯ ล้างข้อครหาซื้อขายเก้าอี้
กรมอุทยานฯ ล้างข้อครหาซื้อขายเก้าอี้
ต่อไปการเข้าสู่ในแต่ละตำแหน่งจะต้องผ่านการอบรม การสอบตามขั้นและไต่เต้าจากระดับเล็กๆ ขึ้นมาจนระดับ สูงสุด... นายจตุพร บุรุษพัฒน์ อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า กรมอุทยานฯ ได้วางแนวทางใน การปรับโครงสร้างกรมอุทยานฯใหม่ หลังถูกวิพากษ์ วิจารณ์ว่ามีปัญหาซื้อขายตำแหน่ง ทำให้เสียชื่อเสียงและภาพลักษณ์ โดยเฉพาะการจัดคนลงในตำแหน่งต่างๆ ซึ่งเดิมเป็นอำนาจของอธิบดี ที่อยากจะแต่งตั้งใครก็ได้ แต่ต่อไปการเข้าสู่ในแต่ละตำแหน่งจะต้องผ่านการอบรม การสอบตามขั้นและไต่เต้าจากระดับเล็กๆ ขึ้นมาจนระดับ สูงสุด โดยเห็นว่าในส่วนกลางอย่างน้อยตำแหน่งผู้อำนวยการส่วนลงมา ควรจะเป็นระดับ 8 หรือไม่ อธิบดีกรมอุทยานฯกล่าวต่อว่า เบื้องต้นมีการจัดเกรดอุทยานออกเป็น 3 ระดับ เอ บี และซี ตามจำนวนพื้นที่การดูแล ปริมาณนักท่องเที่ยวและรายได้ เช่น ดอยอินทนนท์ เขาใหญ่และอุทยานทางทะเลแถวอันดามัน ถือว่าเป็นเกรดเอ จึงทำให้มักมีข่าวเสมอๆ ว่ามีคนอยากไปนั่งเป็นหัวหน้าอุทยานฯ ดังนั้น จะแก้ปัญหาโดยการ นับหนึ่งใหม่ ให้ทุกคนเริ่มไต่เต้ามาจากอุทยานเล็ก กลาง ใหญ่ขึ้นมา ถ้าหากมีผลงานดี ก็จะได้ขยับไปในอุทยานฯ ที่ดีขึ้น ไม่ใช่ตัวเล็กแต่จะวิ่งขึ้นตำแหน่งใหญ่ๆ ทันที นอกจากนี้ จะตั้งกองนิติการ และกองไซเตสขึ้นเป็นสำนัก โดยเฉพาะกองนิติการนั้นมีคดีป่าไม้ สัตว์ป่าที่มีการร้องเรียนและต้องตรวจสอบนับ 100 คดีต่อปี ส่วนกองไซเตสนั้นต้องเกี่ยวข้องกับอนุสัญญาต่างประเทศหลายฉบับ คาดว่าโครงสร้างจะเสร็จชัดเจนภายในเดือน มิ.ย.นี้ ก่อนนำเสนอเข้าพิจารณาในอนุกรรมการข้าราชการพลเรือน (อ.ก.พ.) ตามขั้นตอน การปรับโครงสร้างจะตัดวงจรอุบาทว์และแก้ภาพพจน์การซื้อขายตำแหน่งได้ในอนาคต เพราะต่อไปแต่ละคนจะได้รู้ว่าลู่ของตัวเองจะอยู่ตรงไหน ถ้ามีการแบ่งงานตามความสามารถ มีการสอบเลื่อนตำแหน่งตามลำดับขั้น ทุกคนมองหน้าก็รู้กันหมดว่าใครเชี่ยวชาญด้านไหน อย่างไรก็ตาม จากที่ตั้งข้อสังเกตปัญหาการซื้อขายตำแหน่งขึ้นมาในระยะนี้ เพราะตรงกับช่วงฤดูกาลแต่งตั้งโยกย้ายช่วงกลางปี และเดือน ต.ค. ที่จะถึงก็คงมีอีก ถ้าได้ตำแหน่งดีก็พอใจ ถ้าไม่ได้ก็ไม่พอใจ นายจตุพร ระบุ.
NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6
ต่อไปการเข้าสู่ในแต่ละตำแหน่งจะต้องผ่านการอบรม การสอบตามขั้นและไต่เต้าจากระดับเล็กๆ ขึ้นมาจนระดับ สูงสุด... นายจตุพร บุรุษพัฒน์ อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า กรมอุทยานฯ ได้วางแนวทางใน การปรับโครงสร้างกรมอุทยานฯใหม่ หลังถูกวิพากษ์ วิจารณ์ว่ามีปัญหาซื้อขายตำแหน่ง ทำให้เสียชื่อเสียงและภาพลักษณ์ โดยเฉพาะการจัดคนลงในตำแหน่งต่างๆ ซึ่งเดิมเป็นอำนาจของอธิบดี ที่อยากจะแต่งตั้งใครก็ได้ แต่ต่อไปการเข้าสู่ในแต่ละตำแหน่งจะต้องผ่านการอบรม การสอบตามขั้นและไต่เต้าจากระดับเล็กๆ ขึ้นมาจนระดับ สูงสุด โดยเห็นว่าในส่วนกลางอย่างน้อยตำแหน่งผู้อำนวยการส่วนลงมา ควรจะเป็นระดับ 8 หรือไม่ อธิบดีกรมอุทยานฯกล่าวต่อว่า เบื้องต้นมีการจัดเกรดอุทยานออกเป็น 3 ระดับ เอ บี และซี ตามจำนวนพื้นที่การดูแล ปริมาณนักท่องเที่ยวและรายได้ เช่น ดอยอินทนนท์ เขาใหญ่และอุทยานทางทะเลแถวอันดามัน ถือว่าเป็นเกรดเอ จึงทำให้มักมีข่าวเสมอๆ ว่ามีคนอยากไปนั่งเป็นหัวหน้าอุทยานฯ ดังนั้น จะแก้ปัญหาโดยการ นับหนึ่งใหม่ ให้ทุกคนเริ่มไต่เต้ามาจากอุทยานเล็ก กลาง ใหญ่ขึ้นมา ถ้าหากมีผลงานดี ก็จะได้ขยับไปในอุทยานฯ ที่ดีขึ้น ไม่ใช่ตัวเล็กแต่จะวิ่งขึ้นตำแหน่งใหญ่ๆ ทันที นอกจากนี้ จะตั้งกองนิติการ และกองไซเตสขึ้นเป็นสำนัก โดยเฉพาะกองนิติการนั้นมีคดีป่าไม้ สัตว์ป่าที่มีการร้องเรียนและต้องตรวจสอบนับ 100 คดีต่อปี ส่วนกองไซเตสนั้นต้องเกี่ยวข้องกับอนุสัญญาต่างประเทศหลายฉบับ คาดว่าโครงสร้างจะเสร็จชัดเจนภายในเดือน มิ.ย.นี้ ก่อนนำเสนอเข้าพิจารณาในอนุกรรมการข้าราชการพลเรือน (อ.ก.พ.) ตามขั้นตอน การปรับโครงสร้างจะตัดวงจรอุบาทว์และแก้ภาพพจน์การซื้อขายตำแหน่งได้ในอนาคต เพราะต่อไปแต่ละคนจะได้รู้ว่าลู่ของตัวเองจะอยู่ตรงไหน ถ้ามีการแบ่งงานตามความสามารถ มีการสอบเลื่อนตำแหน่งตามลำดับขั้น ทุกคนมองหน้าก็รู้กันหมดว่าใครเชี่ยวชาญด้านไหน อย่างไรก็ตาม จากที่ตั้งข้อสังเกตปัญหาการซื้อขายตำแหน่งขึ้นมาในระยะนี้ เพราะตรงกับช่วงฤดูกาลแต่งตั้งโยกย้ายช่วงกลางปี และเดือน ต.ค. ที่จะถึงก็คงมีอีก ถ้าได้ตำแหน่งดีก็พอใจ ถ้าไม่ได้ก็ไม่พอใจ นายจตุพร ระบุ.
NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6
ชินวรณ์สั่งร.ร.ทั่วไทยเฝ้าระวังหลังถูกเผา3แห่ง
ชินวรณ์สั่งร.ร.ทั่วไทยเฝ้าระวังหลังถูกเผา3แห่ง
คมชัดลึก :ชินวรณ์ เผยโรงเรียนถูกลอบเผารอบแล้ว 3 แห่ง พร้อมสั่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง กำชับให้สถานศึกษาที่อยู่ในพื้นที่ประกาศภาวะฉุกเฉินจัดเวรยามเฝ้าระมัดระวัง
เมื่อวันที่ 21 พ.ค.2553 นายชินวรณ์ บุญเกียรติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เปิดเผยว่า ตนได้กำชับให้องค์กรหลักของศธ.ได้ทำบันทึกเพื่อกำชับไปยังสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา(สพท.)และสถานศึกษาในจังหวัดต่าง ๆที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินและยังมีความรุนแรงอยู่ เนื่องจากตนได้รับรายงานเบื้องต้นว่า ได้มีการรอบเผาโรงเรียนไปแล้ว 3 แห่งได้แก่โรงเรียนบ้านท่าเชียงเครือ ต.ป้งไฮ อ.เซกา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเขต 3 จังหวัด หนองคาย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 19 พ.ค. เวลาประมาณ 21.00น. โดยมีกาเผาอาคารเรียนแบบ ป.1ฉ. จำนวน 2 หลัง และคอมพิวเตอร์อุปกรณ์การเรียนถูกเพลิงไหม้เสียหาย โดยโรงเรียนดังกล่าวเป็นโรงเรียนขยายโอกาส มีนักเรียน 200กว่า คน ครู 13คน
รมว.ศธ. กล่าวอีกว่า ขณะนี้ทางสพท.ได้แก้ปัญหาเบื้องต้นด้วยการย้ายนักเรียนชั้นม.ต้น ไปเรียนในโรงเรียนใกล้เคียง ส่วนนักเรียนระดับประถม ได้ให้ใช้อาคารเรียนที่เหลือและให้ผู้ปกครองเข้ามาช่วยตั้งเต้นและช่วยดูแลนักเรียน นอกจากนี้ยังมีโรงเรียนบ้านยางเคียงหนองชม อ.เมือง จ.ยะโสธร โดยอาคารเรียนแบบ ป 1ช ขนาด 3ห้องเรียนได้ถูกเผาไป ทั้งนี้ การแก้ไขปัญหาเบื้องต้นโดยให้นักเรียนไปใช้ห้องสมุดและอาคารอเนกประสงค์เป็นสถานที่เรียนชั่วคราว รวมถึงได้รับรายงานว่าเมื่อวันที่ 20พ.ค. ได้เกิดเพลิงไหม้ที่โรงเรียนบ้านวังเกิ้ง อ.น้ำพรอง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเขต 4 จ.ขอนแก่น มีอาคารเรียนได้รับความเสียหายเล็กน้อยเนื่องจากพนักงานลูกจ้างของโรงเรียนได้อยู่เวรยามจึงช่วยกันดับเพลิงไว้ได้ทัน
นายชินวรณ์ กล่าวต่อไปว่า ภายหลังจากได้รับรายงานการรอบวางเพลิงโรงเรียนทั้งสามแห่งนี้แล้ว ตนจึงได้ประชาสัมพันธ์ไปยังสถานศึกษาทุกสังกัดที่อยู่ในพื้นที่จังหวัดต่าง ๆซึ่งอาจมีการก่อวินาศกรรมหรือสร้างสถานการณ์ทางการเมือง จึงขอให้มีการระมัดระวังเป็นพิเศษโดยการจัดเวรยามเฝ้าระวังรักษาความปลอดภัยและหากเห็นว่ามีการเคลื่อนไหวเพื่อนำไปสู่การทำลายสถานที่ราชการหรือสถานศึกษาก็ขอให้ผู้บริหารสถานศึกษา หรือครูที่อยู่เวรยามประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายปกครองเพื่อช่วยดำเนินการแก้ไขปัญหาที่จะเกิดขึ้น
"จากเหตุการณ์เผาโรงเรียน 3แห่งเกิดขึ้น ได้ให้สพท.นั้น ๆ ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง และคณะกรรมการตรวจสอบความเสียหาย เนื่องจากโรงเรียนทั้ง 3 แห่งนี้ถูกรอบวางเพลิงระหว่างวันที่ 19 และ 20 พ.ค. จึงได้ตั้งข้อสังเกตไว้ก่อนว่าอาจจะมีผลมาจากทางการเมืองได้ ทั้งนี้ ในส่วนของโรงเรียนในต่างจังหวัดนั้นได้มอบอำนาจให้แก่ผู้บริหารโรงเรียนประเมินสถานการณ์ว่ามีผลกระทบกับนักเรียนหรือไม่ หากมีผลกระทบก็ให้เลื่อนการเปิดเรียนไปก่อนได้" รมว.ศธ. กล่าว
NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6
คมชัดลึก :ชินวรณ์ เผยโรงเรียนถูกลอบเผารอบแล้ว 3 แห่ง พร้อมสั่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง กำชับให้สถานศึกษาที่อยู่ในพื้นที่ประกาศภาวะฉุกเฉินจัดเวรยามเฝ้าระมัดระวัง
เมื่อวันที่ 21 พ.ค.2553 นายชินวรณ์ บุญเกียรติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เปิดเผยว่า ตนได้กำชับให้องค์กรหลักของศธ.ได้ทำบันทึกเพื่อกำชับไปยังสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา(สพท.)และสถานศึกษาในจังหวัดต่าง ๆที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินและยังมีความรุนแรงอยู่ เนื่องจากตนได้รับรายงานเบื้องต้นว่า ได้มีการรอบเผาโรงเรียนไปแล้ว 3 แห่งได้แก่โรงเรียนบ้านท่าเชียงเครือ ต.ป้งไฮ อ.เซกา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเขต 3 จังหวัด หนองคาย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 19 พ.ค. เวลาประมาณ 21.00น. โดยมีกาเผาอาคารเรียนแบบ ป.1ฉ. จำนวน 2 หลัง และคอมพิวเตอร์อุปกรณ์การเรียนถูกเพลิงไหม้เสียหาย โดยโรงเรียนดังกล่าวเป็นโรงเรียนขยายโอกาส มีนักเรียน 200กว่า คน ครู 13คน
รมว.ศธ. กล่าวอีกว่า ขณะนี้ทางสพท.ได้แก้ปัญหาเบื้องต้นด้วยการย้ายนักเรียนชั้นม.ต้น ไปเรียนในโรงเรียนใกล้เคียง ส่วนนักเรียนระดับประถม ได้ให้ใช้อาคารเรียนที่เหลือและให้ผู้ปกครองเข้ามาช่วยตั้งเต้นและช่วยดูแลนักเรียน นอกจากนี้ยังมีโรงเรียนบ้านยางเคียงหนองชม อ.เมือง จ.ยะโสธร โดยอาคารเรียนแบบ ป 1ช ขนาด 3ห้องเรียนได้ถูกเผาไป ทั้งนี้ การแก้ไขปัญหาเบื้องต้นโดยให้นักเรียนไปใช้ห้องสมุดและอาคารอเนกประสงค์เป็นสถานที่เรียนชั่วคราว รวมถึงได้รับรายงานว่าเมื่อวันที่ 20พ.ค. ได้เกิดเพลิงไหม้ที่โรงเรียนบ้านวังเกิ้ง อ.น้ำพรอง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเขต 4 จ.ขอนแก่น มีอาคารเรียนได้รับความเสียหายเล็กน้อยเนื่องจากพนักงานลูกจ้างของโรงเรียนได้อยู่เวรยามจึงช่วยกันดับเพลิงไว้ได้ทัน
นายชินวรณ์ กล่าวต่อไปว่า ภายหลังจากได้รับรายงานการรอบวางเพลิงโรงเรียนทั้งสามแห่งนี้แล้ว ตนจึงได้ประชาสัมพันธ์ไปยังสถานศึกษาทุกสังกัดที่อยู่ในพื้นที่จังหวัดต่าง ๆซึ่งอาจมีการก่อวินาศกรรมหรือสร้างสถานการณ์ทางการเมือง จึงขอให้มีการระมัดระวังเป็นพิเศษโดยการจัดเวรยามเฝ้าระวังรักษาความปลอดภัยและหากเห็นว่ามีการเคลื่อนไหวเพื่อนำไปสู่การทำลายสถานที่ราชการหรือสถานศึกษาก็ขอให้ผู้บริหารสถานศึกษา หรือครูที่อยู่เวรยามประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายปกครองเพื่อช่วยดำเนินการแก้ไขปัญหาที่จะเกิดขึ้น
"จากเหตุการณ์เผาโรงเรียน 3แห่งเกิดขึ้น ได้ให้สพท.นั้น ๆ ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง และคณะกรรมการตรวจสอบความเสียหาย เนื่องจากโรงเรียนทั้ง 3 แห่งนี้ถูกรอบวางเพลิงระหว่างวันที่ 19 และ 20 พ.ค. จึงได้ตั้งข้อสังเกตไว้ก่อนว่าอาจจะมีผลมาจากทางการเมืองได้ ทั้งนี้ ในส่วนของโรงเรียนในต่างจังหวัดนั้นได้มอบอำนาจให้แก่ผู้บริหารโรงเรียนประเมินสถานการณ์ว่ามีผลกระทบกับนักเรียนหรือไม่ หากมีผลกระทบก็ให้เลื่อนการเปิดเรียนไปก่อนได้" รมว.ศธ. กล่าว
NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6
ให้ร.ร.ในกทม.ทุกสังกัดเปิดเทอม24พ.ค.เว้นเรดโซน
ให้ร.ร.ในกทม.ทุกสังกัดเปิดเทอม24พ.ค.เว้นเรดโซน
คมชัดลึก :ศธ.ให้สถานศึกษาในกทม.ทุกสังกัดเปิดเรียนในวันที่ 24 พ.ค.นี้ ยกเว้น 28 ร.ร.ในเรดโซนเปิด 31 พ.ค. รอเครียร์อาวุธ ขยะและรอให้ร.ร.ปลอดกลิ่นก่อน
เมื่อวันที่ 21 พ.ค.2553 นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวภายหลังเป็นประธานประชุมการเตรียมการและกำหนดแนวทางรับสถานการณ์ในช่วงเปิดภาคเรียน โดยมีตัวแทนหน่วยงานในกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ตัวแทนกองบัญชาการตำรวจนครบาล สำนักงานการศึกษากรุงเทพมหานคร ขสมก. การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนกรุงเทพ (บีทีเอส) รถไฟใต้ดิน ร่วมประชุมว่า หลังจากหารือกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องแล้วนั้น โรงเรียนทุกสังกัดในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร ได้ตัดสินใจเปิดเรียนวันที่ 24 พ.ค. จากเดิมที่เปิดภาคเรียนวันที่ 17 พ.ค. เว้นเพียงโรงเรียนที่อยู่ในพื้นที่พิเศษที่ ศอฉ. ได้ประกาศไว้จะเลื่อนการเปิดภาคเรียนเป็นวันที่ 31 พ.ค. เพื่อให้ ศอฉ.ตรวจสอบความปลอดภัยและทำความสะอาดพื้นที่ ซึ่งโรงเรียนที่จะเปิดเรียนในวันที่ 31 พ.ค.นี้มีจำนวน 28 โรง ดังนี้
โรงเรียนสังกัด กทม. จำนวน 17 โรง แยกเป็น 3 เขต คือ เขตปทุมวัน ได้แก่ โรงเรียนวัดปทุมวนาราม โรงเรียนวัดชัยมงคล โรงเรียนสระบัว โรงเรียนสวนลุมพินี โรงเรียนปทุมวัน โรงเรียนวัดบรมนิวาส โรงเรียนวัดดวงแข โรงเรียนปลูกจิต เขตบางรัก โรงเรียนวัดหัวลำโพง โรงเรียนสวนพลู โรงเรียนวัดม่วงแข โรงเรียนวัดแก้วแจ่มฟ้า โรงเรียนวัดมหาพฤฒาราม และ เขตราชเทวี โรงเรียนดิสหงสาราม โรงเรียนกิ่งเพชร โรงเรียนวัดพระยายัง และโรงเรียนทัศนารุณสุนทริการาม
โรงเรียนสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จำนวน 3 โรง ได้แก่ โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา โรงเรียนมักกะสันวิทยา โรงเรียนศรีอยุธยา โรงเรียนสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) จำนวน 2 โรง ได้แก่ โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) ปทุมวัน โรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ฝ่ายประถมศึกษา และฝ่ายมัธยมศึกษา โรงเรียนสังกัดสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) จำนวน 5 โรง ได้แก่ โรงเรียนกรุงเทพการบัญชีวิทยาลัย โรงเรียนมาแตร์เดอีวิทยาลัย โรงเรียนสยามบริหารธุรกิจ โรงเรียนร่วมฤดีศึกษา และโรงเรียนเซนต์โยเซฟคอนแวนต์ โรงเรียนสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) จำนวน 1 โรง ได้แก่ วิทยาบลัยสารพัดช่าง สาขาบ่อนไก่
รมว.ศธ. กล่าวต่อไปว่า ได้ให้ผู้บริหารสถานศึกษา ได้ติดตามสถานการณ์ดูแลความปลอดภัย โดยประสานกับศูนย์ความปลอดภัย กระทรวงคมนาคม ขสมก. รถไฟฟ้าบีทีเอส และรถไฟใต้ดิน อย่างไรก็ตาม สำหรับโรงเรียนในต่างจังหวัดที่เริ่มเปิดภาคเรียนตั้งแต่วันที่ 17 พ.ค.หากเป็นจังหวัดที่มีสถานการณ์ความวุ่นวายโดยได้มอบให้องค์กรหลักที่มีสถานศึกษาในสังกัดแจ้งไปยังสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ประสานไปยังสถานศึกษาติดตามเฝ้าระวังรักษาความปลอดภัยให้โรงเรียน โดยให้มีการจัดเจ้าหน้าที่รักษาความปบอดภัยแก่ครู นักเรียน จัดเจ้าหน้าที่ดูแลสถานที่ทั้งในและนอกเวลาราชการ รวมถึงให้เตรียมอุปกรณ์ป้องกันและรับมืออัคคีภัย รวมทั้งเฝ้าระวังการเข้า-ออกสถานศึกษาด้วย ทั้งหมดนี้สถานศึกษาจะต้องทำแผนชัดเจน
“การหารือในวันนี้เนื่องจากคำนึงความปลอดภัยของนักเรียน บุคลากร การเดินทางของเด็ก โดยเฉพาะโรงเรียนที่อยู่ในพื้นที่ควบคุมพิเศษจะต้องมีการตรวจค้นอาวุธ รวมถึงเรื่องความสะอาดที่จะต้องปราศจากกลิ่น อย่างไรก็ตาม หวังว่าสถานการณ์จะคลี่คลายลง ทางรัฐบาลจะให้ความสำคัญในการดูความปลอดภัยต่าง ๆ หากมีเหตุการณ์ที่ไม่ปกติก็ให้อำนาจผู้อำนวยการสถานศึกษาสั่งปิดได้ โดย ศธ.จะคอยติดตามประสานงานกับ ศอฉ.เพื่อติดตามสถานการณ์ให้ทุกอย่างคลี่คลายโดยเร็ว"นายชินวรณ์ กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้องชินวรณ์กำชับผอ.ร.ร.ทั่วประเทศเฝ้าระวังเหตุร้ายแดงเผาเมืองธปท.สั่งปิดแบงก์ตลาดหุ้นรถไฟฟ้าหยุดยันให้ร.ร.สังกัดศธ.ในกทม.เปิดเรียน24พ.ค.หยุดราชการในกทม.อีก3วันปิด52ปั้มพื้นที่ชุมนุมครูหยุยนักสิทธิเด็กจวกแกนนำแดงใช้เด็กเป็นโล่ห์
NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6
คมชัดลึก :ศธ.ให้สถานศึกษาในกทม.ทุกสังกัดเปิดเรียนในวันที่ 24 พ.ค.นี้ ยกเว้น 28 ร.ร.ในเรดโซนเปิด 31 พ.ค. รอเครียร์อาวุธ ขยะและรอให้ร.ร.ปลอดกลิ่นก่อน
เมื่อวันที่ 21 พ.ค.2553 นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวภายหลังเป็นประธานประชุมการเตรียมการและกำหนดแนวทางรับสถานการณ์ในช่วงเปิดภาคเรียน โดยมีตัวแทนหน่วยงานในกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ตัวแทนกองบัญชาการตำรวจนครบาล สำนักงานการศึกษากรุงเทพมหานคร ขสมก. การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนกรุงเทพ (บีทีเอส) รถไฟใต้ดิน ร่วมประชุมว่า หลังจากหารือกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องแล้วนั้น โรงเรียนทุกสังกัดในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร ได้ตัดสินใจเปิดเรียนวันที่ 24 พ.ค. จากเดิมที่เปิดภาคเรียนวันที่ 17 พ.ค. เว้นเพียงโรงเรียนที่อยู่ในพื้นที่พิเศษที่ ศอฉ. ได้ประกาศไว้จะเลื่อนการเปิดภาคเรียนเป็นวันที่ 31 พ.ค. เพื่อให้ ศอฉ.ตรวจสอบความปลอดภัยและทำความสะอาดพื้นที่ ซึ่งโรงเรียนที่จะเปิดเรียนในวันที่ 31 พ.ค.นี้มีจำนวน 28 โรง ดังนี้
โรงเรียนสังกัด กทม. จำนวน 17 โรง แยกเป็น 3 เขต คือ เขตปทุมวัน ได้แก่ โรงเรียนวัดปทุมวนาราม โรงเรียนวัดชัยมงคล โรงเรียนสระบัว โรงเรียนสวนลุมพินี โรงเรียนปทุมวัน โรงเรียนวัดบรมนิวาส โรงเรียนวัดดวงแข โรงเรียนปลูกจิต เขตบางรัก โรงเรียนวัดหัวลำโพง โรงเรียนสวนพลู โรงเรียนวัดม่วงแข โรงเรียนวัดแก้วแจ่มฟ้า โรงเรียนวัดมหาพฤฒาราม และ เขตราชเทวี โรงเรียนดิสหงสาราม โรงเรียนกิ่งเพชร โรงเรียนวัดพระยายัง และโรงเรียนทัศนารุณสุนทริการาม
โรงเรียนสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จำนวน 3 โรง ได้แก่ โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา โรงเรียนมักกะสันวิทยา โรงเรียนศรีอยุธยา โรงเรียนสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) จำนวน 2 โรง ได้แก่ โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) ปทุมวัน โรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ฝ่ายประถมศึกษา และฝ่ายมัธยมศึกษา โรงเรียนสังกัดสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) จำนวน 5 โรง ได้แก่ โรงเรียนกรุงเทพการบัญชีวิทยาลัย โรงเรียนมาแตร์เดอีวิทยาลัย โรงเรียนสยามบริหารธุรกิจ โรงเรียนร่วมฤดีศึกษา และโรงเรียนเซนต์โยเซฟคอนแวนต์ โรงเรียนสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) จำนวน 1 โรง ได้แก่ วิทยาบลัยสารพัดช่าง สาขาบ่อนไก่
รมว.ศธ. กล่าวต่อไปว่า ได้ให้ผู้บริหารสถานศึกษา ได้ติดตามสถานการณ์ดูแลความปลอดภัย โดยประสานกับศูนย์ความปลอดภัย กระทรวงคมนาคม ขสมก. รถไฟฟ้าบีทีเอส และรถไฟใต้ดิน อย่างไรก็ตาม สำหรับโรงเรียนในต่างจังหวัดที่เริ่มเปิดภาคเรียนตั้งแต่วันที่ 17 พ.ค.หากเป็นจังหวัดที่มีสถานการณ์ความวุ่นวายโดยได้มอบให้องค์กรหลักที่มีสถานศึกษาในสังกัดแจ้งไปยังสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ประสานไปยังสถานศึกษาติดตามเฝ้าระวังรักษาความปลอดภัยให้โรงเรียน โดยให้มีการจัดเจ้าหน้าที่รักษาความปบอดภัยแก่ครู นักเรียน จัดเจ้าหน้าที่ดูแลสถานที่ทั้งในและนอกเวลาราชการ รวมถึงให้เตรียมอุปกรณ์ป้องกันและรับมืออัคคีภัย รวมทั้งเฝ้าระวังการเข้า-ออกสถานศึกษาด้วย ทั้งหมดนี้สถานศึกษาจะต้องทำแผนชัดเจน
“การหารือในวันนี้เนื่องจากคำนึงความปลอดภัยของนักเรียน บุคลากร การเดินทางของเด็ก โดยเฉพาะโรงเรียนที่อยู่ในพื้นที่ควบคุมพิเศษจะต้องมีการตรวจค้นอาวุธ รวมถึงเรื่องความสะอาดที่จะต้องปราศจากกลิ่น อย่างไรก็ตาม หวังว่าสถานการณ์จะคลี่คลายลง ทางรัฐบาลจะให้ความสำคัญในการดูความปลอดภัยต่าง ๆ หากมีเหตุการณ์ที่ไม่ปกติก็ให้อำนาจผู้อำนวยการสถานศึกษาสั่งปิดได้ โดย ศธ.จะคอยติดตามประสานงานกับ ศอฉ.เพื่อติดตามสถานการณ์ให้ทุกอย่างคลี่คลายโดยเร็ว"นายชินวรณ์ กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้องชินวรณ์กำชับผอ.ร.ร.ทั่วประเทศเฝ้าระวังเหตุร้ายแดงเผาเมืองธปท.สั่งปิดแบงก์ตลาดหุ้นรถไฟฟ้าหยุดยันให้ร.ร.สังกัดศธ.ในกทม.เปิดเรียน24พ.ค.หยุดราชการในกทม.อีก3วันปิด52ปั้มพื้นที่ชุมนุมครูหยุยนักสิทธิเด็กจวกแกนนำแดงใช้เด็กเป็นโล่ห์
NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6
จี้อุดมเปิดประตูส่งนักศึกษาสู่อาเซียน
จี้อุดมเปิดประตูส่งนักศึกษาสู่อาเซียน
เป็นการเปิดประตูสู่ 9 ประเทศในอาเซียน เพราะสิ่งที่จะได้นอกจากประสบการณ์ การเรียนการสอนแล้ว นักศึกษาจะได้ความเป็นเอเชียอีกด้วย... ดร.สุเมธ แย้มนุ่น เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา กล่าวในการบรรยาย โอกาสในการพัฒนานักศึกษาไทยในยุคปัจจุบัน ในพิธีเปิดโครงการสัมมนา เรื่องทิศทางการพัฒนานิสิตนักศึกษา ภายใต้ภาวะวิกฤติ ว่า ขณะนี้ประเทศไทยกำลังเผชิญกับปัญหาคุณภาพการศึกษาอย่างต่อเนื่อง ทั้งคุณภาพของเด็กซึ่งเป็นตัวป้อนเข้าสู่ระบบอุดมศึกษา คุณภาพการจัดการศึกษา คุณภาพอาจารย์ในระดับอุดมศึกษา ตลอดจนสภาพแวดล้อมที่มีผลต่อความเป็นอยู่ ดังนั้น การวิเคราะห์บริบทของสถาบันอุดมศึกษาที่ยึดโยงกับการเปลี่ยนแปลงของโลกาภิวัตน์ ต้องคำนึงถึงสภาพทางสังคมและเศรษฐกิจที่กำลังเปลี่ยนแปลง โดยมีการเปิดเสรีในภูมิภาคเพิ่มมากขึ้น อยากให้สถาบันอุดมศึกษาจัดการเรียนการสอนโดยให้นักศึกษามีโอกาสไปศึกษาในประเทศเพื่อนบ้านอย่างน้อยหนึ่งภาคการศึกษา ซึ่งจะเป็นการเปิดประตูสู่ 9 ประเทศในอาเซียน เพราะสิ่งที่จะได้นอกจากประสบการณ์ การเรียนการสอนแล้ว นักศึกษาจะได้ความเป็นเอเชียอีกด้วย ซึ่งเราควรเตรียมความพร้อมของนักศึกษาเพื่อก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียน.
NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6
เป็นการเปิดประตูสู่ 9 ประเทศในอาเซียน เพราะสิ่งที่จะได้นอกจากประสบการณ์ การเรียนการสอนแล้ว นักศึกษาจะได้ความเป็นเอเชียอีกด้วย... ดร.สุเมธ แย้มนุ่น เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา กล่าวในการบรรยาย โอกาสในการพัฒนานักศึกษาไทยในยุคปัจจุบัน ในพิธีเปิดโครงการสัมมนา เรื่องทิศทางการพัฒนานิสิตนักศึกษา ภายใต้ภาวะวิกฤติ ว่า ขณะนี้ประเทศไทยกำลังเผชิญกับปัญหาคุณภาพการศึกษาอย่างต่อเนื่อง ทั้งคุณภาพของเด็กซึ่งเป็นตัวป้อนเข้าสู่ระบบอุดมศึกษา คุณภาพการจัดการศึกษา คุณภาพอาจารย์ในระดับอุดมศึกษา ตลอดจนสภาพแวดล้อมที่มีผลต่อความเป็นอยู่ ดังนั้น การวิเคราะห์บริบทของสถาบันอุดมศึกษาที่ยึดโยงกับการเปลี่ยนแปลงของโลกาภิวัตน์ ต้องคำนึงถึงสภาพทางสังคมและเศรษฐกิจที่กำลังเปลี่ยนแปลง โดยมีการเปิดเสรีในภูมิภาคเพิ่มมากขึ้น อยากให้สถาบันอุดมศึกษาจัดการเรียนการสอนโดยให้นักศึกษามีโอกาสไปศึกษาในประเทศเพื่อนบ้านอย่างน้อยหนึ่งภาคการศึกษา ซึ่งจะเป็นการเปิดประตูสู่ 9 ประเทศในอาเซียน เพราะสิ่งที่จะได้นอกจากประสบการณ์ การเรียนการสอนแล้ว นักศึกษาจะได้ความเป็นเอเชียอีกด้วย ซึ่งเราควรเตรียมความพร้อมของนักศึกษาเพื่อก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียน.
NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6
ชินวรณ์สั่งทุกองค์กรหลักตั้งทีมแจงงบปี54
ชินวรณ์สั่งทุกองค์กรหลักตั้งทีมแจงงบปี54
คมชัดลึก :รมว.ศธ. สั่งทุกองค์กรหลักตั้งทีมชี้แจงงบประมาณ 54 ต่อสภาฯ เผยกรอบวงเงินงบ 54 ของ ศธ.ได้ 3.88 แสนล้านบาท เพิ่มจากปี 53 ถึง 11.92 %
เมื่อวันที่ 21 พ.ค.2553 นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ. ) เปิดเผยภายหลังประชุมร่วมกับผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ว่า พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2554 จะเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร์ในวันที่ 26-27 พ.ค.นี้ เพราะฉะนั้น จึงได้สั่งการให้ทุกองค์กรหลักจัดทีมชี้แจ้งงบประมาณต่อสภาพร้อมจัดทำเอกสารประกอบการชี้แจ้ง โดยให้มีหัวหน้าทีมเป็นระดับเลขาธิการหรือรองเลขาธิการ
รมว.ศธ. กล่าวอีกว่า สำหรับกรอบวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2554 ที่ ศธ.ได้รับรวมทั้งหมด 388,050.3187 ล้านบาท เพิ่มจากปี 2553 ร้อยละ 11.92 หรือ 41,337 ล้านบาท โดยจำแนกตามหน่วยงานดังนี้ สำนักปลัดศธ.ได้รับ 41,234 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.26 สภาการศึกษา 310 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 28.27 สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน 241,407 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.18 สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา 22,284 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 23.61 สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา 79,695 ล้านบาท เพิ่มร้อยละ 19.33 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี(สสวท.) 1,586 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 15 คุรุสภา 298 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 56.82 สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) 209 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 37.05 โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ 318 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.32 สถาบันระหว่างประเทศเพื่อการพัฒนา 50 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 17.11 สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ 659 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 56.23 งบประมาณกองทุนและเงินหมุนเวียน 975 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 550 (ปี 2553 ได้งบ 150 ล้านบาท )
นายชินวรณ์ กล่าวด้วยว่า งบประมาณที่ได้เพิ่มขึ้นนั้นส่วนใหญ่เป็นงบประมาณโครงการใหม่ ๆ ตามนโยบายของรัฐบาลที่เน้นการปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สอง อาทิ โครงการพัฒนาคุณภาพการศึกษาและมาตรฐานการศึกษาเพื่อปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สอง จำนวน 8,681 ล้านบาท โครงการยกระดับคุณภาพครูทั้งระบบ 2,757 ล้านบาท โครงการโรงเรียนดีประจำตำบล 1,274 ล้านบาท โครงการจัดตั้งม.พะเยา 668 ล้านบาท เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม งบประมาณครึ่งหนึ่งหรือ ร้อยละ 52.52 หรือ 203,802 ล้านบาท เพื่องบบุคลากร งบลงทุนแค่ ร้อยละ 6.65 หรือ 25,802 ล้านบาท แต่งบลงทุนปีนี้เพิ่มจากปี 53 ถึง ร้อยละ 131.81 เพราะปี 53 ได้รับงบลงทุนแค่ 11,131 ล้านบาท ส่วนงบเงินอุดหนุนรายหัวนั้น ได้รับ 124,512 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 32.09 ของงบทั้งหมด เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.12 จากปี2553 ที่ ศธ.ได้รับงบเงินอุดหนุนรายหัวแค่ 113,071 ล้านบาท
ข่าวที่เกี่ยวข้องให้ร.ร.ในกทม.ทุกสังกัดเปิดเทอม24พ.ค.เว้นเรดโซนศอฉ.ร่วมกับตร.บุกยึดสถานีวิทยุแดงปทุมธานีแม่ทัพภาค2ไล่ล่าแกนนำแดงเรียกอีก20รายงานตัว"มาร์ค"แถลงเร่งฟี้นฟูผู้รับผลกระทบ จับกุมอีก1แกนนำเสื้อแดงอุบลฝากขังที่เรือนจำ
NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6
คมชัดลึก :รมว.ศธ. สั่งทุกองค์กรหลักตั้งทีมชี้แจงงบประมาณ 54 ต่อสภาฯ เผยกรอบวงเงินงบ 54 ของ ศธ.ได้ 3.88 แสนล้านบาท เพิ่มจากปี 53 ถึง 11.92 %
เมื่อวันที่ 21 พ.ค.2553 นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ. ) เปิดเผยภายหลังประชุมร่วมกับผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ว่า พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2554 จะเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร์ในวันที่ 26-27 พ.ค.นี้ เพราะฉะนั้น จึงได้สั่งการให้ทุกองค์กรหลักจัดทีมชี้แจ้งงบประมาณต่อสภาพร้อมจัดทำเอกสารประกอบการชี้แจ้ง โดยให้มีหัวหน้าทีมเป็นระดับเลขาธิการหรือรองเลขาธิการ
รมว.ศธ. กล่าวอีกว่า สำหรับกรอบวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2554 ที่ ศธ.ได้รับรวมทั้งหมด 388,050.3187 ล้านบาท เพิ่มจากปี 2553 ร้อยละ 11.92 หรือ 41,337 ล้านบาท โดยจำแนกตามหน่วยงานดังนี้ สำนักปลัดศธ.ได้รับ 41,234 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.26 สภาการศึกษา 310 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 28.27 สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน 241,407 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.18 สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา 22,284 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 23.61 สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา 79,695 ล้านบาท เพิ่มร้อยละ 19.33 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี(สสวท.) 1,586 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 15 คุรุสภา 298 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 56.82 สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) 209 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 37.05 โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ 318 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.32 สถาบันระหว่างประเทศเพื่อการพัฒนา 50 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 17.11 สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ 659 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 56.23 งบประมาณกองทุนและเงินหมุนเวียน 975 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 550 (ปี 2553 ได้งบ 150 ล้านบาท )
นายชินวรณ์ กล่าวด้วยว่า งบประมาณที่ได้เพิ่มขึ้นนั้นส่วนใหญ่เป็นงบประมาณโครงการใหม่ ๆ ตามนโยบายของรัฐบาลที่เน้นการปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สอง อาทิ โครงการพัฒนาคุณภาพการศึกษาและมาตรฐานการศึกษาเพื่อปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สอง จำนวน 8,681 ล้านบาท โครงการยกระดับคุณภาพครูทั้งระบบ 2,757 ล้านบาท โครงการโรงเรียนดีประจำตำบล 1,274 ล้านบาท โครงการจัดตั้งม.พะเยา 668 ล้านบาท เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม งบประมาณครึ่งหนึ่งหรือ ร้อยละ 52.52 หรือ 203,802 ล้านบาท เพื่องบบุคลากร งบลงทุนแค่ ร้อยละ 6.65 หรือ 25,802 ล้านบาท แต่งบลงทุนปีนี้เพิ่มจากปี 53 ถึง ร้อยละ 131.81 เพราะปี 53 ได้รับงบลงทุนแค่ 11,131 ล้านบาท ส่วนงบเงินอุดหนุนรายหัวนั้น ได้รับ 124,512 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 32.09 ของงบทั้งหมด เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.12 จากปี2553 ที่ ศธ.ได้รับงบเงินอุดหนุนรายหัวแค่ 113,071 ล้านบาท
ข่าวที่เกี่ยวข้องให้ร.ร.ในกทม.ทุกสังกัดเปิดเทอม24พ.ค.เว้นเรดโซนศอฉ.ร่วมกับตร.บุกยึดสถานีวิทยุแดงปทุมธานีแม่ทัพภาค2ไล่ล่าแกนนำแดงเรียกอีก20รายงานตัว"มาร์ค"แถลงเร่งฟี้นฟูผู้รับผลกระทบ จับกุมอีก1แกนนำเสื้อแดงอุบลฝากขังที่เรือนจำ
NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6
กรมอุทยานฯ ล้างข้อครหาซื้อขายเก้าอี้
กรมอุทยานฯ ล้างข้อครหาซื้อขายเก้าอี้
ต่อไปการเข้าสู่ในแต่ละตำแหน่งจะต้องผ่านการอบรม การสอบตามขั้นและไต่เต้าจากระดับเล็กๆ ขึ้นมาจนระดับ สูงสุด... นายจตุพร บุรุษพัฒน์ อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า กรมอุทยานฯ ได้วางแนวทางใน การปรับโครงสร้างกรมอุทยานฯใหม่ หลังถูกวิพากษ์ วิจารณ์ว่ามีปัญหาซื้อขายตำแหน่ง ทำให้เสียชื่อเสียงและภาพลักษณ์ โดยเฉพาะการจัดคนลงในตำแหน่งต่างๆ ซึ่งเดิมเป็นอำนาจของอธิบดี ที่อยากจะแต่งตั้งใครก็ได้ แต่ต่อไปการเข้าสู่ในแต่ละตำแหน่งจะต้องผ่านการอบรม การสอบตามขั้นและไต่เต้าจากระดับเล็กๆ ขึ้นมาจนระดับ สูงสุด โดยเห็นว่าในส่วนกลางอย่างน้อยตำแหน่งผู้อำนวยการส่วนลงมา ควรจะเป็นระดับ 8 หรือไม่ อธิบดีกรมอุทยานฯกล่าวต่อว่า เบื้องต้นมีการจัดเกรดอุทยานออกเป็น 3 ระดับ เอ บี และซี ตามจำนวนพื้นที่การดูแล ปริมาณนักท่องเที่ยวและรายได้ เช่น ดอยอินทนนท์ เขาใหญ่และอุทยานทางทะเลแถวอันดามัน ถือว่าเป็นเกรดเอ จึงทำให้มักมีข่าวเสมอๆ ว่ามีคนอยากไปนั่งเป็นหัวหน้าอุทยานฯ ดังนั้น จะแก้ปัญหาโดยการ นับหนึ่งใหม่ ให้ทุกคนเริ่มไต่เต้ามาจากอุทยานเล็ก กลาง ใหญ่ขึ้นมา ถ้าหากมีผลงานดี ก็จะได้ขยับไปในอุทยานฯ ที่ดีขึ้น ไม่ใช่ตัวเล็กแต่จะวิ่งขึ้นตำแหน่งใหญ่ๆ ทันที นอกจากนี้ จะตั้งกองนิติการ และกองไซเตสขึ้นเป็นสำนัก โดยเฉพาะกองนิติการนั้นมีคดีป่าไม้ สัตว์ป่าที่มีการร้องเรียนและต้องตรวจสอบนับ 100 คดีต่อปี ส่วนกองไซเตสนั้นต้องเกี่ยวข้องกับอนุสัญญาต่างประเทศหลายฉบับ คาดว่าโครงสร้างจะเสร็จชัดเจนภายในเดือน มิ.ย.นี้ ก่อนนำเสนอเข้าพิจารณาในอนุกรรมการข้าราชการพลเรือน (อ.ก.พ.) ตามขั้นตอน การปรับโครงสร้างจะตัดวงจรอุบาทว์และแก้ภาพพจน์การซื้อขายตำแหน่งได้ในอนาคต เพราะต่อไปแต่ละคนจะได้รู้ว่าลู่ของตัวเองจะอยู่ตรงไหน ถ้ามีการแบ่งงานตามความสามารถ มีการสอบเลื่อนตำแหน่งตามลำดับขั้น ทุกคนมองหน้าก็รู้กันหมดว่าใครเชี่ยวชาญด้านไหน อย่างไรก็ตาม จากที่ตั้งข้อสังเกตปัญหาการซื้อขายตำแหน่งขึ้นมาในระยะนี้ เพราะตรงกับช่วงฤดูกาลแต่งตั้งโยกย้ายช่วงกลางปี และเดือน ต.ค. ที่จะถึงก็คงมีอีก ถ้าได้ตำแหน่งดีก็พอใจ ถ้าไม่ได้ก็ไม่พอใจ นายจตุพร ระบุ.
NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6
ต่อไปการเข้าสู่ในแต่ละตำแหน่งจะต้องผ่านการอบรม การสอบตามขั้นและไต่เต้าจากระดับเล็กๆ ขึ้นมาจนระดับ สูงสุด... นายจตุพร บุรุษพัฒน์ อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า กรมอุทยานฯ ได้วางแนวทางใน การปรับโครงสร้างกรมอุทยานฯใหม่ หลังถูกวิพากษ์ วิจารณ์ว่ามีปัญหาซื้อขายตำแหน่ง ทำให้เสียชื่อเสียงและภาพลักษณ์ โดยเฉพาะการจัดคนลงในตำแหน่งต่างๆ ซึ่งเดิมเป็นอำนาจของอธิบดี ที่อยากจะแต่งตั้งใครก็ได้ แต่ต่อไปการเข้าสู่ในแต่ละตำแหน่งจะต้องผ่านการอบรม การสอบตามขั้นและไต่เต้าจากระดับเล็กๆ ขึ้นมาจนระดับ สูงสุด โดยเห็นว่าในส่วนกลางอย่างน้อยตำแหน่งผู้อำนวยการส่วนลงมา ควรจะเป็นระดับ 8 หรือไม่ อธิบดีกรมอุทยานฯกล่าวต่อว่า เบื้องต้นมีการจัดเกรดอุทยานออกเป็น 3 ระดับ เอ บี และซี ตามจำนวนพื้นที่การดูแล ปริมาณนักท่องเที่ยวและรายได้ เช่น ดอยอินทนนท์ เขาใหญ่และอุทยานทางทะเลแถวอันดามัน ถือว่าเป็นเกรดเอ จึงทำให้มักมีข่าวเสมอๆ ว่ามีคนอยากไปนั่งเป็นหัวหน้าอุทยานฯ ดังนั้น จะแก้ปัญหาโดยการ นับหนึ่งใหม่ ให้ทุกคนเริ่มไต่เต้ามาจากอุทยานเล็ก กลาง ใหญ่ขึ้นมา ถ้าหากมีผลงานดี ก็จะได้ขยับไปในอุทยานฯ ที่ดีขึ้น ไม่ใช่ตัวเล็กแต่จะวิ่งขึ้นตำแหน่งใหญ่ๆ ทันที นอกจากนี้ จะตั้งกองนิติการ และกองไซเตสขึ้นเป็นสำนัก โดยเฉพาะกองนิติการนั้นมีคดีป่าไม้ สัตว์ป่าที่มีการร้องเรียนและต้องตรวจสอบนับ 100 คดีต่อปี ส่วนกองไซเตสนั้นต้องเกี่ยวข้องกับอนุสัญญาต่างประเทศหลายฉบับ คาดว่าโครงสร้างจะเสร็จชัดเจนภายในเดือน มิ.ย.นี้ ก่อนนำเสนอเข้าพิจารณาในอนุกรรมการข้าราชการพลเรือน (อ.ก.พ.) ตามขั้นตอน การปรับโครงสร้างจะตัดวงจรอุบาทว์และแก้ภาพพจน์การซื้อขายตำแหน่งได้ในอนาคต เพราะต่อไปแต่ละคนจะได้รู้ว่าลู่ของตัวเองจะอยู่ตรงไหน ถ้ามีการแบ่งงานตามความสามารถ มีการสอบเลื่อนตำแหน่งตามลำดับขั้น ทุกคนมองหน้าก็รู้กันหมดว่าใครเชี่ยวชาญด้านไหน อย่างไรก็ตาม จากที่ตั้งข้อสังเกตปัญหาการซื้อขายตำแหน่งขึ้นมาในระยะนี้ เพราะตรงกับช่วงฤดูกาลแต่งตั้งโยกย้ายช่วงกลางปี และเดือน ต.ค. ที่จะถึงก็คงมีอีก ถ้าได้ตำแหน่งดีก็พอใจ ถ้าไม่ได้ก็ไม่พอใจ นายจตุพร ระบุ.
NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6
ชินวรณ์สั่งร.ร.ทั่วไทยเฝ้าระวังหลังถูกเผา3แห่ง
ชินวรณ์สั่งร.ร.ทั่วไทยเฝ้าระวังหลังถูกเผา3แห่ง
คมชัดลึก :ชินวรณ์ เผยโรงเรียนถูกลอบเผารอบแล้ว 3 แห่ง พร้อมสั่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง กำชับให้สถานศึกษาที่อยู่ในพื้นที่ประกาศภาวะฉุกเฉินจัดเวรยามเฝ้าระมัดระวัง
เมื่อวันที่ 21 พ.ค.2553 นายชินวรณ์ บุญเกียรติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เปิดเผยว่า ตนได้กำชับให้องค์กรหลักของศธ.ได้ทำบันทึกเพื่อกำชับไปยังสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา(สพท.)และสถานศึกษาในจังหวัดต่าง ๆที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินและยังมีความรุนแรงอยู่ เนื่องจากตนได้รับรายงานเบื้องต้นว่า ได้มีการรอบเผาโรงเรียนไปแล้ว 3 แห่งได้แก่โรงเรียนบ้านท่าเชียงเครือ ต.ป้งไฮ อ.เซกา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเขต 3 จังหวัด หนองคาย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 19 พ.ค. เวลาประมาณ 21.00น. โดยมีกาเผาอาคารเรียนแบบ ป.1ฉ. จำนวน 2 หลัง และคอมพิวเตอร์อุปกรณ์การเรียนถูกเพลิงไหม้เสียหาย โดยโรงเรียนดังกล่าวเป็นโรงเรียนขยายโอกาส มีนักเรียน 200กว่า คน ครู 13คน
รมว.ศธ. กล่าวอีกว่า ขณะนี้ทางสพท.ได้แก้ปัญหาเบื้องต้นด้วยการย้ายนักเรียนชั้นม.ต้น ไปเรียนในโรงเรียนใกล้เคียง ส่วนนักเรียนระดับประถม ได้ให้ใช้อาคารเรียนที่เหลือและให้ผู้ปกครองเข้ามาช่วยตั้งเต้นและช่วยดูแลนักเรียน นอกจากนี้ยังมีโรงเรียนบ้านยางเคียงหนองชม อ.เมือง จ.ยะโสธร โดยอาคารเรียนแบบ ป 1ช ขนาด 3ห้องเรียนได้ถูกเผาไป ทั้งนี้ การแก้ไขปัญหาเบื้องต้นโดยให้นักเรียนไปใช้ห้องสมุดและอาคารอเนกประสงค์เป็นสถานที่เรียนชั่วคราว รวมถึงได้รับรายงานว่าเมื่อวันที่ 20พ.ค. ได้เกิดเพลิงไหม้ที่โรงเรียนบ้านวังเกิ้ง อ.น้ำพรอง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเขต 4 จ.ขอนแก่น มีอาคารเรียนได้รับความเสียหายเล็กน้อยเนื่องจากพนักงานลูกจ้างของโรงเรียนได้อยู่เวรยามจึงช่วยกันดับเพลิงไว้ได้ทัน
นายชินวรณ์ กล่าวต่อไปว่า ภายหลังจากได้รับรายงานการรอบวางเพลิงโรงเรียนทั้งสามแห่งนี้แล้ว ตนจึงได้ประชาสัมพันธ์ไปยังสถานศึกษาทุกสังกัดที่อยู่ในพื้นที่จังหวัดต่าง ๆซึ่งอาจมีการก่อวินาศกรรมหรือสร้างสถานการณ์ทางการเมือง จึงขอให้มีการระมัดระวังเป็นพิเศษโดยการจัดเวรยามเฝ้าระวังรักษาความปลอดภัยและหากเห็นว่ามีการเคลื่อนไหวเพื่อนำไปสู่การทำลายสถานที่ราชการหรือสถานศึกษาก็ขอให้ผู้บริหารสถานศึกษา หรือครูที่อยู่เวรยามประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายปกครองเพื่อช่วยดำเนินการแก้ไขปัญหาที่จะเกิดขึ้น
"จากเหตุการณ์เผาโรงเรียน 3แห่งเกิดขึ้น ได้ให้สพท.นั้น ๆ ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง และคณะกรรมการตรวจสอบความเสียหาย เนื่องจากโรงเรียนทั้ง 3 แห่งนี้ถูกรอบวางเพลิงระหว่างวันที่ 19 และ 20 พ.ค. จึงได้ตั้งข้อสังเกตไว้ก่อนว่าอาจจะมีผลมาจากทางการเมืองได้ ทั้งนี้ ในส่วนของโรงเรียนในต่างจังหวัดนั้นได้มอบอำนาจให้แก่ผู้บริหารโรงเรียนประเมินสถานการณ์ว่ามีผลกระทบกับนักเรียนหรือไม่ หากมีผลกระทบก็ให้เลื่อนการเปิดเรียนไปก่อนได้" รมว.ศธ. กล่าว
NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6
คมชัดลึก :ชินวรณ์ เผยโรงเรียนถูกลอบเผารอบแล้ว 3 แห่ง พร้อมสั่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง กำชับให้สถานศึกษาที่อยู่ในพื้นที่ประกาศภาวะฉุกเฉินจัดเวรยามเฝ้าระมัดระวัง
เมื่อวันที่ 21 พ.ค.2553 นายชินวรณ์ บุญเกียรติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เปิดเผยว่า ตนได้กำชับให้องค์กรหลักของศธ.ได้ทำบันทึกเพื่อกำชับไปยังสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา(สพท.)และสถานศึกษาในจังหวัดต่าง ๆที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินและยังมีความรุนแรงอยู่ เนื่องจากตนได้รับรายงานเบื้องต้นว่า ได้มีการรอบเผาโรงเรียนไปแล้ว 3 แห่งได้แก่โรงเรียนบ้านท่าเชียงเครือ ต.ป้งไฮ อ.เซกา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเขต 3 จังหวัด หนองคาย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 19 พ.ค. เวลาประมาณ 21.00น. โดยมีกาเผาอาคารเรียนแบบ ป.1ฉ. จำนวน 2 หลัง และคอมพิวเตอร์อุปกรณ์การเรียนถูกเพลิงไหม้เสียหาย โดยโรงเรียนดังกล่าวเป็นโรงเรียนขยายโอกาส มีนักเรียน 200กว่า คน ครู 13คน
รมว.ศธ. กล่าวอีกว่า ขณะนี้ทางสพท.ได้แก้ปัญหาเบื้องต้นด้วยการย้ายนักเรียนชั้นม.ต้น ไปเรียนในโรงเรียนใกล้เคียง ส่วนนักเรียนระดับประถม ได้ให้ใช้อาคารเรียนที่เหลือและให้ผู้ปกครองเข้ามาช่วยตั้งเต้นและช่วยดูแลนักเรียน นอกจากนี้ยังมีโรงเรียนบ้านยางเคียงหนองชม อ.เมือง จ.ยะโสธร โดยอาคารเรียนแบบ ป 1ช ขนาด 3ห้องเรียนได้ถูกเผาไป ทั้งนี้ การแก้ไขปัญหาเบื้องต้นโดยให้นักเรียนไปใช้ห้องสมุดและอาคารอเนกประสงค์เป็นสถานที่เรียนชั่วคราว รวมถึงได้รับรายงานว่าเมื่อวันที่ 20พ.ค. ได้เกิดเพลิงไหม้ที่โรงเรียนบ้านวังเกิ้ง อ.น้ำพรอง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเขต 4 จ.ขอนแก่น มีอาคารเรียนได้รับความเสียหายเล็กน้อยเนื่องจากพนักงานลูกจ้างของโรงเรียนได้อยู่เวรยามจึงช่วยกันดับเพลิงไว้ได้ทัน
นายชินวรณ์ กล่าวต่อไปว่า ภายหลังจากได้รับรายงานการรอบวางเพลิงโรงเรียนทั้งสามแห่งนี้แล้ว ตนจึงได้ประชาสัมพันธ์ไปยังสถานศึกษาทุกสังกัดที่อยู่ในพื้นที่จังหวัดต่าง ๆซึ่งอาจมีการก่อวินาศกรรมหรือสร้างสถานการณ์ทางการเมือง จึงขอให้มีการระมัดระวังเป็นพิเศษโดยการจัดเวรยามเฝ้าระวังรักษาความปลอดภัยและหากเห็นว่ามีการเคลื่อนไหวเพื่อนำไปสู่การทำลายสถานที่ราชการหรือสถานศึกษาก็ขอให้ผู้บริหารสถานศึกษา หรือครูที่อยู่เวรยามประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายปกครองเพื่อช่วยดำเนินการแก้ไขปัญหาที่จะเกิดขึ้น
"จากเหตุการณ์เผาโรงเรียน 3แห่งเกิดขึ้น ได้ให้สพท.นั้น ๆ ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง และคณะกรรมการตรวจสอบความเสียหาย เนื่องจากโรงเรียนทั้ง 3 แห่งนี้ถูกรอบวางเพลิงระหว่างวันที่ 19 และ 20 พ.ค. จึงได้ตั้งข้อสังเกตไว้ก่อนว่าอาจจะมีผลมาจากทางการเมืองได้ ทั้งนี้ ในส่วนของโรงเรียนในต่างจังหวัดนั้นได้มอบอำนาจให้แก่ผู้บริหารโรงเรียนประเมินสถานการณ์ว่ามีผลกระทบกับนักเรียนหรือไม่ หากมีผลกระทบก็ให้เลื่อนการเปิดเรียนไปก่อนได้" รมว.ศธ. กล่าว
NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6
ให้ร.ร.ในกทม.ทุกสังกัดเปิดเทอม24พ.ค.เว้นเรดโซน
ให้ร.ร.ในกทม.ทุกสังกัดเปิดเทอม24พ.ค.เว้นเรดโซน
คมชัดลึก :ศธ.ให้สถานศึกษาในกทม.ทุกสังกัดเปิดเรียนในวันที่ 24 พ.ค.นี้ ยกเว้น 28 ร.ร.ในเรดโซนเปิด 31 พ.ค. รอเครียร์อาวุธ ขยะและรอให้ร.ร.ปลอดกลิ่นก่อน
เมื่อวันที่ 21 พ.ค.2553 นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวภายหลังเป็นประธานประชุมการเตรียมการและกำหนดแนวทางรับสถานการณ์ในช่วงเปิดภาคเรียน โดยมีตัวแทนหน่วยงานในกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ตัวแทนกองบัญชาการตำรวจนครบาล สำนักงานการศึกษากรุงเทพมหานคร ขสมก. การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนกรุงเทพ (บีทีเอส) รถไฟใต้ดิน ร่วมประชุมว่า หลังจากหารือกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องแล้วนั้น โรงเรียนทุกสังกัดในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร ได้ตัดสินใจเปิดเรียนวันที่ 24 พ.ค. จากเดิมที่เปิดภาคเรียนวันที่ 17 พ.ค. เว้นเพียงโรงเรียนที่อยู่ในพื้นที่พิเศษที่ ศอฉ. ได้ประกาศไว้จะเลื่อนการเปิดภาคเรียนเป็นวันที่ 31 พ.ค. เพื่อให้ ศอฉ.ตรวจสอบความปลอดภัยและทำความสะอาดพื้นที่ ซึ่งโรงเรียนที่จะเปิดเรียนในวันที่ 31 พ.ค.นี้มีจำนวน 28 โรง ดังนี้
โรงเรียนสังกัด กทม. จำนวน 17 โรง แยกเป็น 3 เขต คือ เขตปทุมวัน ได้แก่ โรงเรียนวัดปทุมวนาราม โรงเรียนวัดชัยมงคล โรงเรียนสระบัว โรงเรียนสวนลุมพินี โรงเรียนปทุมวัน โรงเรียนวัดบรมนิวาส โรงเรียนวัดดวงแข โรงเรียนปลูกจิต เขตบางรัก โรงเรียนวัดหัวลำโพง โรงเรียนสวนพลู โรงเรียนวัดม่วงแข โรงเรียนวัดแก้วแจ่มฟ้า โรงเรียนวัดมหาพฤฒาราม และ เขตราชเทวี โรงเรียนดิสหงสาราม โรงเรียนกิ่งเพชร โรงเรียนวัดพระยายัง และโรงเรียนทัศนารุณสุนทริการาม
โรงเรียนสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จำนวน 3 โรง ได้แก่ โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา โรงเรียนมักกะสันวิทยา โรงเรียนศรีอยุธยา โรงเรียนสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) จำนวน 2 โรง ได้แก่ โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) ปทุมวัน โรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ฝ่ายประถมศึกษา และฝ่ายมัธยมศึกษา โรงเรียนสังกัดสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) จำนวน 5 โรง ได้แก่ โรงเรียนกรุงเทพการบัญชีวิทยาลัย โรงเรียนมาแตร์เดอีวิทยาลัย โรงเรียนสยามบริหารธุรกิจ โรงเรียนร่วมฤดีศึกษา และโรงเรียนเซนต์โยเซฟคอนแวนต์ โรงเรียนสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) จำนวน 1 โรง ได้แก่ วิทยาบลัยสารพัดช่าง สาขาบ่อนไก่
รมว.ศธ. กล่าวต่อไปว่า ได้ให้ผู้บริหารสถานศึกษา ได้ติดตามสถานการณ์ดูแลความปลอดภัย โดยประสานกับศูนย์ความปลอดภัย กระทรวงคมนาคม ขสมก. รถไฟฟ้าบีทีเอส และรถไฟใต้ดิน อย่างไรก็ตาม สำหรับโรงเรียนในต่างจังหวัดที่เริ่มเปิดภาคเรียนตั้งแต่วันที่ 17 พ.ค.หากเป็นจังหวัดที่มีสถานการณ์ความวุ่นวายโดยได้มอบให้องค์กรหลักที่มีสถานศึกษาในสังกัดแจ้งไปยังสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ประสานไปยังสถานศึกษาติดตามเฝ้าระวังรักษาความปลอดภัยให้โรงเรียน โดยให้มีการจัดเจ้าหน้าที่รักษาความปบอดภัยแก่ครู นักเรียน จัดเจ้าหน้าที่ดูแลสถานที่ทั้งในและนอกเวลาราชการ รวมถึงให้เตรียมอุปกรณ์ป้องกันและรับมืออัคคีภัย รวมทั้งเฝ้าระวังการเข้า-ออกสถานศึกษาด้วย ทั้งหมดนี้สถานศึกษาจะต้องทำแผนชัดเจน
“การหารือในวันนี้เนื่องจากคำนึงความปลอดภัยของนักเรียน บุคลากร การเดินทางของเด็ก โดยเฉพาะโรงเรียนที่อยู่ในพื้นที่ควบคุมพิเศษจะต้องมีการตรวจค้นอาวุธ รวมถึงเรื่องความสะอาดที่จะต้องปราศจากกลิ่น อย่างไรก็ตาม หวังว่าสถานการณ์จะคลี่คลายลง ทางรัฐบาลจะให้ความสำคัญในการดูความปลอดภัยต่าง ๆ หากมีเหตุการณ์ที่ไม่ปกติก็ให้อำนาจผู้อำนวยการสถานศึกษาสั่งปิดได้ โดย ศธ.จะคอยติดตามประสานงานกับ ศอฉ.เพื่อติดตามสถานการณ์ให้ทุกอย่างคลี่คลายโดยเร็ว"นายชินวรณ์ กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้องชินวรณ์กำชับผอ.ร.ร.ทั่วประเทศเฝ้าระวังเหตุร้ายแดงเผาเมืองธปท.สั่งปิดแบงก์ตลาดหุ้นรถไฟฟ้าหยุดยันให้ร.ร.สังกัดศธ.ในกทม.เปิดเรียน24พ.ค.หยุดราชการในกทม.อีก3วันปิด52ปั้มพื้นที่ชุมนุมครูหยุยนักสิทธิเด็กจวกแกนนำแดงใช้เด็กเป็นโล่ห์
NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6
คมชัดลึก :ศธ.ให้สถานศึกษาในกทม.ทุกสังกัดเปิดเรียนในวันที่ 24 พ.ค.นี้ ยกเว้น 28 ร.ร.ในเรดโซนเปิด 31 พ.ค. รอเครียร์อาวุธ ขยะและรอให้ร.ร.ปลอดกลิ่นก่อน
เมื่อวันที่ 21 พ.ค.2553 นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวภายหลังเป็นประธานประชุมการเตรียมการและกำหนดแนวทางรับสถานการณ์ในช่วงเปิดภาคเรียน โดยมีตัวแทนหน่วยงานในกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ตัวแทนกองบัญชาการตำรวจนครบาล สำนักงานการศึกษากรุงเทพมหานคร ขสมก. การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนกรุงเทพ (บีทีเอส) รถไฟใต้ดิน ร่วมประชุมว่า หลังจากหารือกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องแล้วนั้น โรงเรียนทุกสังกัดในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร ได้ตัดสินใจเปิดเรียนวันที่ 24 พ.ค. จากเดิมที่เปิดภาคเรียนวันที่ 17 พ.ค. เว้นเพียงโรงเรียนที่อยู่ในพื้นที่พิเศษที่ ศอฉ. ได้ประกาศไว้จะเลื่อนการเปิดภาคเรียนเป็นวันที่ 31 พ.ค. เพื่อให้ ศอฉ.ตรวจสอบความปลอดภัยและทำความสะอาดพื้นที่ ซึ่งโรงเรียนที่จะเปิดเรียนในวันที่ 31 พ.ค.นี้มีจำนวน 28 โรง ดังนี้
โรงเรียนสังกัด กทม. จำนวน 17 โรง แยกเป็น 3 เขต คือ เขตปทุมวัน ได้แก่ โรงเรียนวัดปทุมวนาราม โรงเรียนวัดชัยมงคล โรงเรียนสระบัว โรงเรียนสวนลุมพินี โรงเรียนปทุมวัน โรงเรียนวัดบรมนิวาส โรงเรียนวัดดวงแข โรงเรียนปลูกจิต เขตบางรัก โรงเรียนวัดหัวลำโพง โรงเรียนสวนพลู โรงเรียนวัดม่วงแข โรงเรียนวัดแก้วแจ่มฟ้า โรงเรียนวัดมหาพฤฒาราม และ เขตราชเทวี โรงเรียนดิสหงสาราม โรงเรียนกิ่งเพชร โรงเรียนวัดพระยายัง และโรงเรียนทัศนารุณสุนทริการาม
โรงเรียนสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จำนวน 3 โรง ได้แก่ โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา โรงเรียนมักกะสันวิทยา โรงเรียนศรีอยุธยา โรงเรียนสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) จำนวน 2 โรง ได้แก่ โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) ปทุมวัน โรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ฝ่ายประถมศึกษา และฝ่ายมัธยมศึกษา โรงเรียนสังกัดสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) จำนวน 5 โรง ได้แก่ โรงเรียนกรุงเทพการบัญชีวิทยาลัย โรงเรียนมาแตร์เดอีวิทยาลัย โรงเรียนสยามบริหารธุรกิจ โรงเรียนร่วมฤดีศึกษา และโรงเรียนเซนต์โยเซฟคอนแวนต์ โรงเรียนสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) จำนวน 1 โรง ได้แก่ วิทยาบลัยสารพัดช่าง สาขาบ่อนไก่
รมว.ศธ. กล่าวต่อไปว่า ได้ให้ผู้บริหารสถานศึกษา ได้ติดตามสถานการณ์ดูแลความปลอดภัย โดยประสานกับศูนย์ความปลอดภัย กระทรวงคมนาคม ขสมก. รถไฟฟ้าบีทีเอส และรถไฟใต้ดิน อย่างไรก็ตาม สำหรับโรงเรียนในต่างจังหวัดที่เริ่มเปิดภาคเรียนตั้งแต่วันที่ 17 พ.ค.หากเป็นจังหวัดที่มีสถานการณ์ความวุ่นวายโดยได้มอบให้องค์กรหลักที่มีสถานศึกษาในสังกัดแจ้งไปยังสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ประสานไปยังสถานศึกษาติดตามเฝ้าระวังรักษาความปลอดภัยให้โรงเรียน โดยให้มีการจัดเจ้าหน้าที่รักษาความปบอดภัยแก่ครู นักเรียน จัดเจ้าหน้าที่ดูแลสถานที่ทั้งในและนอกเวลาราชการ รวมถึงให้เตรียมอุปกรณ์ป้องกันและรับมืออัคคีภัย รวมทั้งเฝ้าระวังการเข้า-ออกสถานศึกษาด้วย ทั้งหมดนี้สถานศึกษาจะต้องทำแผนชัดเจน
“การหารือในวันนี้เนื่องจากคำนึงความปลอดภัยของนักเรียน บุคลากร การเดินทางของเด็ก โดยเฉพาะโรงเรียนที่อยู่ในพื้นที่ควบคุมพิเศษจะต้องมีการตรวจค้นอาวุธ รวมถึงเรื่องความสะอาดที่จะต้องปราศจากกลิ่น อย่างไรก็ตาม หวังว่าสถานการณ์จะคลี่คลายลง ทางรัฐบาลจะให้ความสำคัญในการดูความปลอดภัยต่าง ๆ หากมีเหตุการณ์ที่ไม่ปกติก็ให้อำนาจผู้อำนวยการสถานศึกษาสั่งปิดได้ โดย ศธ.จะคอยติดตามประสานงานกับ ศอฉ.เพื่อติดตามสถานการณ์ให้ทุกอย่างคลี่คลายโดยเร็ว"นายชินวรณ์ กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้องชินวรณ์กำชับผอ.ร.ร.ทั่วประเทศเฝ้าระวังเหตุร้ายแดงเผาเมืองธปท.สั่งปิดแบงก์ตลาดหุ้นรถไฟฟ้าหยุดยันให้ร.ร.สังกัดศธ.ในกทม.เปิดเรียน24พ.ค.หยุดราชการในกทม.อีก3วันปิด52ปั้มพื้นที่ชุมนุมครูหยุยนักสิทธิเด็กจวกแกนนำแดงใช้เด็กเป็นโล่ห์
NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6
ชินวรณ์สั่งทุกองค์กรหลักตั้งทีมแจงงบปี54
ชินวรณ์สั่งทุกองค์กรหลักตั้งทีมแจงงบปี54
คมชัดลึก :รมว.ศธ. สั่งทุกองค์กรหลักตั้งทีมชี้แจงงบประมาณ 54 ต่อสภาฯ เผยกรอบวงเงินงบ 54 ของ ศธ.ได้ 3.88 แสนล้านบาท เพิ่มจากปี 53 ถึง 11.92 %
เมื่อวันที่ 21 พ.ค.2553 นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ. ) เปิดเผยภายหลังประชุมร่วมกับผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ว่า พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2554 จะเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร์ในวันที่ 26-27 พ.ค.นี้ เพราะฉะนั้น จึงได้สั่งการให้ทุกองค์กรหลักจัดทีมชี้แจ้งงบประมาณต่อสภาพร้อมจัดทำเอกสารประกอบการชี้แจ้ง โดยให้มีหัวหน้าทีมเป็นระดับเลขาธิการหรือรองเลขาธิการ
รมว.ศธ. กล่าวอีกว่า สำหรับกรอบวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2554 ที่ ศธ.ได้รับรวมทั้งหมด 388,050.3187 ล้านบาท เพิ่มจากปี 2553 ร้อยละ 11.92 หรือ 41,337 ล้านบาท โดยจำแนกตามหน่วยงานดังนี้ สำนักปลัดศธ.ได้รับ 41,234 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.26 สภาการศึกษา 310 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 28.27 สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน 241,407 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.18 สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา 22,284 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 23.61 สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา 79,695 ล้านบาท เพิ่มร้อยละ 19.33 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี(สสวท.) 1,586 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 15 คุรุสภา 298 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 56.82 สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) 209 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 37.05 โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ 318 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.32 สถาบันระหว่างประเทศเพื่อการพัฒนา 50 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 17.11 สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ 659 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 56.23 งบประมาณกองทุนและเงินหมุนเวียน 975 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 550 (ปี 2553 ได้งบ 150 ล้านบาท )
นายชินวรณ์ กล่าวด้วยว่า งบประมาณที่ได้เพิ่มขึ้นนั้นส่วนใหญ่เป็นงบประมาณโครงการใหม่ ๆ ตามนโยบายของรัฐบาลที่เน้นการปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สอง อาทิ โครงการพัฒนาคุณภาพการศึกษาและมาตรฐานการศึกษาเพื่อปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สอง จำนวน 8,681 ล้านบาท โครงการยกระดับคุณภาพครูทั้งระบบ 2,757 ล้านบาท โครงการโรงเรียนดีประจำตำบล 1,274 ล้านบาท โครงการจัดตั้งม.พะเยา 668 ล้านบาท เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม งบประมาณครึ่งหนึ่งหรือ ร้อยละ 52.52 หรือ 203,802 ล้านบาท เพื่องบบุคลากร งบลงทุนแค่ ร้อยละ 6.65 หรือ 25,802 ล้านบาท แต่งบลงทุนปีนี้เพิ่มจากปี 53 ถึง ร้อยละ 131.81 เพราะปี 53 ได้รับงบลงทุนแค่ 11,131 ล้านบาท ส่วนงบเงินอุดหนุนรายหัวนั้น ได้รับ 124,512 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 32.09 ของงบทั้งหมด เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.12 จากปี2553 ที่ ศธ.ได้รับงบเงินอุดหนุนรายหัวแค่ 113,071 ล้านบาท
ข่าวที่เกี่ยวข้องให้ร.ร.ในกทม.ทุกสังกัดเปิดเทอม24พ.ค.เว้นเรดโซนศอฉ.ร่วมกับตร.บุกยึดสถานีวิทยุแดงปทุมธานีแม่ทัพภาค2ไล่ล่าแกนนำแดงเรียกอีก20รายงานตัว"มาร์ค"แถลงเร่งฟี้นฟูผู้รับผลกระทบ จับกุมอีก1แกนนำเสื้อแดงอุบลฝากขังที่เรือนจำ
NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6
คมชัดลึก :รมว.ศธ. สั่งทุกองค์กรหลักตั้งทีมชี้แจงงบประมาณ 54 ต่อสภาฯ เผยกรอบวงเงินงบ 54 ของ ศธ.ได้ 3.88 แสนล้านบาท เพิ่มจากปี 53 ถึง 11.92 %
เมื่อวันที่ 21 พ.ค.2553 นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ. ) เปิดเผยภายหลังประชุมร่วมกับผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ว่า พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2554 จะเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร์ในวันที่ 26-27 พ.ค.นี้ เพราะฉะนั้น จึงได้สั่งการให้ทุกองค์กรหลักจัดทีมชี้แจ้งงบประมาณต่อสภาพร้อมจัดทำเอกสารประกอบการชี้แจ้ง โดยให้มีหัวหน้าทีมเป็นระดับเลขาธิการหรือรองเลขาธิการ
รมว.ศธ. กล่าวอีกว่า สำหรับกรอบวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2554 ที่ ศธ.ได้รับรวมทั้งหมด 388,050.3187 ล้านบาท เพิ่มจากปี 2553 ร้อยละ 11.92 หรือ 41,337 ล้านบาท โดยจำแนกตามหน่วยงานดังนี้ สำนักปลัดศธ.ได้รับ 41,234 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.26 สภาการศึกษา 310 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 28.27 สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน 241,407 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.18 สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา 22,284 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 23.61 สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา 79,695 ล้านบาท เพิ่มร้อยละ 19.33 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี(สสวท.) 1,586 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 15 คุรุสภา 298 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 56.82 สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) 209 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 37.05 โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ 318 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.32 สถาบันระหว่างประเทศเพื่อการพัฒนา 50 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 17.11 สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ 659 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 56.23 งบประมาณกองทุนและเงินหมุนเวียน 975 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 550 (ปี 2553 ได้งบ 150 ล้านบาท )
นายชินวรณ์ กล่าวด้วยว่า งบประมาณที่ได้เพิ่มขึ้นนั้นส่วนใหญ่เป็นงบประมาณโครงการใหม่ ๆ ตามนโยบายของรัฐบาลที่เน้นการปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สอง อาทิ โครงการพัฒนาคุณภาพการศึกษาและมาตรฐานการศึกษาเพื่อปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สอง จำนวน 8,681 ล้านบาท โครงการยกระดับคุณภาพครูทั้งระบบ 2,757 ล้านบาท โครงการโรงเรียนดีประจำตำบล 1,274 ล้านบาท โครงการจัดตั้งม.พะเยา 668 ล้านบาท เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม งบประมาณครึ่งหนึ่งหรือ ร้อยละ 52.52 หรือ 203,802 ล้านบาท เพื่องบบุคลากร งบลงทุนแค่ ร้อยละ 6.65 หรือ 25,802 ล้านบาท แต่งบลงทุนปีนี้เพิ่มจากปี 53 ถึง ร้อยละ 131.81 เพราะปี 53 ได้รับงบลงทุนแค่ 11,131 ล้านบาท ส่วนงบเงินอุดหนุนรายหัวนั้น ได้รับ 124,512 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 32.09 ของงบทั้งหมด เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.12 จากปี2553 ที่ ศธ.ได้รับงบเงินอุดหนุนรายหัวแค่ 113,071 ล้านบาท
ข่าวที่เกี่ยวข้องให้ร.ร.ในกทม.ทุกสังกัดเปิดเทอม24พ.ค.เว้นเรดโซนศอฉ.ร่วมกับตร.บุกยึดสถานีวิทยุแดงปทุมธานีแม่ทัพภาค2ไล่ล่าแกนนำแดงเรียกอีก20รายงานตัว"มาร์ค"แถลงเร่งฟี้นฟูผู้รับผลกระทบ จับกุมอีก1แกนนำเสื้อแดงอุบลฝากขังที่เรือนจำ
NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6
Thursday, May 20, 2010
หัวใจไทย เอาอะไรกับการเมือง
หัวใจไทย เอาอะไรกับการเมือง
คมชัดลึก :ตลอดระยะเวลาหลายสิบปีที่ผ่านมา ท่านผู้อ่านคงสังเกตเห็นว่าการเมืองบ้านเรานั้นดูจะไม่ขยับเขยื้อนไปไหนเลย มิหนำซ้ำยิ่งดูก็ยิ่งเห็นความถดถอยทางการเมืองที่นับวันจะมีมากขึ้นเสียด้วยซ้ำ
เคยได้ยินได้ฟังตลกร้ายเกี่ยวกับนักการเมืองในบ้านเรา โดยในเรื่องกล่าวเกริ่นว่า เมื่อครั้งพระเจ้าสร้างโลก พระองค์ได้ทรงสร้างสมดุลทางสิ่งแวดล้อมให้แก่ดินแดนต่างๆ คือมีทั้งดีและร้ายระคนกันไป แต่ระหว่างที่พระเจ้าสะพายถุงวิเศษข้ามเขาหิมาลัยเพื่อจะข้ามมายังบ้านเรา ปรากฏว่ายอดเขาที่สูงชันของหิมาลัยได้เกี่ยวถุงสิ่งเลวร้ายของพระเจ้าขาด ทำให้สิ่งเลวร้ายตกอยู่ในประเทศแถบนั้นเป็นอันมาก ดังนั้นเมื่อพระเจ้ามาถึงบ้านเราจึงมีแต่สิ่งดีๆ มอบให้ เพราะสิ่งเลวร้ายไปหล่นอยู่ในดินแดนอื่นหมดแล้ว
ปรากฏว่าเทวดาเจ้าที่ในแหล่งอื่นต่างก็มาฟ้องร้องว่า พระเจ้าไม่ยุติธรรม ที่ทำให้ประเทศไทยดีกว่าดินแดนอื่น ในตอนแรกพระเจ้าก็ไม่รู้ว่าจะหาทางออกได้อย่างไร ที่จะป้องกันประเทศอันสมบูรณ์ที่สุดในโลกนี้ไม่ให้เจริญล้ำไปกว่าที่อื่น แต่ในที่สุดพระเจ้าก็พบทางออก โดยท้ายเรื่องสรุปสั้นๆ เพียงว่า พระองค์ก็เลยสร้าง "นักการเมืองไทย" ขึ้นมา โดยให้มีอัตลักษณ์ที่สำคัญคือ “ใช้ของดีไม่เป็นและไม่เห็นทางเจริญ”
เมื่อแรกที่ได้อ่านเรื่องตลกร้ายดังกล่าวจบ เราก็เลือดขึ้นหน้า เพราะรู้สึกว่าถูกเหยียดหยามในความเป็นไทยอย่างแรง แต่เมื่อดับอารมณ์นั้นลงได้ แล้วหันกลับมามองสิ่งที่เกิดขึ้นในบ้านเราอย่างเปิดใจเป็นกลาง กลับต้องคิดใหม่ว่าทำไมเขาถึงว่าเราเป็นเช่นนั้น
ถ้าจำไม่ผิด เกี่ยวกับคำจำกัดความของคำว่า “นักการเมือง” เขาจะอธิบายว่า คือ ผู้ที่ทำทุกอย่างเพื่อผลประโยชน์ประเทศชาติ เพื่อให้ประเทศชาติเจริญก้าวหน้า และทำให้ประชาชนทุกชนชั้นอยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุข
แต่เท่าที่ได้ประสบพบเห็น นักการเมืองบ้านเรากลับมีลักษณะที่คงหาได้ยากในบ้านเมืองที่เจริญแล้ว โดยเฉพาะความคำนึงเรื่องชาตินั้น ดูจะเน้นความเป็น “ชาตินี้” มากกว่าความเป็น “ประเทศชาติ” โดยสิ้นเชิง ขนาดประเทศชาติถึงสภาวะวิกฤติขนาดนี้ ยังมีหน้ามาพูดถึงแต่ “ความอยู่รอดของพรรค” ที่เป็นแหล่งประกอบธุรกิจทางการเมืองของตัวเองกันแทบทั้งนั้น
สิ่งที่น่ากลัวที่สุดในทางการเมืองในขณะนี้ก็คือ “ภาษาของนักการเมือง” ทั้งที่พูดอยู่ในสภาและนอกสภา ที่เราคงต้องยอมรับความจริงว่า บัดนี้ “หาความจริง” ที่เคยเป็นความหมายแท้ๆ ของคำที่นักการเมืองชอบหยิบยกมาอ้างให้ผู้ที่รับฟังรู้สึกว่า “ดูดี” ไม่ได้เอาเสียเลย
เราลองกลับไปดูบรรดาโครงการหรือแนวนโยบายทางการเมืองที่มีคำว่า “พัฒนา” ดูก็แล้วกัน เราจะเห็นได้ว่าคำว่า “พัฒนา” นั้น จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่เจริญขึ้น แต่พอดำเนินการเข้าจริง ปรากฏว่านอกจากไม่เจริญขึ้นแล้ว ยังทำให้วิถีชีวิตของคนไทยย่ำแย่ลงไปกว่าเดิมแทบทั้งนั้นนอกจากนั้น เราจะเห็นคำอื่นๆ อีกไม่น้อย ที่วันนี้ไม่ได้มีความหมายในเชิงปฏิบัติแต่ประการใดเลย นอกจะดูเป็นเพียงสำนวนโวหารที่คิดขึ้นมาใช้ให้ดูโก้เก๋เท่านั้น อาทิ “เข้มแข็ง” ที่ผลกลับกลายเป็นจุดอ่อน “สันติวิธี” ที่มีแต่การใช้กำลัง “อหิงสา” ที่ทำร้ายกันไม่รู้จักหยุดหย่อน “มือเปล่า“ ที่มีทั้งระเบิด ปืน มีด ไม้ รวมทั้งก้อนอิฐ หรือ “อย่างสงบ” ที่ดูเท่าไรก็ไม่เคยหยุดนิ่งหรือควบคุมได้อยู่ในขอบเขตเลย หรือหัวใจไทยในวันนี้..ไม่มีความจริงให้กันเสียแล้ว
นายรัฐศาสตร์
ohohlek@hotmail.com
ข่าวที่เกี่ยวข้องมองผ่านเลนส์คม-ปรากฏการณ์ "พงษ์พัฒน์" เกมชิงไหวชิงพริบ 'ม็อบ-การเมือง'เปิดโลกการศึกษามุสลิม-ตอน จุฬาราชมนตรี คนที่ 18 ของไทย นาทีต่อนาที:ทหารลุย-นปช.สลาย-ป่วนทั่วกรุงแดงเผาเมืองธปท.สั่งปิดแบงก์ตลาดหุ้นรถไฟฟ้าหยุด
NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6
คมชัดลึก :ตลอดระยะเวลาหลายสิบปีที่ผ่านมา ท่านผู้อ่านคงสังเกตเห็นว่าการเมืองบ้านเรานั้นดูจะไม่ขยับเขยื้อนไปไหนเลย มิหนำซ้ำยิ่งดูก็ยิ่งเห็นความถดถอยทางการเมืองที่นับวันจะมีมากขึ้นเสียด้วยซ้ำ
เคยได้ยินได้ฟังตลกร้ายเกี่ยวกับนักการเมืองในบ้านเรา โดยในเรื่องกล่าวเกริ่นว่า เมื่อครั้งพระเจ้าสร้างโลก พระองค์ได้ทรงสร้างสมดุลทางสิ่งแวดล้อมให้แก่ดินแดนต่างๆ คือมีทั้งดีและร้ายระคนกันไป แต่ระหว่างที่พระเจ้าสะพายถุงวิเศษข้ามเขาหิมาลัยเพื่อจะข้ามมายังบ้านเรา ปรากฏว่ายอดเขาที่สูงชันของหิมาลัยได้เกี่ยวถุงสิ่งเลวร้ายของพระเจ้าขาด ทำให้สิ่งเลวร้ายตกอยู่ในประเทศแถบนั้นเป็นอันมาก ดังนั้นเมื่อพระเจ้ามาถึงบ้านเราจึงมีแต่สิ่งดีๆ มอบให้ เพราะสิ่งเลวร้ายไปหล่นอยู่ในดินแดนอื่นหมดแล้ว
ปรากฏว่าเทวดาเจ้าที่ในแหล่งอื่นต่างก็มาฟ้องร้องว่า พระเจ้าไม่ยุติธรรม ที่ทำให้ประเทศไทยดีกว่าดินแดนอื่น ในตอนแรกพระเจ้าก็ไม่รู้ว่าจะหาทางออกได้อย่างไร ที่จะป้องกันประเทศอันสมบูรณ์ที่สุดในโลกนี้ไม่ให้เจริญล้ำไปกว่าที่อื่น แต่ในที่สุดพระเจ้าก็พบทางออก โดยท้ายเรื่องสรุปสั้นๆ เพียงว่า พระองค์ก็เลยสร้าง "นักการเมืองไทย" ขึ้นมา โดยให้มีอัตลักษณ์ที่สำคัญคือ “ใช้ของดีไม่เป็นและไม่เห็นทางเจริญ”
เมื่อแรกที่ได้อ่านเรื่องตลกร้ายดังกล่าวจบ เราก็เลือดขึ้นหน้า เพราะรู้สึกว่าถูกเหยียดหยามในความเป็นไทยอย่างแรง แต่เมื่อดับอารมณ์นั้นลงได้ แล้วหันกลับมามองสิ่งที่เกิดขึ้นในบ้านเราอย่างเปิดใจเป็นกลาง กลับต้องคิดใหม่ว่าทำไมเขาถึงว่าเราเป็นเช่นนั้น
ถ้าจำไม่ผิด เกี่ยวกับคำจำกัดความของคำว่า “นักการเมือง” เขาจะอธิบายว่า คือ ผู้ที่ทำทุกอย่างเพื่อผลประโยชน์ประเทศชาติ เพื่อให้ประเทศชาติเจริญก้าวหน้า และทำให้ประชาชนทุกชนชั้นอยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุข
แต่เท่าที่ได้ประสบพบเห็น นักการเมืองบ้านเรากลับมีลักษณะที่คงหาได้ยากในบ้านเมืองที่เจริญแล้ว โดยเฉพาะความคำนึงเรื่องชาตินั้น ดูจะเน้นความเป็น “ชาตินี้” มากกว่าความเป็น “ประเทศชาติ” โดยสิ้นเชิง ขนาดประเทศชาติถึงสภาวะวิกฤติขนาดนี้ ยังมีหน้ามาพูดถึงแต่ “ความอยู่รอดของพรรค” ที่เป็นแหล่งประกอบธุรกิจทางการเมืองของตัวเองกันแทบทั้งนั้น
สิ่งที่น่ากลัวที่สุดในทางการเมืองในขณะนี้ก็คือ “ภาษาของนักการเมือง” ทั้งที่พูดอยู่ในสภาและนอกสภา ที่เราคงต้องยอมรับความจริงว่า บัดนี้ “หาความจริง” ที่เคยเป็นความหมายแท้ๆ ของคำที่นักการเมืองชอบหยิบยกมาอ้างให้ผู้ที่รับฟังรู้สึกว่า “ดูดี” ไม่ได้เอาเสียเลย
เราลองกลับไปดูบรรดาโครงการหรือแนวนโยบายทางการเมืองที่มีคำว่า “พัฒนา” ดูก็แล้วกัน เราจะเห็นได้ว่าคำว่า “พัฒนา” นั้น จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่เจริญขึ้น แต่พอดำเนินการเข้าจริง ปรากฏว่านอกจากไม่เจริญขึ้นแล้ว ยังทำให้วิถีชีวิตของคนไทยย่ำแย่ลงไปกว่าเดิมแทบทั้งนั้นนอกจากนั้น เราจะเห็นคำอื่นๆ อีกไม่น้อย ที่วันนี้ไม่ได้มีความหมายในเชิงปฏิบัติแต่ประการใดเลย นอกจะดูเป็นเพียงสำนวนโวหารที่คิดขึ้นมาใช้ให้ดูโก้เก๋เท่านั้น อาทิ “เข้มแข็ง” ที่ผลกลับกลายเป็นจุดอ่อน “สันติวิธี” ที่มีแต่การใช้กำลัง “อหิงสา” ที่ทำร้ายกันไม่รู้จักหยุดหย่อน “มือเปล่า“ ที่มีทั้งระเบิด ปืน มีด ไม้ รวมทั้งก้อนอิฐ หรือ “อย่างสงบ” ที่ดูเท่าไรก็ไม่เคยหยุดนิ่งหรือควบคุมได้อยู่ในขอบเขตเลย หรือหัวใจไทยในวันนี้..ไม่มีความจริงให้กันเสียแล้ว
นายรัฐศาสตร์
ohohlek@hotmail.com
ข่าวที่เกี่ยวข้องมองผ่านเลนส์คม-ปรากฏการณ์ "พงษ์พัฒน์" เกมชิงไหวชิงพริบ 'ม็อบ-การเมือง'เปิดโลกการศึกษามุสลิม-ตอน จุฬาราชมนตรี คนที่ 18 ของไทย นาทีต่อนาที:ทหารลุย-นปช.สลาย-ป่วนทั่วกรุงแดงเผาเมืองธปท.สั่งปิดแบงก์ตลาดหุ้นรถไฟฟ้าหยุด
NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6
เปลี่ยนไร่ข้าวโพดสู่วิถีไร่มันฝรั่งทำเงินแสนพลิกชีวิตชาวม้งที่ตาก
เปลี่ยนไร่ข้าวโพดสู่วิถีไร่มันฝรั่งทำเงินแสนพลิกชีวิตชาวม้งที่ตาก
คมชัดลึก : เกษตรกรชาวไทยเชื้อสายม้ง "กี่ แซ่ม้า" วัย 45 ปี แห่ง อ.พบพระ จ.ตาก คือผลพวงของความสำเร็จจากการเข้าร่วมโครงการส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกมันฝรั่ง หลังชีวิตล้มเหลวจากการทำไร่ข้าวโพด และจากที่เขาและครอบครัวช่วยกันลงน้ำพักน้ำแรงอย่างเต็มที่ ทำให้ไร่มันฝรั่ง 60 ไร่ กลายเป็นขุมทรัพย์ที่พลิกชีวิตให้ลืมตาอ้าปากได้ในปัจจุบัน
เดิมกี่และชาวม้งอีกกว่า 30 ครัวเรือน ซึ่งอาศัยอยู่บริเวณป่าห้วยขาแข้ง ทุ่งใหญ่นเรศวร ได้ยึดทำไร่เลื่อนลอยเลี้ยงครอบครัว ต่อเมื่อราว 10 ปีเศษ ทางการเกรงว่าหากปล่อยให้ขยายพื้นที่ทำไร่ออกไปจะเป็นการบุกรุกทำลายป่า จึงได้อพยพคนกลุ่มนี้มาตั้งหลักปักฐานบริเวณป่าเสื่อมโทรม อ.พบพระ จ.ตาก พร้อมจัดสรรที่ดินทำกินให้ครอบครัวละ 20 ไร่ ภายใต้เงื่อนไขห้ามซื้อขาย แต่กระนั้น กี่ก็ได้พื้นที่เพิ่มอีก 20 ไร่ในปีถัดมา
กี่จึงพลิกฟื้นผืนดินนี้ ด้วยการทำไร่ข้าวโพดเต็มพื้นที่ ทว่าตลอด 3-4 ฤดูกาลเก็บเกี่ยว ผลผลิตที่ได้ไม่คุ้มกับค่าเหนื่อยที่ลงทุน บวกความคิดที่มองว่าเพราะที่ดินปลูกน้อยเกินไป เขาจึงขวนขวายเพิ่มพื้นที่ปลูกเป็น 100 ไร่ ในรูปของการเช่า และมีบ้างที่ซื้อเพิ่มแต่ในที่สุดก็ยังเจอกับปัญหาเดิมๆ
“เราปลูกข้าวโพดได้ปีละครั้ง ราคาก็ไม่แน่นอน ไม่มีประกันราคา บางปีก็ดี บางปีก็ไม่ดี หักค่าใช้จ่ายแล้วเหลือกำไรแค่ 2-3 พันบาทต่อไร่เท่านั้น ถึงมีพื้นที่ปลูกเยอะก็ไม่คุ้มกับค่าเหนื่อย รายได้ไม่เพียงพอต่อการเลี้ยงดูครอบครัว ผมมีภรรยา และลูกอีก 3 คน จึงพยายามมองหาพืชไร่อื่นๆ มาปลูกทดแทน”
ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น กี่บอกว่าคือพลังที่กระตุ้นให้เขาและครอบครัวจำเป็นต้องเดินหน้า และนับเป็นโชคดีที่ต่อมาได้รู้จักพร้อมเป็นส่วนหนึ่งในโครงการส่งเสริมเกษตรกรปลูกมันฝรั่งของเลย์ ของบริษัท ฟริโต-เลย์ ประเทศไทย ที่สนับสนุนด้านความรู้เขาจึงได้เข้าร่วมอย่างไม่รั้งรอ
“ตอนนั้นชีวิตลำบาก ไม่รู้จะไปทำอะไรดี อีกทั้งความรู้ก็ไม่มี จนผมมีโอกาสได้คุยกับเพื่อนหลายคนที่เข้าร่วมโครงการปลูกมันฝรั่งซึ่งแต่ก่อนพวกเขาก็ทำไร่เหมือนผมแต่ไม่ประสบผลสำเร็จ เมื่อเลย์เข้ามาชวน โดยให้คำแนะนำและความรู้ทุกขั้นตอน พวกเขาจึงเข้าร่วม ปรากฏว่าได้ผลผลิตดี รายได้ดีกว่าทำไร่ แถมมีการรับประกันราคา ผมจึงตัดสินใจลองทำบ้าง”
ระยะแรกกี่ใช้พื้นที่ปลูก 25 ไร่ โดยทางเลย์ส่งเจ้าหน้าที่มาดูแลอย่างใกล้ชิด พร้อมสนับสนุนเรื่องการเตรียมหัวพันธุ์ การปลูก จนถึงการเก็บเกี่ยว ส่วนตัวของกี่เองเตรียมเรื่องการลงทุน ทั้งด้านพื้นที่ การจัดการดูแลรักษา แรงงานเก็บเกี่ยว เป็นเงินราว 1 หมื่นบาทต่อไร่
“ผมไม่รู้เรื่องการปลูกมันฝรั่งมาก่อน เท่ากับเริ่มจากศูนย์ ดีที่มีเจ้าหน้าที่ของเลย์มาดูแลตลอด เวลามีปัญหาก็ปรึกษาเขาได้ ปีแรกของการเก็บเกี่ยวผลผลิตดีมากเพราะได้ถึง 3 ตันต่อไร่ ผมทำอยู่ 3 ปีก็ฟื้นตัว จากนั้นก็ขยายพื้นที่ปลูกเป็น 35 ไร่ มีรายได้หลังหักค่าใช้จ่าย 3-4 แสนบาทต่อการปลูก 1 ครั้ง ถือว่าคุ้มค่าเหนื่อยครับ" กี่ บอกด้วยความภาคภูมิใจ และเสริมว่าปัจจุบันเขาได้ขยายพื้นที่ปลูกเพิ่มเป็น 60 ไร่ กี่บอกอีกว่า มันฝรั่งปีหนึ่งจะปลูกได้ 2 ครั้ง คือช่วงฤดูแล้ง พฤศจิกายน-มกราคม ส่วนในฤดูฝนปลูกได้ตั้งแต่พฤษภาคม-กันยายน คือ ถ้าปลูกเดือนพฤษภาคม ไปเก็บเกี่ยวในเดือนสิงหาคม
ถึงวันนี้ กี่บอกว่าคุณภาพชีวิตของครอบครัวดีขึ้นมาก มีกำลังเงินพอที่จะส่งเสียให้ลูกๆ ทั้ง 3 ได้เรียนหนังสือ โดยหวังเล็กๆ อยากให้ลูกนำความรู้กลับมาช่วยพัฒนาอาชีพการปลูกมันฝรั่งต่อไป เพราะเขามองว่าเป็นอาชีพที่มั่นคง และอนาคตจะเป็นพืชเศรษฐกิจอีกชนิดที่เกษตรกรไม่ควรมองข้าม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง'กิน' ต้าน แก่ ศาสตร์คงความหนุ่ม-สาว กูรูชี้แนะ-เลือกปลาได้ขนาดเพิ่มรสชาติความอร่อยเบอร์ลี่ยุคเกอร์ลุยลงทุนเวียดนามทุ่มผุดโรงงานผลิตแก้วประมวลดาราโชว์หน้าหราบนสินค้าผลิตภัณฑ์ชี้อาหารมันกินแล้วติดเหมือนยาเสพติด
NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6
คมชัดลึก : เกษตรกรชาวไทยเชื้อสายม้ง "กี่ แซ่ม้า" วัย 45 ปี แห่ง อ.พบพระ จ.ตาก คือผลพวงของความสำเร็จจากการเข้าร่วมโครงการส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกมันฝรั่ง หลังชีวิตล้มเหลวจากการทำไร่ข้าวโพด และจากที่เขาและครอบครัวช่วยกันลงน้ำพักน้ำแรงอย่างเต็มที่ ทำให้ไร่มันฝรั่ง 60 ไร่ กลายเป็นขุมทรัพย์ที่พลิกชีวิตให้ลืมตาอ้าปากได้ในปัจจุบัน
เดิมกี่และชาวม้งอีกกว่า 30 ครัวเรือน ซึ่งอาศัยอยู่บริเวณป่าห้วยขาแข้ง ทุ่งใหญ่นเรศวร ได้ยึดทำไร่เลื่อนลอยเลี้ยงครอบครัว ต่อเมื่อราว 10 ปีเศษ ทางการเกรงว่าหากปล่อยให้ขยายพื้นที่ทำไร่ออกไปจะเป็นการบุกรุกทำลายป่า จึงได้อพยพคนกลุ่มนี้มาตั้งหลักปักฐานบริเวณป่าเสื่อมโทรม อ.พบพระ จ.ตาก พร้อมจัดสรรที่ดินทำกินให้ครอบครัวละ 20 ไร่ ภายใต้เงื่อนไขห้ามซื้อขาย แต่กระนั้น กี่ก็ได้พื้นที่เพิ่มอีก 20 ไร่ในปีถัดมา
กี่จึงพลิกฟื้นผืนดินนี้ ด้วยการทำไร่ข้าวโพดเต็มพื้นที่ ทว่าตลอด 3-4 ฤดูกาลเก็บเกี่ยว ผลผลิตที่ได้ไม่คุ้มกับค่าเหนื่อยที่ลงทุน บวกความคิดที่มองว่าเพราะที่ดินปลูกน้อยเกินไป เขาจึงขวนขวายเพิ่มพื้นที่ปลูกเป็น 100 ไร่ ในรูปของการเช่า และมีบ้างที่ซื้อเพิ่มแต่ในที่สุดก็ยังเจอกับปัญหาเดิมๆ
“เราปลูกข้าวโพดได้ปีละครั้ง ราคาก็ไม่แน่นอน ไม่มีประกันราคา บางปีก็ดี บางปีก็ไม่ดี หักค่าใช้จ่ายแล้วเหลือกำไรแค่ 2-3 พันบาทต่อไร่เท่านั้น ถึงมีพื้นที่ปลูกเยอะก็ไม่คุ้มกับค่าเหนื่อย รายได้ไม่เพียงพอต่อการเลี้ยงดูครอบครัว ผมมีภรรยา และลูกอีก 3 คน จึงพยายามมองหาพืชไร่อื่นๆ มาปลูกทดแทน”
ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น กี่บอกว่าคือพลังที่กระตุ้นให้เขาและครอบครัวจำเป็นต้องเดินหน้า และนับเป็นโชคดีที่ต่อมาได้รู้จักพร้อมเป็นส่วนหนึ่งในโครงการส่งเสริมเกษตรกรปลูกมันฝรั่งของเลย์ ของบริษัท ฟริโต-เลย์ ประเทศไทย ที่สนับสนุนด้านความรู้เขาจึงได้เข้าร่วมอย่างไม่รั้งรอ
“ตอนนั้นชีวิตลำบาก ไม่รู้จะไปทำอะไรดี อีกทั้งความรู้ก็ไม่มี จนผมมีโอกาสได้คุยกับเพื่อนหลายคนที่เข้าร่วมโครงการปลูกมันฝรั่งซึ่งแต่ก่อนพวกเขาก็ทำไร่เหมือนผมแต่ไม่ประสบผลสำเร็จ เมื่อเลย์เข้ามาชวน โดยให้คำแนะนำและความรู้ทุกขั้นตอน พวกเขาจึงเข้าร่วม ปรากฏว่าได้ผลผลิตดี รายได้ดีกว่าทำไร่ แถมมีการรับประกันราคา ผมจึงตัดสินใจลองทำบ้าง”
ระยะแรกกี่ใช้พื้นที่ปลูก 25 ไร่ โดยทางเลย์ส่งเจ้าหน้าที่มาดูแลอย่างใกล้ชิด พร้อมสนับสนุนเรื่องการเตรียมหัวพันธุ์ การปลูก จนถึงการเก็บเกี่ยว ส่วนตัวของกี่เองเตรียมเรื่องการลงทุน ทั้งด้านพื้นที่ การจัดการดูแลรักษา แรงงานเก็บเกี่ยว เป็นเงินราว 1 หมื่นบาทต่อไร่
“ผมไม่รู้เรื่องการปลูกมันฝรั่งมาก่อน เท่ากับเริ่มจากศูนย์ ดีที่มีเจ้าหน้าที่ของเลย์มาดูแลตลอด เวลามีปัญหาก็ปรึกษาเขาได้ ปีแรกของการเก็บเกี่ยวผลผลิตดีมากเพราะได้ถึง 3 ตันต่อไร่ ผมทำอยู่ 3 ปีก็ฟื้นตัว จากนั้นก็ขยายพื้นที่ปลูกเป็น 35 ไร่ มีรายได้หลังหักค่าใช้จ่าย 3-4 แสนบาทต่อการปลูก 1 ครั้ง ถือว่าคุ้มค่าเหนื่อยครับ" กี่ บอกด้วยความภาคภูมิใจ และเสริมว่าปัจจุบันเขาได้ขยายพื้นที่ปลูกเพิ่มเป็น 60 ไร่ กี่บอกอีกว่า มันฝรั่งปีหนึ่งจะปลูกได้ 2 ครั้ง คือช่วงฤดูแล้ง พฤศจิกายน-มกราคม ส่วนในฤดูฝนปลูกได้ตั้งแต่พฤษภาคม-กันยายน คือ ถ้าปลูกเดือนพฤษภาคม ไปเก็บเกี่ยวในเดือนสิงหาคม
ถึงวันนี้ กี่บอกว่าคุณภาพชีวิตของครอบครัวดีขึ้นมาก มีกำลังเงินพอที่จะส่งเสียให้ลูกๆ ทั้ง 3 ได้เรียนหนังสือ โดยหวังเล็กๆ อยากให้ลูกนำความรู้กลับมาช่วยพัฒนาอาชีพการปลูกมันฝรั่งต่อไป เพราะเขามองว่าเป็นอาชีพที่มั่นคง และอนาคตจะเป็นพืชเศรษฐกิจอีกชนิดที่เกษตรกรไม่ควรมองข้าม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง'กิน' ต้าน แก่ ศาสตร์คงความหนุ่ม-สาว กูรูชี้แนะ-เลือกปลาได้ขนาดเพิ่มรสชาติความอร่อยเบอร์ลี่ยุคเกอร์ลุยลงทุนเวียดนามทุ่มผุดโรงงานผลิตแก้วประมวลดาราโชว์หน้าหราบนสินค้าผลิตภัณฑ์ชี้อาหารมันกินแล้วติดเหมือนยาเสพติด
NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6
หัวใจไทย เอาอะไรกับการเมือง
หัวใจไทย เอาอะไรกับการเมือง
คมชัดลึก :ตลอดระยะเวลาหลายสิบปีที่ผ่านมา ท่านผู้อ่านคงสังเกตเห็นว่าการเมืองบ้านเรานั้นดูจะไม่ขยับเขยื้อนไปไหนเลย มิหนำซ้ำยิ่งดูก็ยิ่งเห็นความถดถอยทางการเมืองที่นับวันจะมีมากขึ้นเสียด้วยซ้ำ
เคยได้ยินได้ฟังตลกร้ายเกี่ยวกับนักการเมืองในบ้านเรา โดยในเรื่องกล่าวเกริ่นว่า เมื่อครั้งพระเจ้าสร้างโลก พระองค์ได้ทรงสร้างสมดุลทางสิ่งแวดล้อมให้แก่ดินแดนต่างๆ คือมีทั้งดีและร้ายระคนกันไป แต่ระหว่างที่พระเจ้าสะพายถุงวิเศษข้ามเขาหิมาลัยเพื่อจะข้ามมายังบ้านเรา ปรากฏว่ายอดเขาที่สูงชันของหิมาลัยได้เกี่ยวถุงสิ่งเลวร้ายของพระเจ้าขาด ทำให้สิ่งเลวร้ายตกอยู่ในประเทศแถบนั้นเป็นอันมาก ดังนั้นเมื่อพระเจ้ามาถึงบ้านเราจึงมีแต่สิ่งดีๆ มอบให้ เพราะสิ่งเลวร้ายไปหล่นอยู่ในดินแดนอื่นหมดแล้ว
ปรากฏว่าเทวดาเจ้าที่ในแหล่งอื่นต่างก็มาฟ้องร้องว่า พระเจ้าไม่ยุติธรรม ที่ทำให้ประเทศไทยดีกว่าดินแดนอื่น ในตอนแรกพระเจ้าก็ไม่รู้ว่าจะหาทางออกได้อย่างไร ที่จะป้องกันประเทศอันสมบูรณ์ที่สุดในโลกนี้ไม่ให้เจริญล้ำไปกว่าที่อื่น แต่ในที่สุดพระเจ้าก็พบทางออก โดยท้ายเรื่องสรุปสั้นๆ เพียงว่า พระองค์ก็เลยสร้าง "นักการเมืองไทย" ขึ้นมา โดยให้มีอัตลักษณ์ที่สำคัญคือ “ใช้ของดีไม่เป็นและไม่เห็นทางเจริญ”
เมื่อแรกที่ได้อ่านเรื่องตลกร้ายดังกล่าวจบ เราก็เลือดขึ้นหน้า เพราะรู้สึกว่าถูกเหยียดหยามในความเป็นไทยอย่างแรง แต่เมื่อดับอารมณ์นั้นลงได้ แล้วหันกลับมามองสิ่งที่เกิดขึ้นในบ้านเราอย่างเปิดใจเป็นกลาง กลับต้องคิดใหม่ว่าทำไมเขาถึงว่าเราเป็นเช่นนั้น
ถ้าจำไม่ผิด เกี่ยวกับคำจำกัดความของคำว่า “นักการเมือง” เขาจะอธิบายว่า คือ ผู้ที่ทำทุกอย่างเพื่อผลประโยชน์ประเทศชาติ เพื่อให้ประเทศชาติเจริญก้าวหน้า และทำให้ประชาชนทุกชนชั้นอยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุข
แต่เท่าที่ได้ประสบพบเห็น นักการเมืองบ้านเรากลับมีลักษณะที่คงหาได้ยากในบ้านเมืองที่เจริญแล้ว โดยเฉพาะความคำนึงเรื่องชาตินั้น ดูจะเน้นความเป็น “ชาตินี้” มากกว่าความเป็น “ประเทศชาติ” โดยสิ้นเชิง ขนาดประเทศชาติถึงสภาวะวิกฤติขนาดนี้ ยังมีหน้ามาพูดถึงแต่ “ความอยู่รอดของพรรค” ที่เป็นแหล่งประกอบธุรกิจทางการเมืองของตัวเองกันแทบทั้งนั้น
สิ่งที่น่ากลัวที่สุดในทางการเมืองในขณะนี้ก็คือ “ภาษาของนักการเมือง” ทั้งที่พูดอยู่ในสภาและนอกสภา ที่เราคงต้องยอมรับความจริงว่า บัดนี้ “หาความจริง” ที่เคยเป็นความหมายแท้ๆ ของคำที่นักการเมืองชอบหยิบยกมาอ้างให้ผู้ที่รับฟังรู้สึกว่า “ดูดี” ไม่ได้เอาเสียเลย
เราลองกลับไปดูบรรดาโครงการหรือแนวนโยบายทางการเมืองที่มีคำว่า “พัฒนา” ดูก็แล้วกัน เราจะเห็นได้ว่าคำว่า “พัฒนา” นั้น จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่เจริญขึ้น แต่พอดำเนินการเข้าจริง ปรากฏว่านอกจากไม่เจริญขึ้นแล้ว ยังทำให้วิถีชีวิตของคนไทยย่ำแย่ลงไปกว่าเดิมแทบทั้งนั้นนอกจากนั้น เราจะเห็นคำอื่นๆ อีกไม่น้อย ที่วันนี้ไม่ได้มีความหมายในเชิงปฏิบัติแต่ประการใดเลย นอกจะดูเป็นเพียงสำนวนโวหารที่คิดขึ้นมาใช้ให้ดูโก้เก๋เท่านั้น อาทิ “เข้มแข็ง” ที่ผลกลับกลายเป็นจุดอ่อน “สันติวิธี” ที่มีแต่การใช้กำลัง “อหิงสา” ที่ทำร้ายกันไม่รู้จักหยุดหย่อน “มือเปล่า“ ที่มีทั้งระเบิด ปืน มีด ไม้ รวมทั้งก้อนอิฐ หรือ “อย่างสงบ” ที่ดูเท่าไรก็ไม่เคยหยุดนิ่งหรือควบคุมได้อยู่ในขอบเขตเลย หรือหัวใจไทยในวันนี้..ไม่มีความจริงให้กันเสียแล้ว
นายรัฐศาสตร์
ohohlek@hotmail.com
ข่าวที่เกี่ยวข้องมองผ่านเลนส์คม-ปรากฏการณ์ "พงษ์พัฒน์" เกมชิงไหวชิงพริบ 'ม็อบ-การเมือง'เปิดโลกการศึกษามุสลิม-ตอน จุฬาราชมนตรี คนที่ 18 ของไทย นาทีต่อนาที:ทหารลุย-นปช.สลาย-ป่วนทั่วกรุงแดงเผาเมืองธปท.สั่งปิดแบงก์ตลาดหุ้นรถไฟฟ้าหยุด
NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6
คมชัดลึก :ตลอดระยะเวลาหลายสิบปีที่ผ่านมา ท่านผู้อ่านคงสังเกตเห็นว่าการเมืองบ้านเรานั้นดูจะไม่ขยับเขยื้อนไปไหนเลย มิหนำซ้ำยิ่งดูก็ยิ่งเห็นความถดถอยทางการเมืองที่นับวันจะมีมากขึ้นเสียด้วยซ้ำ
เคยได้ยินได้ฟังตลกร้ายเกี่ยวกับนักการเมืองในบ้านเรา โดยในเรื่องกล่าวเกริ่นว่า เมื่อครั้งพระเจ้าสร้างโลก พระองค์ได้ทรงสร้างสมดุลทางสิ่งแวดล้อมให้แก่ดินแดนต่างๆ คือมีทั้งดีและร้ายระคนกันไป แต่ระหว่างที่พระเจ้าสะพายถุงวิเศษข้ามเขาหิมาลัยเพื่อจะข้ามมายังบ้านเรา ปรากฏว่ายอดเขาที่สูงชันของหิมาลัยได้เกี่ยวถุงสิ่งเลวร้ายของพระเจ้าขาด ทำให้สิ่งเลวร้ายตกอยู่ในประเทศแถบนั้นเป็นอันมาก ดังนั้นเมื่อพระเจ้ามาถึงบ้านเราจึงมีแต่สิ่งดีๆ มอบให้ เพราะสิ่งเลวร้ายไปหล่นอยู่ในดินแดนอื่นหมดแล้ว
ปรากฏว่าเทวดาเจ้าที่ในแหล่งอื่นต่างก็มาฟ้องร้องว่า พระเจ้าไม่ยุติธรรม ที่ทำให้ประเทศไทยดีกว่าดินแดนอื่น ในตอนแรกพระเจ้าก็ไม่รู้ว่าจะหาทางออกได้อย่างไร ที่จะป้องกันประเทศอันสมบูรณ์ที่สุดในโลกนี้ไม่ให้เจริญล้ำไปกว่าที่อื่น แต่ในที่สุดพระเจ้าก็พบทางออก โดยท้ายเรื่องสรุปสั้นๆ เพียงว่า พระองค์ก็เลยสร้าง "นักการเมืองไทย" ขึ้นมา โดยให้มีอัตลักษณ์ที่สำคัญคือ “ใช้ของดีไม่เป็นและไม่เห็นทางเจริญ”
เมื่อแรกที่ได้อ่านเรื่องตลกร้ายดังกล่าวจบ เราก็เลือดขึ้นหน้า เพราะรู้สึกว่าถูกเหยียดหยามในความเป็นไทยอย่างแรง แต่เมื่อดับอารมณ์นั้นลงได้ แล้วหันกลับมามองสิ่งที่เกิดขึ้นในบ้านเราอย่างเปิดใจเป็นกลาง กลับต้องคิดใหม่ว่าทำไมเขาถึงว่าเราเป็นเช่นนั้น
ถ้าจำไม่ผิด เกี่ยวกับคำจำกัดความของคำว่า “นักการเมือง” เขาจะอธิบายว่า คือ ผู้ที่ทำทุกอย่างเพื่อผลประโยชน์ประเทศชาติ เพื่อให้ประเทศชาติเจริญก้าวหน้า และทำให้ประชาชนทุกชนชั้นอยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุข
แต่เท่าที่ได้ประสบพบเห็น นักการเมืองบ้านเรากลับมีลักษณะที่คงหาได้ยากในบ้านเมืองที่เจริญแล้ว โดยเฉพาะความคำนึงเรื่องชาตินั้น ดูจะเน้นความเป็น “ชาตินี้” มากกว่าความเป็น “ประเทศชาติ” โดยสิ้นเชิง ขนาดประเทศชาติถึงสภาวะวิกฤติขนาดนี้ ยังมีหน้ามาพูดถึงแต่ “ความอยู่รอดของพรรค” ที่เป็นแหล่งประกอบธุรกิจทางการเมืองของตัวเองกันแทบทั้งนั้น
สิ่งที่น่ากลัวที่สุดในทางการเมืองในขณะนี้ก็คือ “ภาษาของนักการเมือง” ทั้งที่พูดอยู่ในสภาและนอกสภา ที่เราคงต้องยอมรับความจริงว่า บัดนี้ “หาความจริง” ที่เคยเป็นความหมายแท้ๆ ของคำที่นักการเมืองชอบหยิบยกมาอ้างให้ผู้ที่รับฟังรู้สึกว่า “ดูดี” ไม่ได้เอาเสียเลย
เราลองกลับไปดูบรรดาโครงการหรือแนวนโยบายทางการเมืองที่มีคำว่า “พัฒนา” ดูก็แล้วกัน เราจะเห็นได้ว่าคำว่า “พัฒนา” นั้น จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่เจริญขึ้น แต่พอดำเนินการเข้าจริง ปรากฏว่านอกจากไม่เจริญขึ้นแล้ว ยังทำให้วิถีชีวิตของคนไทยย่ำแย่ลงไปกว่าเดิมแทบทั้งนั้นนอกจากนั้น เราจะเห็นคำอื่นๆ อีกไม่น้อย ที่วันนี้ไม่ได้มีความหมายในเชิงปฏิบัติแต่ประการใดเลย นอกจะดูเป็นเพียงสำนวนโวหารที่คิดขึ้นมาใช้ให้ดูโก้เก๋เท่านั้น อาทิ “เข้มแข็ง” ที่ผลกลับกลายเป็นจุดอ่อน “สันติวิธี” ที่มีแต่การใช้กำลัง “อหิงสา” ที่ทำร้ายกันไม่รู้จักหยุดหย่อน “มือเปล่า“ ที่มีทั้งระเบิด ปืน มีด ไม้ รวมทั้งก้อนอิฐ หรือ “อย่างสงบ” ที่ดูเท่าไรก็ไม่เคยหยุดนิ่งหรือควบคุมได้อยู่ในขอบเขตเลย หรือหัวใจไทยในวันนี้..ไม่มีความจริงให้กันเสียแล้ว
นายรัฐศาสตร์
ohohlek@hotmail.com
ข่าวที่เกี่ยวข้องมองผ่านเลนส์คม-ปรากฏการณ์ "พงษ์พัฒน์" เกมชิงไหวชิงพริบ 'ม็อบ-การเมือง'เปิดโลกการศึกษามุสลิม-ตอน จุฬาราชมนตรี คนที่ 18 ของไทย นาทีต่อนาที:ทหารลุย-นปช.สลาย-ป่วนทั่วกรุงแดงเผาเมืองธปท.สั่งปิดแบงก์ตลาดหุ้นรถไฟฟ้าหยุด
NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6
สมอหิน เปลือกย้อมผ้า
สมอหิน เปลือกย้อมผ้า
คมชัดลึก : "สมอหิน" หรือ "สมอตีนนก" เนื้อไม้นอกจากใช้ในงานก่อสร้างรวมถึงทำหมอนรถไฟแล้ว เปลือกและผลยังทำสีย้อมผ้าได้ ส่วนรากมีสรรพคุณแก้ปัสสาวะเป็นเลือด
เป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็กถึงกลาง ในวงศ์ VERBENACEAE สูง 8-15 เมตร ต้นเปลาตรง เรือนยอดเป็นพุ่ม กิ่งอ่อนเป็นสันสี่เหลี่ยม ทั้งกิ่งอ่อนและยอดอ่อนมีขนยาวนุ่ม เปลือกสีเทา
ใบ เป็นประกอบมีใบย่อยออกตรงข้าม 3-5 ใบ ทรงใบย่อยรูปรี โคนและปลายใบแหลม เนื้อใบหนา หลังใบเขียวเข้ม ท้องใบสีจางมีขนนุ่ม ขอบเรียบ มีเส้นแขนงใบ 8-14 คู่
ดอก เป็นช่อที่ปลายกิ่ง รูปถ้วย แต่ละช่อมีดอกย่อยเล็กมาก เมื่อบานกลีบดอกติดกันเป็นรูปกรวย ปลายแยกเป็นรูปปาก มีเกสรตัวผู้ 4 อัน แยกเป็นคู่
ผล ทรงกลมเล็ก ผลแก่สีดำ ด้านในมี 1-2 เมล็ด ขยายพันธุ์ เพาะเมล็ด ชอบความชื้นและแดดปานกลาง
นายสวีสอง
NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6
คมชัดลึก : "สมอหิน" หรือ "สมอตีนนก" เนื้อไม้นอกจากใช้ในงานก่อสร้างรวมถึงทำหมอนรถไฟแล้ว เปลือกและผลยังทำสีย้อมผ้าได้ ส่วนรากมีสรรพคุณแก้ปัสสาวะเป็นเลือด
เป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็กถึงกลาง ในวงศ์ VERBENACEAE สูง 8-15 เมตร ต้นเปลาตรง เรือนยอดเป็นพุ่ม กิ่งอ่อนเป็นสันสี่เหลี่ยม ทั้งกิ่งอ่อนและยอดอ่อนมีขนยาวนุ่ม เปลือกสีเทา
ใบ เป็นประกอบมีใบย่อยออกตรงข้าม 3-5 ใบ ทรงใบย่อยรูปรี โคนและปลายใบแหลม เนื้อใบหนา หลังใบเขียวเข้ม ท้องใบสีจางมีขนนุ่ม ขอบเรียบ มีเส้นแขนงใบ 8-14 คู่
ดอก เป็นช่อที่ปลายกิ่ง รูปถ้วย แต่ละช่อมีดอกย่อยเล็กมาก เมื่อบานกลีบดอกติดกันเป็นรูปกรวย ปลายแยกเป็นรูปปาก มีเกสรตัวผู้ 4 อัน แยกเป็นคู่
ผล ทรงกลมเล็ก ผลแก่สีดำ ด้านในมี 1-2 เมล็ด ขยายพันธุ์ เพาะเมล็ด ชอบความชื้นและแดดปานกลาง
นายสวีสอง
NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6
เปลี่ยนไร่ข้าวโพดสู่วิถีไร่มันฝรั่งทำเงินแสนพลิกชีวิตชาวม้งที่ตาก
เปลี่ยนไร่ข้าวโพดสู่วิถีไร่มันฝรั่งทำเงินแสนพลิกชีวิตชาวม้งที่ตาก
คมชัดลึก : เกษตรกรชาวไทยเชื้อสายม้ง "กี่ แซ่ม้า" วัย 45 ปี แห่ง อ.พบพระ จ.ตาก คือผลพวงของความสำเร็จจากการเข้าร่วมโครงการส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกมันฝรั่ง หลังชีวิตล้มเหลวจากการทำไร่ข้าวโพด และจากที่เขาและครอบครัวช่วยกันลงน้ำพักน้ำแรงอย่างเต็มที่ ทำให้ไร่มันฝรั่ง 60 ไร่ กลายเป็นขุมทรัพย์ที่พลิกชีวิตให้ลืมตาอ้าปากได้ในปัจจุบัน
เดิมกี่และชาวม้งอีกกว่า 30 ครัวเรือน ซึ่งอาศัยอยู่บริเวณป่าห้วยขาแข้ง ทุ่งใหญ่นเรศวร ได้ยึดทำไร่เลื่อนลอยเลี้ยงครอบครัว ต่อเมื่อราว 10 ปีเศษ ทางการเกรงว่าหากปล่อยให้ขยายพื้นที่ทำไร่ออกไปจะเป็นการบุกรุกทำลายป่า จึงได้อพยพคนกลุ่มนี้มาตั้งหลักปักฐานบริเวณป่าเสื่อมโทรม อ.พบพระ จ.ตาก พร้อมจัดสรรที่ดินทำกินให้ครอบครัวละ 20 ไร่ ภายใต้เงื่อนไขห้ามซื้อขาย แต่กระนั้น กี่ก็ได้พื้นที่เพิ่มอีก 20 ไร่ในปีถัดมา
กี่จึงพลิกฟื้นผืนดินนี้ ด้วยการทำไร่ข้าวโพดเต็มพื้นที่ ทว่าตลอด 3-4 ฤดูกาลเก็บเกี่ยว ผลผลิตที่ได้ไม่คุ้มกับค่าเหนื่อยที่ลงทุน บวกความคิดที่มองว่าเพราะที่ดินปลูกน้อยเกินไป เขาจึงขวนขวายเพิ่มพื้นที่ปลูกเป็น 100 ไร่ ในรูปของการเช่า และมีบ้างที่ซื้อเพิ่มแต่ในที่สุดก็ยังเจอกับปัญหาเดิมๆ
“เราปลูกข้าวโพดได้ปีละครั้ง ราคาก็ไม่แน่นอน ไม่มีประกันราคา บางปีก็ดี บางปีก็ไม่ดี หักค่าใช้จ่ายแล้วเหลือกำไรแค่ 2-3 พันบาทต่อไร่เท่านั้น ถึงมีพื้นที่ปลูกเยอะก็ไม่คุ้มกับค่าเหนื่อย รายได้ไม่เพียงพอต่อการเลี้ยงดูครอบครัว ผมมีภรรยา และลูกอีก 3 คน จึงพยายามมองหาพืชไร่อื่นๆ มาปลูกทดแทน”
ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น กี่บอกว่าคือพลังที่กระตุ้นให้เขาและครอบครัวจำเป็นต้องเดินหน้า และนับเป็นโชคดีที่ต่อมาได้รู้จักพร้อมเป็นส่วนหนึ่งในโครงการส่งเสริมเกษตรกรปลูกมันฝรั่งของเลย์ ของบริษัท ฟริโต-เลย์ ประเทศไทย ที่สนับสนุนด้านความรู้เขาจึงได้เข้าร่วมอย่างไม่รั้งรอ
“ตอนนั้นชีวิตลำบาก ไม่รู้จะไปทำอะไรดี อีกทั้งความรู้ก็ไม่มี จนผมมีโอกาสได้คุยกับเพื่อนหลายคนที่เข้าร่วมโครงการปลูกมันฝรั่งซึ่งแต่ก่อนพวกเขาก็ทำไร่เหมือนผมแต่ไม่ประสบผลสำเร็จ เมื่อเลย์เข้ามาชวน โดยให้คำแนะนำและความรู้ทุกขั้นตอน พวกเขาจึงเข้าร่วม ปรากฏว่าได้ผลผลิตดี รายได้ดีกว่าทำไร่ แถมมีการรับประกันราคา ผมจึงตัดสินใจลองทำบ้าง”
ระยะแรกกี่ใช้พื้นที่ปลูก 25 ไร่ โดยทางเลย์ส่งเจ้าหน้าที่มาดูแลอย่างใกล้ชิด พร้อมสนับสนุนเรื่องการเตรียมหัวพันธุ์ การปลูก จนถึงการเก็บเกี่ยว ส่วนตัวของกี่เองเตรียมเรื่องการลงทุน ทั้งด้านพื้นที่ การจัดการดูแลรักษา แรงงานเก็บเกี่ยว เป็นเงินราว 1 หมื่นบาทต่อไร่
“ผมไม่รู้เรื่องการปลูกมันฝรั่งมาก่อน เท่ากับเริ่มจากศูนย์ ดีที่มีเจ้าหน้าที่ของเลย์มาดูแลตลอด เวลามีปัญหาก็ปรึกษาเขาได้ ปีแรกของการเก็บเกี่ยวผลผลิตดีมากเพราะได้ถึง 3 ตันต่อไร่ ผมทำอยู่ 3 ปีก็ฟื้นตัว จากนั้นก็ขยายพื้นที่ปลูกเป็น 35 ไร่ มีรายได้หลังหักค่าใช้จ่าย 3-4 แสนบาทต่อการปลูก 1 ครั้ง ถือว่าคุ้มค่าเหนื่อยครับ" กี่ บอกด้วยความภาคภูมิใจ และเสริมว่าปัจจุบันเขาได้ขยายพื้นที่ปลูกเพิ่มเป็น 60 ไร่ กี่บอกอีกว่า มันฝรั่งปีหนึ่งจะปลูกได้ 2 ครั้ง คือช่วงฤดูแล้ง พฤศจิกายน-มกราคม ส่วนในฤดูฝนปลูกได้ตั้งแต่พฤษภาคม-กันยายน คือ ถ้าปลูกเดือนพฤษภาคม ไปเก็บเกี่ยวในเดือนสิงหาคม
ถึงวันนี้ กี่บอกว่าคุณภาพชีวิตของครอบครัวดีขึ้นมาก มีกำลังเงินพอที่จะส่งเสียให้ลูกๆ ทั้ง 3 ได้เรียนหนังสือ โดยหวังเล็กๆ อยากให้ลูกนำความรู้กลับมาช่วยพัฒนาอาชีพการปลูกมันฝรั่งต่อไป เพราะเขามองว่าเป็นอาชีพที่มั่นคง และอนาคตจะเป็นพืชเศรษฐกิจอีกชนิดที่เกษตรกรไม่ควรมองข้าม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง'กิน' ต้าน แก่ ศาสตร์คงความหนุ่ม-สาว กูรูชี้แนะ-เลือกปลาได้ขนาดเพิ่มรสชาติความอร่อยเบอร์ลี่ยุคเกอร์ลุยลงทุนเวียดนามทุ่มผุดโรงงานผลิตแก้วประมวลดาราโชว์หน้าหราบนสินค้าผลิตภัณฑ์ชี้อาหารมันกินแล้วติดเหมือนยาเสพติด
NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6
คมชัดลึก : เกษตรกรชาวไทยเชื้อสายม้ง "กี่ แซ่ม้า" วัย 45 ปี แห่ง อ.พบพระ จ.ตาก คือผลพวงของความสำเร็จจากการเข้าร่วมโครงการส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกมันฝรั่ง หลังชีวิตล้มเหลวจากการทำไร่ข้าวโพด และจากที่เขาและครอบครัวช่วยกันลงน้ำพักน้ำแรงอย่างเต็มที่ ทำให้ไร่มันฝรั่ง 60 ไร่ กลายเป็นขุมทรัพย์ที่พลิกชีวิตให้ลืมตาอ้าปากได้ในปัจจุบัน
เดิมกี่และชาวม้งอีกกว่า 30 ครัวเรือน ซึ่งอาศัยอยู่บริเวณป่าห้วยขาแข้ง ทุ่งใหญ่นเรศวร ได้ยึดทำไร่เลื่อนลอยเลี้ยงครอบครัว ต่อเมื่อราว 10 ปีเศษ ทางการเกรงว่าหากปล่อยให้ขยายพื้นที่ทำไร่ออกไปจะเป็นการบุกรุกทำลายป่า จึงได้อพยพคนกลุ่มนี้มาตั้งหลักปักฐานบริเวณป่าเสื่อมโทรม อ.พบพระ จ.ตาก พร้อมจัดสรรที่ดินทำกินให้ครอบครัวละ 20 ไร่ ภายใต้เงื่อนไขห้ามซื้อขาย แต่กระนั้น กี่ก็ได้พื้นที่เพิ่มอีก 20 ไร่ในปีถัดมา
กี่จึงพลิกฟื้นผืนดินนี้ ด้วยการทำไร่ข้าวโพดเต็มพื้นที่ ทว่าตลอด 3-4 ฤดูกาลเก็บเกี่ยว ผลผลิตที่ได้ไม่คุ้มกับค่าเหนื่อยที่ลงทุน บวกความคิดที่มองว่าเพราะที่ดินปลูกน้อยเกินไป เขาจึงขวนขวายเพิ่มพื้นที่ปลูกเป็น 100 ไร่ ในรูปของการเช่า และมีบ้างที่ซื้อเพิ่มแต่ในที่สุดก็ยังเจอกับปัญหาเดิมๆ
“เราปลูกข้าวโพดได้ปีละครั้ง ราคาก็ไม่แน่นอน ไม่มีประกันราคา บางปีก็ดี บางปีก็ไม่ดี หักค่าใช้จ่ายแล้วเหลือกำไรแค่ 2-3 พันบาทต่อไร่เท่านั้น ถึงมีพื้นที่ปลูกเยอะก็ไม่คุ้มกับค่าเหนื่อย รายได้ไม่เพียงพอต่อการเลี้ยงดูครอบครัว ผมมีภรรยา และลูกอีก 3 คน จึงพยายามมองหาพืชไร่อื่นๆ มาปลูกทดแทน”
ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น กี่บอกว่าคือพลังที่กระตุ้นให้เขาและครอบครัวจำเป็นต้องเดินหน้า และนับเป็นโชคดีที่ต่อมาได้รู้จักพร้อมเป็นส่วนหนึ่งในโครงการส่งเสริมเกษตรกรปลูกมันฝรั่งของเลย์ ของบริษัท ฟริโต-เลย์ ประเทศไทย ที่สนับสนุนด้านความรู้เขาจึงได้เข้าร่วมอย่างไม่รั้งรอ
“ตอนนั้นชีวิตลำบาก ไม่รู้จะไปทำอะไรดี อีกทั้งความรู้ก็ไม่มี จนผมมีโอกาสได้คุยกับเพื่อนหลายคนที่เข้าร่วมโครงการปลูกมันฝรั่งซึ่งแต่ก่อนพวกเขาก็ทำไร่เหมือนผมแต่ไม่ประสบผลสำเร็จ เมื่อเลย์เข้ามาชวน โดยให้คำแนะนำและความรู้ทุกขั้นตอน พวกเขาจึงเข้าร่วม ปรากฏว่าได้ผลผลิตดี รายได้ดีกว่าทำไร่ แถมมีการรับประกันราคา ผมจึงตัดสินใจลองทำบ้าง”
ระยะแรกกี่ใช้พื้นที่ปลูก 25 ไร่ โดยทางเลย์ส่งเจ้าหน้าที่มาดูแลอย่างใกล้ชิด พร้อมสนับสนุนเรื่องการเตรียมหัวพันธุ์ การปลูก จนถึงการเก็บเกี่ยว ส่วนตัวของกี่เองเตรียมเรื่องการลงทุน ทั้งด้านพื้นที่ การจัดการดูแลรักษา แรงงานเก็บเกี่ยว เป็นเงินราว 1 หมื่นบาทต่อไร่
“ผมไม่รู้เรื่องการปลูกมันฝรั่งมาก่อน เท่ากับเริ่มจากศูนย์ ดีที่มีเจ้าหน้าที่ของเลย์มาดูแลตลอด เวลามีปัญหาก็ปรึกษาเขาได้ ปีแรกของการเก็บเกี่ยวผลผลิตดีมากเพราะได้ถึง 3 ตันต่อไร่ ผมทำอยู่ 3 ปีก็ฟื้นตัว จากนั้นก็ขยายพื้นที่ปลูกเป็น 35 ไร่ มีรายได้หลังหักค่าใช้จ่าย 3-4 แสนบาทต่อการปลูก 1 ครั้ง ถือว่าคุ้มค่าเหนื่อยครับ" กี่ บอกด้วยความภาคภูมิใจ และเสริมว่าปัจจุบันเขาได้ขยายพื้นที่ปลูกเพิ่มเป็น 60 ไร่ กี่บอกอีกว่า มันฝรั่งปีหนึ่งจะปลูกได้ 2 ครั้ง คือช่วงฤดูแล้ง พฤศจิกายน-มกราคม ส่วนในฤดูฝนปลูกได้ตั้งแต่พฤษภาคม-กันยายน คือ ถ้าปลูกเดือนพฤษภาคม ไปเก็บเกี่ยวในเดือนสิงหาคม
ถึงวันนี้ กี่บอกว่าคุณภาพชีวิตของครอบครัวดีขึ้นมาก มีกำลังเงินพอที่จะส่งเสียให้ลูกๆ ทั้ง 3 ได้เรียนหนังสือ โดยหวังเล็กๆ อยากให้ลูกนำความรู้กลับมาช่วยพัฒนาอาชีพการปลูกมันฝรั่งต่อไป เพราะเขามองว่าเป็นอาชีพที่มั่นคง และอนาคตจะเป็นพืชเศรษฐกิจอีกชนิดที่เกษตรกรไม่ควรมองข้าม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง'กิน' ต้าน แก่ ศาสตร์คงความหนุ่ม-สาว กูรูชี้แนะ-เลือกปลาได้ขนาดเพิ่มรสชาติความอร่อยเบอร์ลี่ยุคเกอร์ลุยลงทุนเวียดนามทุ่มผุดโรงงานผลิตแก้วประมวลดาราโชว์หน้าหราบนสินค้าผลิตภัณฑ์ชี้อาหารมันกินแล้วติดเหมือนยาเสพติด
NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6
เปิดบ้านเป็นศูนย์เรียนรู้หนุนเกษตรกรทำปุ๋ยใช้เอง
เปิดบ้านเป็นศูนย์เรียนรู้หนุนเกษตรกรทำปุ๋ยใช้เอง
คมชัดลึก : แม้ "โสมนัส เสมอพิทักษ์" จะอยู่ในแวดวงการเมืองท้องถิ่น ในฐานะสมาชิกเทศบาลตำบลท่าแร่ เขต 1 อ.เมือง จ.สกลนคร แต่ด้วยพื้นเพเดิมเป็นเกษตรกร เขาจึงไม่ทิ้งอาชีพเดิม ประกอบกับปัจจุบัน เห็นเกษตรกรใช้สารเคมีมาใช้อย่างกว้างขวาง เขาจึงมาส่งเสริมให้ชาวชุมชนในพื้นที่ผลิตปุ๋ยใช้เอง ไม่ต้องซื้อหา เพื่อลดการใช้ยาฆ่าแมลงในแปลงการเกษตร ที่สำคัญคนในชุมชนมีอาชีพ สร้างรายได้ โดยเปิดบ้านพักตัวเองที่หมู่ 1 ถ.คำในสว่าง ต.ท่าแร่ เป็นศูนย์เรียนรู้กลุ่มเกษตรกรเทศบาลตำบลท่าแร่ เน้นยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง
โสมนัส เล่าว่า ที่ผ่านมาประชาชนและเกษตรกรในพื้นที่ ต.ท่าแร่ ใช้น้ำยาเคมี หรือสารต่อต้านแมลงในภาคเกษตรอย่างกว้างขวาง ซึ่งส่งผลค้างเคียงต่อสุขภาพและผลผลิตด้านการเกษตรเพราะขาดความรู้ความเข้าใจในการดูแลในการแก้ไขปัญหา โดยสารเคมีเหล่านี้เมื่อมีการชำระล้างด้วยน้ำ ทำให้น้ำไหลลงไปสู่แหล่งน้ำธรรมชาติภายในชุมชนในปริมาณที่มาก โดยเฉพาะทะเลสาบน้ำจืดหนองหาร เนื่องจากชุมชนท่าแร่มีพื้นที่ติดต่อกับแหล่งน้ำดังกล่าว จึงส่งผลต่อสุขภาพคนในชุมชนโดยตรง ในที่สุดจึงตัดสินใจหันไปส่งเสริมการผลิตปุ๋ยจากสารอินทรีย์และจุลินทรีย์ เพื่อลดปริมาณสารเคสิ่งเจือปนในพืชผัก และลดอาการป่วยของคนในชุมชนที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงเข้าร่วมฝึกอบรมกระบวนการความรู้ความเข้าใจจากสำนักงานเกษตรจังหวัดสกลนคร ในโครงการ "พัฒนาศักยภาพนักจัดการชุมชน" หลักสูตรผู้นำการพัฒนา เป็นเวลา 1 ปี ในปี 2552 ที่ผ่านมา เมื่อได้ความรู้ทั้งด้านวิชาการและภาคปฏิบัติ จึงนำความรู้ลงมาถ่ายทอดให้แก่คนในชุมชน แรกเริ่มมีเกษตรกรให้ความสนใจเพียง 5-10 ราย หลังจากกอบรมแล้วเกษตรกรเหล่านี้ได้นำกลับไปปฏิบติจนประสบความสำเร็จ พร้อมกับเชิญชวนเกษตรกรในพื้นที่ใกล้เคียงที่สนใจเข้าร่วม จนแผ่ขยายการปฏิบัติออกไปเป็นวงกว้าง ซึ่งปัจจุบันมีสมาชิกเข้ามาศึกษาแล้วกว่า 70 คน
"สารอินทรีย์ คือ สารสกัดธรรมชาติ ซึ่งเป็นโครงสร้างของผลผลิตจากเปลือกกุ้ง กระดองปู แกนปลาหมึก และผนังเซลล์ของเห็ดและราบางชนิด มีคุณสมบัติพื้นฐานเข้ากับธรรมชาติได้ดี ย่อยสลายง่าย ไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสภาพแวดล้อม เมื่อนำไปใช้ในการเกษตรเพื่อเร่งการเจริญเติบโตของพืช และสัตว์แลกเนื้อ ใช้เคลือบผลไม้เพื่อยืดอายุการรักษาและใช้เป็นสารถนอมอาหารจุลินทรีย์เพื่อการเกษตร เป็นสิ่งมีชีวิตและช่วยย่อยสารอินทรีย์วัตถุต่างๆ ที่มีอยู่ในดินเพื่อให้ดินมีชีวิตขึ้นมาใหม่ สร้างความอุดมสมบูรณ์ให้แก่กัน ปัจจุบันพบว่าเกษตรกรที่นำสารอินทรีย์และจุลินทรีย์ไปใช้ในระดับไร่นากันอย่างแพร่หลาย ส่งผลให้เกษตรกรลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มรายได้ อีกทั้งปลอดถัยจากสารพิษ" โสมนัส กล่าว
หากสถาบันเกษตร หรือเกษตรกรทั่วไปที่สนใจสามารถสอบถามได้ที่เป็นศูนย์เรียนรู้กลุ่มเกษตรกรเทศบาลตำบลท่าแร่นั่นเอง
นรากร เวชกามา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง"ปุ๋ยอินทรีย์"จากเศษทะลายปาล์ม
ผลิตภัณฑ์คุณภาพ "เกษตรสิทธี"
สกลฯยกระดับหมู่บ้าน2แห่งดึงชุมชนเข้าร่วม ติวเข้มโครงการศก.พอเพียงมุมมองใหม่-สอนเลี้ยงควาย-ทำนาปลูกฝังนักเรียนรู้พอเพียง "เฟย ศรีสมบัติ" ต้นแบบครอบครัว ศก.พอเพียง ปชป.ค้านเปลี่ยนใช้ชื่อโครงการชุมชนพอเพียง
NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6
คมชัดลึก : แม้ "โสมนัส เสมอพิทักษ์" จะอยู่ในแวดวงการเมืองท้องถิ่น ในฐานะสมาชิกเทศบาลตำบลท่าแร่ เขต 1 อ.เมือง จ.สกลนคร แต่ด้วยพื้นเพเดิมเป็นเกษตรกร เขาจึงไม่ทิ้งอาชีพเดิม ประกอบกับปัจจุบัน เห็นเกษตรกรใช้สารเคมีมาใช้อย่างกว้างขวาง เขาจึงมาส่งเสริมให้ชาวชุมชนในพื้นที่ผลิตปุ๋ยใช้เอง ไม่ต้องซื้อหา เพื่อลดการใช้ยาฆ่าแมลงในแปลงการเกษตร ที่สำคัญคนในชุมชนมีอาชีพ สร้างรายได้ โดยเปิดบ้านพักตัวเองที่หมู่ 1 ถ.คำในสว่าง ต.ท่าแร่ เป็นศูนย์เรียนรู้กลุ่มเกษตรกรเทศบาลตำบลท่าแร่ เน้นยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง
โสมนัส เล่าว่า ที่ผ่านมาประชาชนและเกษตรกรในพื้นที่ ต.ท่าแร่ ใช้น้ำยาเคมี หรือสารต่อต้านแมลงในภาคเกษตรอย่างกว้างขวาง ซึ่งส่งผลค้างเคียงต่อสุขภาพและผลผลิตด้านการเกษตรเพราะขาดความรู้ความเข้าใจในการดูแลในการแก้ไขปัญหา โดยสารเคมีเหล่านี้เมื่อมีการชำระล้างด้วยน้ำ ทำให้น้ำไหลลงไปสู่แหล่งน้ำธรรมชาติภายในชุมชนในปริมาณที่มาก โดยเฉพาะทะเลสาบน้ำจืดหนองหาร เนื่องจากชุมชนท่าแร่มีพื้นที่ติดต่อกับแหล่งน้ำดังกล่าว จึงส่งผลต่อสุขภาพคนในชุมชนโดยตรง ในที่สุดจึงตัดสินใจหันไปส่งเสริมการผลิตปุ๋ยจากสารอินทรีย์และจุลินทรีย์ เพื่อลดปริมาณสารเคสิ่งเจือปนในพืชผัก และลดอาการป่วยของคนในชุมชนที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงเข้าร่วมฝึกอบรมกระบวนการความรู้ความเข้าใจจากสำนักงานเกษตรจังหวัดสกลนคร ในโครงการ "พัฒนาศักยภาพนักจัดการชุมชน" หลักสูตรผู้นำการพัฒนา เป็นเวลา 1 ปี ในปี 2552 ที่ผ่านมา เมื่อได้ความรู้ทั้งด้านวิชาการและภาคปฏิบัติ จึงนำความรู้ลงมาถ่ายทอดให้แก่คนในชุมชน แรกเริ่มมีเกษตรกรให้ความสนใจเพียง 5-10 ราย หลังจากกอบรมแล้วเกษตรกรเหล่านี้ได้นำกลับไปปฏิบติจนประสบความสำเร็จ พร้อมกับเชิญชวนเกษตรกรในพื้นที่ใกล้เคียงที่สนใจเข้าร่วม จนแผ่ขยายการปฏิบัติออกไปเป็นวงกว้าง ซึ่งปัจจุบันมีสมาชิกเข้ามาศึกษาแล้วกว่า 70 คน
"สารอินทรีย์ คือ สารสกัดธรรมชาติ ซึ่งเป็นโครงสร้างของผลผลิตจากเปลือกกุ้ง กระดองปู แกนปลาหมึก และผนังเซลล์ของเห็ดและราบางชนิด มีคุณสมบัติพื้นฐานเข้ากับธรรมชาติได้ดี ย่อยสลายง่าย ไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสภาพแวดล้อม เมื่อนำไปใช้ในการเกษตรเพื่อเร่งการเจริญเติบโตของพืช และสัตว์แลกเนื้อ ใช้เคลือบผลไม้เพื่อยืดอายุการรักษาและใช้เป็นสารถนอมอาหารจุลินทรีย์เพื่อการเกษตร เป็นสิ่งมีชีวิตและช่วยย่อยสารอินทรีย์วัตถุต่างๆ ที่มีอยู่ในดินเพื่อให้ดินมีชีวิตขึ้นมาใหม่ สร้างความอุดมสมบูรณ์ให้แก่กัน ปัจจุบันพบว่าเกษตรกรที่นำสารอินทรีย์และจุลินทรีย์ไปใช้ในระดับไร่นากันอย่างแพร่หลาย ส่งผลให้เกษตรกรลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มรายได้ อีกทั้งปลอดถัยจากสารพิษ" โสมนัส กล่าว
หากสถาบันเกษตร หรือเกษตรกรทั่วไปที่สนใจสามารถสอบถามได้ที่เป็นศูนย์เรียนรู้กลุ่มเกษตรกรเทศบาลตำบลท่าแร่นั่นเอง
นรากร เวชกามา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง"ปุ๋ยอินทรีย์"จากเศษทะลายปาล์ม
ผลิตภัณฑ์คุณภาพ "เกษตรสิทธี"
สกลฯยกระดับหมู่บ้าน2แห่งดึงชุมชนเข้าร่วม ติวเข้มโครงการศก.พอเพียงมุมมองใหม่-สอนเลี้ยงควาย-ทำนาปลูกฝังนักเรียนรู้พอเพียง "เฟย ศรีสมบัติ" ต้นแบบครอบครัว ศก.พอเพียง ปชป.ค้านเปลี่ยนใช้ชื่อโครงการชุมชนพอเพียง
NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6
สมอหิน เปลือกย้อมผ้า
สมอหิน เปลือกย้อมผ้า
คมชัดลึก : "สมอหิน" หรือ "สมอตีนนก" เนื้อไม้นอกจากใช้ในงานก่อสร้างรวมถึงทำหมอนรถไฟแล้ว เปลือกและผลยังทำสีย้อมผ้าได้ ส่วนรากมีสรรพคุณแก้ปัสสาวะเป็นเลือด
เป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็กถึงกลาง ในวงศ์ VERBENACEAE สูง 8-15 เมตร ต้นเปลาตรง เรือนยอดเป็นพุ่ม กิ่งอ่อนเป็นสันสี่เหลี่ยม ทั้งกิ่งอ่อนและยอดอ่อนมีขนยาวนุ่ม เปลือกสีเทา
ใบ เป็นประกอบมีใบย่อยออกตรงข้าม 3-5 ใบ ทรงใบย่อยรูปรี โคนและปลายใบแหลม เนื้อใบหนา หลังใบเขียวเข้ม ท้องใบสีจางมีขนนุ่ม ขอบเรียบ มีเส้นแขนงใบ 8-14 คู่
ดอก เป็นช่อที่ปลายกิ่ง รูปถ้วย แต่ละช่อมีดอกย่อยเล็กมาก เมื่อบานกลีบดอกติดกันเป็นรูปกรวย ปลายแยกเป็นรูปปาก มีเกสรตัวผู้ 4 อัน แยกเป็นคู่
ผล ทรงกลมเล็ก ผลแก่สีดำ ด้านในมี 1-2 เมล็ด ขยายพันธุ์ เพาะเมล็ด ชอบความชื้นและแดดปานกลาง
นายสวีสอง
NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6
คมชัดลึก : "สมอหิน" หรือ "สมอตีนนก" เนื้อไม้นอกจากใช้ในงานก่อสร้างรวมถึงทำหมอนรถไฟแล้ว เปลือกและผลยังทำสีย้อมผ้าได้ ส่วนรากมีสรรพคุณแก้ปัสสาวะเป็นเลือด
เป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็กถึงกลาง ในวงศ์ VERBENACEAE สูง 8-15 เมตร ต้นเปลาตรง เรือนยอดเป็นพุ่ม กิ่งอ่อนเป็นสันสี่เหลี่ยม ทั้งกิ่งอ่อนและยอดอ่อนมีขนยาวนุ่ม เปลือกสีเทา
ใบ เป็นประกอบมีใบย่อยออกตรงข้าม 3-5 ใบ ทรงใบย่อยรูปรี โคนและปลายใบแหลม เนื้อใบหนา หลังใบเขียวเข้ม ท้องใบสีจางมีขนนุ่ม ขอบเรียบ มีเส้นแขนงใบ 8-14 คู่
ดอก เป็นช่อที่ปลายกิ่ง รูปถ้วย แต่ละช่อมีดอกย่อยเล็กมาก เมื่อบานกลีบดอกติดกันเป็นรูปกรวย ปลายแยกเป็นรูปปาก มีเกสรตัวผู้ 4 อัน แยกเป็นคู่
ผล ทรงกลมเล็ก ผลแก่สีดำ ด้านในมี 1-2 เมล็ด ขยายพันธุ์ เพาะเมล็ด ชอบความชื้นและแดดปานกลาง
นายสวีสอง
NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6
ทุ่ม131ล้านผุดศูนย์ข้าวรับเปิดค้าเสรี
ทุ่ม131ล้านผุดศูนย์ข้าวรับเปิดค้าเสรี
คมชัดลึก :ก.เกษตรฯ อัดงบ 131 ล้านบาท จัดทำโครงการพัฒนาศักยภาพการผลิตข้าว รับการเปิดเสรีการค้าอาเซียน นำร่องใน 5 จังหวัด
นายธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า กระทรวงเตรียมจัดสรรงบประมาณ 131 ล้านบาท จัดทำโครงการเพิ่มศักยภาพการผลิตข้าวและสร้างความเข้มแข็งให้ชาวนาเพื่อรองรับผลกระทบจากการเปิดเสรีการค้าอาเซียน (อาฟตา) รวม 3 ปี (เม.ย.2553-เม.ย.2555) เพื่อพัฒนาศักยภาพการผลิตข้าวของชาวนาให้เข้มแข็งสามารถแข่งขันกับประเทศคู่แข่งทางการค้าได้
ทั้งนี้ มีหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบคือ กรมการข้าว ซึ่งจะทำงานบูรณาการร่วมกับหน่วยงานอื่นๆ เพื่อเป็นต้นแบบการพัฒนาการผลิตข้าวและชาวนาอย่างครบวงจรในรูปของการพัฒนาเป็นศูนย์ข้าวชุมชน เพื่อให้ชุมชนเกิดความเข้มแข็ง พึ่งพาตนเอง และเน้นการมีส่วนร่วมขององค์กรปกครองท้องถิ่น
โดยเป้าหมายการพัฒนาศูนย์ข้าวชุมชนนั้น แบ่งเป็นศูนย์ข้าวหลัก จำนวน 5 ศูนย์ และศูนย์ชุมชน 50 ศูนย์ รวม 55 ศูนย์ ในพื้นที่นำร่อง 5 จังหวัด ได้แก่ อ่างทอง นครสวรรค์ สุรินทร์ อำนาจเจริญ อุดรธานี พร้อมจัดทำหมู่บ้านต้นแบบลดต้นทุนการปลูกข้าวในพื้นที่นำร่อง 6 จังหวัดได้แก่ สุรินทร์ อุดรธานี อำนาจเจริญ นครสวรรค์ อ่างทอง และนครศรีธรรมราช
อย่างไรก็ตาม การดำเนินงานผ่านศูนย์ข้าวชุมชน จะดำเนินการถ่ายทอดความรู้ การจัดการเมล็ดพันธุ์ดี การลดต้นทุนการผลิต การจัดการกับศัตรูข้าว รวมถึงการถ่ายทอดความรู้โดยทำเป็นแปลงสาธิตการเรียนรู้ โดยกรมการข้าวจะทำแบบบูรณาการ
นอกจากนี้จะจัดทำระบบพยากรณ์เตือนภัย จากปัญหาศัตรูพืชเพื่อให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ โดยกำหนดให้ศูนย์ข้าวชุมชนเป็นเครือข่ายการเตือนภัย ที่สามารถพยากรณ์ เตือนภัยได้อย่างแม่นยำ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง จี้พัฒนากาแฟสู่มาตรฐานจีเอพีรุกตลาดตปท.วิกฤติหนี้กรีซระเบิดเวลาลูกใหม่หวั่นลามยุโรปกระทบถึงเศรษฐกิจไทย พอแล้วรวย - ปฏิรูปรอบด้าน
หนุนฮับแปรรูปสินค้าสัตว์น้ำหลากหลายภาษาในอียู
NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6
คมชัดลึก :ก.เกษตรฯ อัดงบ 131 ล้านบาท จัดทำโครงการพัฒนาศักยภาพการผลิตข้าว รับการเปิดเสรีการค้าอาเซียน นำร่องใน 5 จังหวัด
นายธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า กระทรวงเตรียมจัดสรรงบประมาณ 131 ล้านบาท จัดทำโครงการเพิ่มศักยภาพการผลิตข้าวและสร้างความเข้มแข็งให้ชาวนาเพื่อรองรับผลกระทบจากการเปิดเสรีการค้าอาเซียน (อาฟตา) รวม 3 ปี (เม.ย.2553-เม.ย.2555) เพื่อพัฒนาศักยภาพการผลิตข้าวของชาวนาให้เข้มแข็งสามารถแข่งขันกับประเทศคู่แข่งทางการค้าได้
ทั้งนี้ มีหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบคือ กรมการข้าว ซึ่งจะทำงานบูรณาการร่วมกับหน่วยงานอื่นๆ เพื่อเป็นต้นแบบการพัฒนาการผลิตข้าวและชาวนาอย่างครบวงจรในรูปของการพัฒนาเป็นศูนย์ข้าวชุมชน เพื่อให้ชุมชนเกิดความเข้มแข็ง พึ่งพาตนเอง และเน้นการมีส่วนร่วมขององค์กรปกครองท้องถิ่น
โดยเป้าหมายการพัฒนาศูนย์ข้าวชุมชนนั้น แบ่งเป็นศูนย์ข้าวหลัก จำนวน 5 ศูนย์ และศูนย์ชุมชน 50 ศูนย์ รวม 55 ศูนย์ ในพื้นที่นำร่อง 5 จังหวัด ได้แก่ อ่างทอง นครสวรรค์ สุรินทร์ อำนาจเจริญ อุดรธานี พร้อมจัดทำหมู่บ้านต้นแบบลดต้นทุนการปลูกข้าวในพื้นที่นำร่อง 6 จังหวัดได้แก่ สุรินทร์ อุดรธานี อำนาจเจริญ นครสวรรค์ อ่างทอง และนครศรีธรรมราช
อย่างไรก็ตาม การดำเนินงานผ่านศูนย์ข้าวชุมชน จะดำเนินการถ่ายทอดความรู้ การจัดการเมล็ดพันธุ์ดี การลดต้นทุนการผลิต การจัดการกับศัตรูข้าว รวมถึงการถ่ายทอดความรู้โดยทำเป็นแปลงสาธิตการเรียนรู้ โดยกรมการข้าวจะทำแบบบูรณาการ
นอกจากนี้จะจัดทำระบบพยากรณ์เตือนภัย จากปัญหาศัตรูพืชเพื่อให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ โดยกำหนดให้ศูนย์ข้าวชุมชนเป็นเครือข่ายการเตือนภัย ที่สามารถพยากรณ์ เตือนภัยได้อย่างแม่นยำ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง จี้พัฒนากาแฟสู่มาตรฐานจีเอพีรุกตลาดตปท.วิกฤติหนี้กรีซระเบิดเวลาลูกใหม่หวั่นลามยุโรปกระทบถึงเศรษฐกิจไทย พอแล้วรวย - ปฏิรูปรอบด้าน
หนุนฮับแปรรูปสินค้าสัตว์น้ำหลากหลายภาษาในอียู
NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6
เปิดบ้านเป็นศูนย์เรียนรู้หนุนเกษตรกรทำปุ๋ยใช้เอง
เปิดบ้านเป็นศูนย์เรียนรู้หนุนเกษตรกรทำปุ๋ยใช้เอง
คมชัดลึก : แม้ "โสมนัส เสมอพิทักษ์" จะอยู่ในแวดวงการเมืองท้องถิ่น ในฐานะสมาชิกเทศบาลตำบลท่าแร่ เขต 1 อ.เมือง จ.สกลนคร แต่ด้วยพื้นเพเดิมเป็นเกษตรกร เขาจึงไม่ทิ้งอาชีพเดิม ประกอบกับปัจจุบัน เห็นเกษตรกรใช้สารเคมีมาใช้อย่างกว้างขวาง เขาจึงมาส่งเสริมให้ชาวชุมชนในพื้นที่ผลิตปุ๋ยใช้เอง ไม่ต้องซื้อหา เพื่อลดการใช้ยาฆ่าแมลงในแปลงการเกษตร ที่สำคัญคนในชุมชนมีอาชีพ สร้างรายได้ โดยเปิดบ้านพักตัวเองที่หมู่ 1 ถ.คำในสว่าง ต.ท่าแร่ เป็นศูนย์เรียนรู้กลุ่มเกษตรกรเทศบาลตำบลท่าแร่ เน้นยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง
โสมนัส เล่าว่า ที่ผ่านมาประชาชนและเกษตรกรในพื้นที่ ต.ท่าแร่ ใช้น้ำยาเคมี หรือสารต่อต้านแมลงในภาคเกษตรอย่างกว้างขวาง ซึ่งส่งผลค้างเคียงต่อสุขภาพและผลผลิตด้านการเกษตรเพราะขาดความรู้ความเข้าใจในการดูแลในการแก้ไขปัญหา โดยสารเคมีเหล่านี้เมื่อมีการชำระล้างด้วยน้ำ ทำให้น้ำไหลลงไปสู่แหล่งน้ำธรรมชาติภายในชุมชนในปริมาณที่มาก โดยเฉพาะทะเลสาบน้ำจืดหนองหาร เนื่องจากชุมชนท่าแร่มีพื้นที่ติดต่อกับแหล่งน้ำดังกล่าว จึงส่งผลต่อสุขภาพคนในชุมชนโดยตรง ในที่สุดจึงตัดสินใจหันไปส่งเสริมการผลิตปุ๋ยจากสารอินทรีย์และจุลินทรีย์ เพื่อลดปริมาณสารเคสิ่งเจือปนในพืชผัก และลดอาการป่วยของคนในชุมชนที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงเข้าร่วมฝึกอบรมกระบวนการความรู้ความเข้าใจจากสำนักงานเกษตรจังหวัดสกลนคร ในโครงการ "พัฒนาศักยภาพนักจัดการชุมชน" หลักสูตรผู้นำการพัฒนา เป็นเวลา 1 ปี ในปี 2552 ที่ผ่านมา เมื่อได้ความรู้ทั้งด้านวิชาการและภาคปฏิบัติ จึงนำความรู้ลงมาถ่ายทอดให้แก่คนในชุมชน แรกเริ่มมีเกษตรกรให้ความสนใจเพียง 5-10 ราย หลังจากกอบรมแล้วเกษตรกรเหล่านี้ได้นำกลับไปปฏิบติจนประสบความสำเร็จ พร้อมกับเชิญชวนเกษตรกรในพื้นที่ใกล้เคียงที่สนใจเข้าร่วม จนแผ่ขยายการปฏิบัติออกไปเป็นวงกว้าง ซึ่งปัจจุบันมีสมาชิกเข้ามาศึกษาแล้วกว่า 70 คน
"สารอินทรีย์ คือ สารสกัดธรรมชาติ ซึ่งเป็นโครงสร้างของผลผลิตจากเปลือกกุ้ง กระดองปู แกนปลาหมึก และผนังเซลล์ของเห็ดและราบางชนิด มีคุณสมบัติพื้นฐานเข้ากับธรรมชาติได้ดี ย่อยสลายง่าย ไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสภาพแวดล้อม เมื่อนำไปใช้ในการเกษตรเพื่อเร่งการเจริญเติบโตของพืช และสัตว์แลกเนื้อ ใช้เคลือบผลไม้เพื่อยืดอายุการรักษาและใช้เป็นสารถนอมอาหารจุลินทรีย์เพื่อการเกษตร เป็นสิ่งมีชีวิตและช่วยย่อยสารอินทรีย์วัตถุต่างๆ ที่มีอยู่ในดินเพื่อให้ดินมีชีวิตขึ้นมาใหม่ สร้างความอุดมสมบูรณ์ให้แก่กัน ปัจจุบันพบว่าเกษตรกรที่นำสารอินทรีย์และจุลินทรีย์ไปใช้ในระดับไร่นากันอย่างแพร่หลาย ส่งผลให้เกษตรกรลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มรายได้ อีกทั้งปลอดถัยจากสารพิษ" โสมนัส กล่าว
หากสถาบันเกษตร หรือเกษตรกรทั่วไปที่สนใจสามารถสอบถามได้ที่เป็นศูนย์เรียนรู้กลุ่มเกษตรกรเทศบาลตำบลท่าแร่นั่นเอง
นรากร เวชกามา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง"ปุ๋ยอินทรีย์"จากเศษทะลายปาล์ม
ผลิตภัณฑ์คุณภาพ "เกษตรสิทธี"
สกลฯยกระดับหมู่บ้าน2แห่งดึงชุมชนเข้าร่วม ติวเข้มโครงการศก.พอเพียงมุมมองใหม่-สอนเลี้ยงควาย-ทำนาปลูกฝังนักเรียนรู้พอเพียง "เฟย ศรีสมบัติ" ต้นแบบครอบครัว ศก.พอเพียง ปชป.ค้านเปลี่ยนใช้ชื่อโครงการชุมชนพอเพียง
NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6
คมชัดลึก : แม้ "โสมนัส เสมอพิทักษ์" จะอยู่ในแวดวงการเมืองท้องถิ่น ในฐานะสมาชิกเทศบาลตำบลท่าแร่ เขต 1 อ.เมือง จ.สกลนคร แต่ด้วยพื้นเพเดิมเป็นเกษตรกร เขาจึงไม่ทิ้งอาชีพเดิม ประกอบกับปัจจุบัน เห็นเกษตรกรใช้สารเคมีมาใช้อย่างกว้างขวาง เขาจึงมาส่งเสริมให้ชาวชุมชนในพื้นที่ผลิตปุ๋ยใช้เอง ไม่ต้องซื้อหา เพื่อลดการใช้ยาฆ่าแมลงในแปลงการเกษตร ที่สำคัญคนในชุมชนมีอาชีพ สร้างรายได้ โดยเปิดบ้านพักตัวเองที่หมู่ 1 ถ.คำในสว่าง ต.ท่าแร่ เป็นศูนย์เรียนรู้กลุ่มเกษตรกรเทศบาลตำบลท่าแร่ เน้นยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง
โสมนัส เล่าว่า ที่ผ่านมาประชาชนและเกษตรกรในพื้นที่ ต.ท่าแร่ ใช้น้ำยาเคมี หรือสารต่อต้านแมลงในภาคเกษตรอย่างกว้างขวาง ซึ่งส่งผลค้างเคียงต่อสุขภาพและผลผลิตด้านการเกษตรเพราะขาดความรู้ความเข้าใจในการดูแลในการแก้ไขปัญหา โดยสารเคมีเหล่านี้เมื่อมีการชำระล้างด้วยน้ำ ทำให้น้ำไหลลงไปสู่แหล่งน้ำธรรมชาติภายในชุมชนในปริมาณที่มาก โดยเฉพาะทะเลสาบน้ำจืดหนองหาร เนื่องจากชุมชนท่าแร่มีพื้นที่ติดต่อกับแหล่งน้ำดังกล่าว จึงส่งผลต่อสุขภาพคนในชุมชนโดยตรง ในที่สุดจึงตัดสินใจหันไปส่งเสริมการผลิตปุ๋ยจากสารอินทรีย์และจุลินทรีย์ เพื่อลดปริมาณสารเคสิ่งเจือปนในพืชผัก และลดอาการป่วยของคนในชุมชนที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงเข้าร่วมฝึกอบรมกระบวนการความรู้ความเข้าใจจากสำนักงานเกษตรจังหวัดสกลนคร ในโครงการ "พัฒนาศักยภาพนักจัดการชุมชน" หลักสูตรผู้นำการพัฒนา เป็นเวลา 1 ปี ในปี 2552 ที่ผ่านมา เมื่อได้ความรู้ทั้งด้านวิชาการและภาคปฏิบัติ จึงนำความรู้ลงมาถ่ายทอดให้แก่คนในชุมชน แรกเริ่มมีเกษตรกรให้ความสนใจเพียง 5-10 ราย หลังจากกอบรมแล้วเกษตรกรเหล่านี้ได้นำกลับไปปฏิบติจนประสบความสำเร็จ พร้อมกับเชิญชวนเกษตรกรในพื้นที่ใกล้เคียงที่สนใจเข้าร่วม จนแผ่ขยายการปฏิบัติออกไปเป็นวงกว้าง ซึ่งปัจจุบันมีสมาชิกเข้ามาศึกษาแล้วกว่า 70 คน
"สารอินทรีย์ คือ สารสกัดธรรมชาติ ซึ่งเป็นโครงสร้างของผลผลิตจากเปลือกกุ้ง กระดองปู แกนปลาหมึก และผนังเซลล์ของเห็ดและราบางชนิด มีคุณสมบัติพื้นฐานเข้ากับธรรมชาติได้ดี ย่อยสลายง่าย ไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสภาพแวดล้อม เมื่อนำไปใช้ในการเกษตรเพื่อเร่งการเจริญเติบโตของพืช และสัตว์แลกเนื้อ ใช้เคลือบผลไม้เพื่อยืดอายุการรักษาและใช้เป็นสารถนอมอาหารจุลินทรีย์เพื่อการเกษตร เป็นสิ่งมีชีวิตและช่วยย่อยสารอินทรีย์วัตถุต่างๆ ที่มีอยู่ในดินเพื่อให้ดินมีชีวิตขึ้นมาใหม่ สร้างความอุดมสมบูรณ์ให้แก่กัน ปัจจุบันพบว่าเกษตรกรที่นำสารอินทรีย์และจุลินทรีย์ไปใช้ในระดับไร่นากันอย่างแพร่หลาย ส่งผลให้เกษตรกรลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มรายได้ อีกทั้งปลอดถัยจากสารพิษ" โสมนัส กล่าว
หากสถาบันเกษตร หรือเกษตรกรทั่วไปที่สนใจสามารถสอบถามได้ที่เป็นศูนย์เรียนรู้กลุ่มเกษตรกรเทศบาลตำบลท่าแร่นั่นเอง
นรากร เวชกามา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง"ปุ๋ยอินทรีย์"จากเศษทะลายปาล์ม
ผลิตภัณฑ์คุณภาพ "เกษตรสิทธี"
สกลฯยกระดับหมู่บ้าน2แห่งดึงชุมชนเข้าร่วม ติวเข้มโครงการศก.พอเพียงมุมมองใหม่-สอนเลี้ยงควาย-ทำนาปลูกฝังนักเรียนรู้พอเพียง "เฟย ศรีสมบัติ" ต้นแบบครอบครัว ศก.พอเพียง ปชป.ค้านเปลี่ยนใช้ชื่อโครงการชุมชนพอเพียง
NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6
Subscribe to:
Posts (Atom)