Thursday, March 18, 2010

พลิกผืนนาข้าวปลูก แคนตาลูป ระบบน้ำหยดรายได้ดีที่บางระจัน

พลิกผืนนาข้าวปลูก แคนตาลูป
ระบบน้ำหยดรายได้ดีที่บางระจัน





คมชัดลึก :ปัญหาราคาข้าวที่ตกต่ำต่อเนื่องหลายฤดูกาล ทั้งยังส่งให้เกิดภาระหนี้สินชนิดจำเจซ้ำซาก อนาคตเหมือนจะไม่ได้เจอกับสภาวะปลอดหนี้ เป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้เกษตรกรผู้เป็นกระดูกสันหลังของชาติหลายครัวเรือน แห่ง ต.พักทัน อ.บางระจัน จ.สิงห์บุรี นำโดยผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน บุญชอบ อิ่มเชื้ออยู่ วัย 40 ปีเศษ รวมทั้งเพื่อนเกษตรกรรายอื่นๆ ได้พลิกผืนนาที่อดีตล้วนแล้วแต่ยึดทำนาข้าวมาตั้งแต่บรรพบุรุษ หันมาปลูก "แคนตาลูป" ผลไม้ธรรมดาที่ไม่ธรรมดา เพราะไม้ผลชนิดนี้ได้สร้างชีวิตใหม่ สร้างรายได้ให้เกษตรกรในพื้นที่ได้เป็นอย่างดี







  ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านบุญชอบ แห่งหมู่ 1 ต.พักทัน ย้อนอดีตให้ฟังว่า ตนเองได้พลิกผืนนาข้าวที่มีอยู่กว่า 7 ไร่ ซึ่งก่อนนั้นเป็นแปลงนาที่ปลูกข้าวมาหลายชั่วอายุคน ได้ถูกแปลงสภาพเป็นไร่แคนตาลูปมากว่า 7-8 ปี เนื่องจากประสบปัญหาราคาข้าวที่ตกต่ำมาเกือบทุกปี ทำให้เกิดภาระหนี้สิน ต่อมาได้รับการสนับสนุนจากองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) พักทัน ทั้งด้านความรู้ ขั้นตอนการปลูก เมล็ดพันธุ์ต่างๆ จึงหันเหชีวิตจากชาวนามาเป็นชาวไร่แคนตาลูปทำให้ชีวิตครอบครัวดีขึ้น เนื่องจากผลผลิตแต่ละเดือนเป็นที่น่าพอใจ
 "ทำไร่แคนตาลูปมาปีนี้เป็นปีที่ 7 แล้ว โดยปรับเปลี่ยนพื้นที่นาที่มีอยู่ 7 ไร่เศษ เนื่องจากขณะนั้นราคาข้าวตกต่ำมาก เลยมีแนวคิดที่ปลูกแคนตาลูปแทน เพราะเห็นว่าการแข่งขันด้านการตลาดยังน้อย บวกกับเมื่อมีโอกาสได้รู้จักกับคุณสุวิทย์ ไตรโชค เจ้าของสวนแคนตาลูป ที่ อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา เลยไปศึกษาแล้วทดลองนำมาปลูกซึ่งระยะแรกๆ พบปัญหามากพอสมควรไม่ว่าจะเป็นเรื่องเชื้อโรค เพลี้ย แมลง" ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านบุญชอบ บอกถึงที่มาและปัญหาที่ประสบ
 ยอมรับว่าแม้ระยะแรกจะมีปัญหาดังที่กล่าวมาอยู่บ้าง แต่ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านบุญชอบ บอกว่าก็อาศัยประสบการณ์แก้ไขไปเรื่อยๆ โดยวิธีหนึ่งก็คือการเพาะต้นกล้าเอง ซึ่งเมล็ดของแคนตาลูปจะราคา 2-8 บาท แล้วแต่สายพันธุ์ โดยแต่ละเดือนผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านบุญชอบ จะปลูกต้นกล้าเดือนละ 3 หมื่นต้น ซึ่งพันธุ์ที่ปลูกได้แก่ ซันเลดี้ สีทอง ร็อคกี้ส้ม เพอส้ม ฮันนี่บอล ส่วนด้านการตลาดจะนำไปขายส่งให้การบินไทย และห้างสรรพสินค้าทุกห้างในตัวเมืองสิงห์บุรี
 "การดูแลต้องใส่ใจเป็นพิเศษ โดยที่ไร่ของผมจะมีคนงานคอยดูแลอยู่ 15 คน หลักก็คือแต่ละต้นจะให้ออกผลผลิตเพียงต้นละ 1 ลูก เพื่อคัดให้ได้แคนตาลูปที่มีคุณภาพดีที่สุด ส่วนพันธุ์ที่อร่อยและได้รับความนิยมมาก ก็คือร็อกกี้ส้ม ราคาอยู่ที่กิโลกรัมละ 80 บาท ลูกหนึ่งหนักราว 1.5 กิโลกรัม ซึ่งแต่ละเดือน ที่ไร่เราจะเก็บผลผลิตได้ราว 20 ตัน ตันหนึ่งเฉลี่ยมีรายได้อยู่ที่ 2 หมื่นบาท นับว่าเป็นรายได้ที่ดีมาก"
 ด้าน สายชล ฉิมพาลี นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) พักทัน กล่าวถึงแนวทางการส่งเสริมอาชีพนี้ให้แก่เกษตรกรในพื้นที่ว่า ในส่วนหมู่ 1 ต.พักทัน มีเกษตรกรที่ทำไร่แคนตาลูป 2-3 เจ้า โดยรายของผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านบุญชอบ ซึ่งเป็นรายแรกๆ ที่หันมายึดอาชีพนี้ ผลผลิตแต่ละปีนั้นดีมาก โดย อบต.เข้าไปดูแลอย่างใกล้ชิด รวมทั้งได้ขอความร่วมมือให้ช่วยกันเผยแพร่ความสำเร็จนี้แก่เกษตรกรรายอื่นๆ ด้วย ซึ่งก็ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี
 "แคนตาลูปเป็นผลไม้ที่มีรสชาติหวานกรอบ นิยมรับประทานสด ทำเป็นสลัดน้ำผลไม้และของหวานบางชนิด มีคุณค่าทางโภชนาการสูง ส่วนเนื้อมีวิตามินเอ บำรุงสายตา มีวิตามินซีป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน มีแคลเซียมบำรุงกระดูกและฟัน นอกจากนี้ยังมีความหวานของน้ำตาลธรรมชาติ รวมถึงสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายด้วย จึงเป็นไม้ผลอีกชนิดที่น่าสนใจมาก" นายก อบต.พักทัน แจง
"จีรแมน ขำฉา"










NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

No comments:

Post a Comment

Blog Archive