รัฐเตรียมรับมือแล้งหนักจากเอลนีโญ่กรมชลสารภาพน้ำไม่พอส่งภาคเกษตร
คมชัดลึก :มีการคาดการณ์กันว่าอานิสงส์จากปรากฏการณ์ "เอลนีโญ่" ในปีนี้ น่าจะส่งผลกระทบต่อสภาพภูมิอากาศในประเทศไทยอย่างรุนแรงมากกว่าทุกๆ ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะภัยแล้งที่ส่อเค้าว่าจะยาวนานหลายเดือน ทำให้เกิดปัญหาการขาดแคลนน้ำตามมา โดยเฉพาะน้ำที่ใช้ในภาคการเกษตรที่ปัจจุบันต้องอาศัยแหล่งน้ำจากชลประทานเป็นหลัก
ชลิต ดำรงศักดิ์ อธิบดีกรมชลประทานเผยถึงสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั่วประเทศ จากการตรวจสอบข้อมูลล่าสุดเมื่อวันที่ 27 มกราคม ที่ผ่านมา พบว่ามีปริมาตรน้ำรวมกันทั้งหมด 51,987 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 71 ของความจุอ่างทั้งหมด 73,555 ล้านลูกบาศก์เมตรและปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่ส่วนใหญ่ยังอยู่ในเกณฑ์ปกติ
ส่วนการปลูกพืชฤดูแล้งปี 2552/2553 ในเขตพื้นที่ชลประทานทั่วประเทศ ได้กำหนดพื้นที่เพาะปลูกพืชฤดูแล้งไว้รวมทั้งหมด 15.92 ล้านไร่ ปัจจุบัน (22 ม.ค.52) มีการเพาะปลูกไปแล้ว 11.72 ล้านไร่ คิดเป็นร้อยละ 83 ของแผนการเพาะปลูกพืชฤดูแล้งทั้งหมด เฉพาะในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ได้กำหนดพื้นที่เป้าหมายในการเพาะปลูกพืชฤดูแล้งไว้ 7.40 ล้านไร่ ขณะนี้มีการเพาะปลูกไปแล้ว 6.15 ล้านไร่ คิดเป็นร้อยละ 83 ของแผนการเพาะปลูกพืชฤดูแล้งในลุ่มน้ำเจ้าพระยา
อธิบดีกรมชลประทานระบุอีกว่า ในส่วนของปริมาณน้ำต้นทุนที่เก็บกักได้ในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั้งประเทศ ณ วันที่ 1 พฤศจิกายน 2552 มีปริมาณน้ำรวมทั้งหมด 58,726 ล้านลูกบาศก์เมตรน้อยกว่าปี 2551 ประมาณ 900 ล้านลูกบาศก์เมตร จากทั้งหมด 95,640 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งกรมชลประทานได้วางแผนการจัดสรรน้ำในเขตพื้นที่ชลประทานทั้งประเทศเป็นจำนวนทั้งสิ้น 20,720 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่ ณ ปัจจุบัน (27 ม.ค.) มีการใช้น้ำไปแล้วจำนวน 9,650 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 47 ของแผนการใช้น้ำทั้งประเทศ จนถึงขณะนี้คงเหลือปริมาณน้ำที่จะนำมาใช้ได้ตามแผนอีกประมาณ 11,070 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 53 เท่านั้น ส่วนการแก้ปัญหาระยะยาว ชลิต ย้ำว่าคงเป็นไปได้ยาก ตราบใดที่ต้องพึ่งน้ำฝนเพียงอย่างเดียว ในขณะที่อ่างเก็บน้ำก็มีอยู่จำกัด เก็บกักน้ำได้ไม่เกินเป้าที่กำหนดไว้ ขณะที่ความต้องการปริมาณการใช้น้ำเพิ่มขึ้นทุกปี ทั้งในภาคอุตสาหกรรมและเกษตรกรรม ดังนั้นการแก้ปัญหาจึงทำได้แค่ปีต่อปีเท่านั้น ที่สำคัญไม่มีแหล่งน้ำสำรองจากที่อื่น นอกจากพึ่งพาน้ำฝนอย่างเดียว ส่วนการทำฝนเทียมก็แก้ปัญหาได้ไม่มาก จะทำได้แค่การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ตรงจุดที่ขาดแคลนน้ำเท่านั้น
"อ่างเก็บน้ำก็เปรียบเสมือนตุ่ม ฝนตกลงมามากแค่ไหนก็เก็บไว้ได้แค่เต็มตุ่ม แต่ต้องนำมาใช้ตลอดทั้งปี การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าตอนนี้ต้องเฉลี่ยการใช้น้ำในทุกตุ่ม เพราะเรามีอ่างเก็บน้ำอยู่จำกัด แต่ไม่ได้หมายความว่าการแก้ปัญหาโดยการสร้างเขื่อนขนาดใหญ่เพิ่ม แต่เราจะเน้นการสร้างแก้มลิงและฝายมากกว่า เพราะก่อสร้างเสร็จรวดเร็วและกระจายไปตามชุมชนต่างๆ ได้อย่างทั่วถึง" อธิบดีกรมชลประทานกล่าวย้ำ
ในขณะที่ วีระ วงศ์แสงนาค รองอธิบดีกรมชลประทานฝ่ายบำรุงรักษากล่าวเสริมว่า เนื่องจากปี 2552 ที่ผ่านมา เขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์ เก็บกักน้ำรวมกันได้น้อยกว่าปี 2551 ประมาณ 2,000 ล้านลูกบาศก์เมตร ส่งผลให้การจัดสรรน้ำและกำหนดพื้นที่เพาะปลูกพืชฤดูแล้งในส่วนของลุ่มน้ำเจ้าพระยาลดน้อยลง ทั้งนี้ จึงอยากขอความร่วมมือไปยังพี่น้องเกษตรกรทั่วประเทศให้ช่วยกันประหยัดน้ำอย่างจริงจัง โดยเฉพาะเกษตรกรผู้ทำนาปรัง หากยังทำนาปรังต่อเนื่องเต็มที่เหมือนเช่นปีที่ผ่านมาจะทำให้ต้องใช้น้ำเพิ่มขึ้น อันจะส่งผลต่อปริมาณน้ำต้นทุนที่มีอยู่น้อยลดน้อยลงตามไปด้วยและจะทำให้เกิดปัญหาการขาดแคลนน้ำอย่างแน่นอน ดังนั้นเกษตรกรจึงควรลดทำนาปรังครั้งที่ 2 แล้วหันไปปลูกพืชที่ใช้น้ำน้อยแทนเพื่อให้การใช้น้ำเป็นไปตามแผนการจัดสรรน้ำที่วางไว้
"เฉพาะในเขตลุ่มน้ำเจ้าพระยาขณะนี้ได้วางแผนการใช้น้ำจากเขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยฯ เขื่อนป่าสักฯ และการผันน้ำจากลุ่มน้ำแม่กลองอีกส่วนหนึ่ง รวมกันเป็นจำนวน 8,000 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่ปัจจุบัน (27 ม.ค.) มีการใช้น้ำไปแล้ว 4,610 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 58 ของแผนการจัดสรรน้ำทั้งหมดในลุ่มน้ำเจ้าพระยา คงเหลือปริมาณน้ำที่จะนำมาใช้ได้ตามแผนการจัดสรรน้ำตลอดช่วงฤดูแล้งที่เหลืออีก 3 เดือน จำนวน 3,390 ล้านลูกบาศก์เมตรเท่านั้น ในขณะที่น้ำต้นทุนส่วนหนึ่งก็ต้องสำรองไว้ไล่น้ำเค็มในแม่น้ำเจ้าพระยาช่วงฤดูแล้งหนักเดือนมีนาคม-เมษายนอีกด้วย" รองอธิบดีกรมชลประทานยืนยัน
การเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำในช่วงฤดูแล้งที่ปีนี้คาดว่าจะแล้งหนักและยาวนานกว่าทุกปี ลำพังแค่หน่วยงานเล็กๆ อย่างกรมชลประทานคงไม่สามารถแก้ปัญหาได้ หากรัฐบาลยังคงนิ่งเฉยไม่ลงมาแก้ปัญหาอย่างจริงจังทั้งระบบ
เตือนชาวนาพิจิตรงดทำนาปรังรอบสอง
ชลประทานพิจิตร เตือนย้ำเกษตรกรงดทำนารอบสอง หวั่นเผชิญปัญหาขาดแคลนน้ำ หากฝืนปลูกอาจเสียหายหนัก เนื่องจากน้ำต้นทุนน้อย เตรียมนำตัวแทนเกษตรไปดูน้ำต้นทุนหากชาวนายังไม่หยุดทำนา
ประเวศน์ ศิริศิลป์ ชลประทานพิจิตร เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำของจังหวัดพิจิตรว่า คาดว่าปัญหาขาดแคลนน้ำจะรุนแรงกว่าทุกปีที่ผ่านมา เนื่องจากน้ำต้นทุนในปี 2552/2553 ปริมาณน้ำต้นทุนจากเขื่อนต่างๆ ในจังหวัดภาคเหนือ เช่น เขื่อนสิริกิตติ์ เขื่อนภูมิพล และแหล่งกักเก็บน้ำอย่างอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ต่างๆ ปีนี้ปริมาณน้ำน้อยกว่าปีที่ผ่านมา ปัจจุบันนำต้นทุนจากเดือนพฤศจิกายนจนถึงปัจจุบันนี้ ใช้น้ำไปแล้ว 47% เหลือน้ำต้นทุนที่จะสามารถใช้ได้เพียง 2,100 ล้านลูกบาศก์เมตร
ส่วนการระบายน้ำเพื่อใช้สอยตามระบบการจัดการน้ำวันละ 20 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งหากปล่อยติดต่อกัน 100 วัน น้ำที่สำหรับใช้ก็จะหมด ซึ่งในการบริหารจัดการน้ำนั้นไม่สามารถปล่อยน้ำทั้งหมดได้ จึงฝากเตือนพี่น้องประชาชนให้หยุดการทำนาปรังรอบสองเนื่องจากเหตุผลดังกล่าว
ชลประทานพิจิตร กล่าวอีกว่า ขณะนี้จังหวัดพิจิตรมีเกษตรกรในระบบชลประธานลงมือเพราะปลูกแล้ว 3 แสนไร่ นอกระบบชลประธานอีก 5 หมื่นไร่ และมีแนวโน้มว่าจะทำนาเพิ่มขึ้น ซึ่งเราได้ย้ำเตือนอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ซึ่งหากการแจ้งเตือนยังไม่เป็นผลก็จะเชิญแกนนำของเกษตรกรเพื่อพาไปดูแหล่งน้ำต้นทุนให้เกษตรกรเห็นภาพว่าน้ำต้นทุนน้อยและไม่พอในการทำนาจริงๆ
สุรัตน์ อัตตะ
ข่าวที่เกี่ยวข้องหนังหายนะโลกร้อนการตื่นตัวของมวลชน...สู่แผ่นฟิล์มชาวสวนเฮปีหน้าลุ้นราคายางพุ่ง30%อ่าวไทยทำพลังงานลมดีที่สุด
NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6
Wednesday, March 31, 2010
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
Blog Archive
-
►
2013
(252)
- ► 04/21 - 04/28 (12)
- ► 04/14 - 04/21 (9)
- ► 04/07 - 04/14 (21)
- ► 03/31 - 04/07 (21)
- ► 03/24 - 03/31 (18)
- ► 03/10 - 03/17 (12)
- ► 03/03 - 03/10 (18)
- ► 02/24 - 03/03 (21)
- ► 02/17 - 02/24 (21)
- ► 02/10 - 02/17 (9)
- ► 02/03 - 02/10 (27)
- ► 01/27 - 02/03 (18)
- ► 01/20 - 01/27 (21)
- ► 01/13 - 01/20 (12)
- ► 01/06 - 01/13 (12)
-
►
2012
(129)
- ► 12/30 - 01/06 (21)
- ► 12/23 - 12/30 (6)
- ► 12/16 - 12/23 (15)
- ► 12/09 - 12/16 (10)
- ► 12/02 - 12/09 (21)
- ► 11/25 - 12/02 (16)
- ► 11/18 - 11/25 (13)
- ► 11/11 - 11/18 (7)
- ► 11/04 - 11/11 (12)
- ► 10/28 - 11/04 (4)
- ► 10/21 - 10/28 (4)
-
▼
2010
(475)
- ► 06/13 - 06/20 (16)
- ► 05/30 - 06/06 (5)
- ► 05/23 - 05/30 (25)
- ► 05/16 - 05/23 (44)
- ► 05/09 - 05/16 (55)
- ► 05/02 - 05/09 (15)
- ► 04/25 - 05/02 (25)
- ► 04/18 - 04/25 (19)
- ► 04/11 - 04/18 (25)
- ► 04/04 - 04/11 (80)
-
▼
03/28 - 04/04
(40)
- คัดแอดมิชชั่น มติทปอ. ใช้เกณฑ์เดิม
- 10ขวบคว้าแชมป์โลกโกคาร์ทรุ่นจิ๋ว
- นายกฯไฟเขียว ปลัดสธ. ตั้งทีมลุยไทยเข้มแข็ง
- มศวหนุนพยาบาลคืนถิ่นเปิดโครงการนำร่องพื้นที่
- ปั้นแต่งโมเสกผลิตภัณฑ์ศิลป์ของฝากฝีมือครูเบ็ญจมาภรณ์
- ทิศทางเกษตรไทยในปีเสือเตรียมรับกับสารพัดปัญหา
- ชีวิตกับกล้วยไม้ เหตุใดฉันจึงรักกล้วยไม้ (7)
- สังคมราชภัฏประจำวันศุกร์ที่1ม.ค.53
- เฒ่าหลังลาย ไม้ป่าดอกสวย
- ภาษาอังกฤษง่ายนิดเดียวขอให้คุณมี...
- วัยรุ่นสวดมนต์ข้ามปีต้อนรับปีใหม่
- พิชิตปัญหาสัตว์เลี้ยงตอน พาเหมียวบิน
- โซนรักสัตว์ประจำวันที่31ม.ค.
- เอสซีจี เปเปอร์ าเยี่ยมโรงเรียนตชด.ดูวิธีแปลงกระดา...
- รับผิดชอบสังคมหัวใจนิเทศมมส.
- เลาะรั้วมหาวิทยาลัยประจำวันที่31ม.ค.
- แชะ แชะ แชะประจำวันอาทิตย์ที่31มกราคม
- อาชีวะเพชรให้ทุนเรียนผ้าสร้างอาชีพอยู่ได้พอเพียง
- เจ้าอินทรียักษ์ผู้เคราะห์ร้ายนกหายากจากทุ่งหญ้าสเต็ป
- 2โพลชี้ปมแก้รธน.ทำรัฐเชื่อมั่นวูบคนกรุงความสุขลด
- นักวิจัยเกษตรสิงห์บุรีพัฒนาวิชาชีพเกษตรไทย
- มรภ.ธนบุรีผุดสาธิตแห่งแรกในสมุทรปราการ
- รัฐเตรียมรับมือแล้งหนักจากเอลนีโญ่กรมชลสารภาพน้ำไม...
- เปิดม่านการศึกษาประจำวันที่1ก.พ.
- ภาษาอังกฤษง่ายนิดเดียวก๋วยเตี๋ยว
- กรมประมงดันการประกันภัยภาคการประมง
- การเพาะเลี้ยงสาหร่ายไก
- เจ๊าะแจ๊ะวิทยาศาสตร์สุดยอดที่สุดของสิ่งมีชีวิต
- เซ็กส์สม่ำเสมอ ป้องกัน อัลไซเมอร์ได้
- สทศ.ประกาศผลฉลุย
- พระราชดำริชาน้ำมัน ส่งเสริมปลูกในเกษตรพื้นที่สูง
- ทูตอังกฤษจับมือเครือข่ายสกัดละเมิดทางเพศ
- สพฐ.มึนนักเรียนแห่สมัครเกินแผนรับอื้อ
- ลดต้นทุนการทำนา
- ดอกไม้ดิน กลุ่มหัตถศิลป์ฯ สู่โอท็อป 5 ดาวสินค้าส่...
- ติ้วขนใบแก้โรคผิวหนัง
- ไกร ชมน้อย เกษตรศิลปิน ปราชญ์เดินดินกินพอเพียง
- ผู้ปกครองโวยรร.ที่ศรีสะเกษ
- สทศ.ตรวจใหม่ ข้อสอบGAT นร.2.1แสนคน
- สทศ.ตรวจข้อสอบแกตนักเรียนใหม่หมด2.1แสน
- ► 03/14 - 03/21 (126)
No comments:
Post a Comment