ทิศทางเกษตรไทยในปีเสือเตรียมรับกับสารพัดปัญหา
คมชัดลึก :ประเทศไทยไม่ได้อยู่โดดเดี่ยว ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงใดๆ ในโลกย่อมส่งผลกระทบมาถึงเราด้วยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งรวมไปถึงการเกษตรของเมืองไทยเราด้วย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเราพึ่งพาการส่งออกเป็นหลัก ถ้าเราอยากรู้ว่าในปีใหม่นี้สถานการณ์การเกษตรของเราจะเป็นอย่างไร คงจะคาดเดาได้ยากเพราะว่ามีปัจจัยภายนอกเข้ามาเกี่ยวข้องมาก รวมทั้งความไม่แน่นอนของสภาพภูมิอากาศ ซึ่งจะส่งผลให้ผลผลิตของโลกเปลี่ยนไป หากเราโชคดีที่ประเทศอื่นเกิดความเสียหาย
บังเอิญเรามีผลผลิตดี ก็เป็นโอกาสของเราในการครอบครองตลาด แต่ในทางตรงกันข้าม ถ้าอากาศดีไปทั่วโลก ผลผลิตก็ย่อมล้นตลาด และเราก็คงขายของได้ยากขึ้นเพราะว่ามีคู่แข่งมากขึ้น เป็นต้น
ดังนั้นการที่จะหวังโอกาสแบบนี้ค่อนข้างเสี่ยงและมีความไม่แน่นอน แต่ว่าเราน่าจะเตรียมตัวรับมือกับสิ่งที่น่าจะเกิดขึ้นจริงๆ ในเวลาอันใกล้นี้มากกว่า เรื่องเหล่านี้ก็ได้แก่ปัญหาโลกร้อน และเรื่องประชากรสูงวัย รวมทั้งแนวโน้มที่เราจะขาดแคลนเกษตรกรในอนาคต หลายคนยังมองไม่เห็นว่าปัญหาเหล่านี้จะเข้ามามีผลกระทบต่อการเกษตรของบ้านเราอย่างไร หรือถ้าจะมองให้ละเอียดลงไปก็คือยังมองไม่ออกว่าจะมาเกี่ยวข้องอะไรกับชีวิตประจำวันของคนไทย หากวิเคราะห์ให้ลึกพอก็จะมองเห็นปัญหาใหญ่รออยู่ข้างหน้าอย่างชัดเจนและหากเราไม่เตรียมมาตรการรองรับตั้งแต่วันนี้ ก็รับรองได้ว่าเดือดร้อนกันไปทั่ว ทั้งนี้ไม่ต้องคาดเดาเป็นรายปีว่าในแต่ละปีราคาผลิตผลจะเป็นอย่างไร เพราะว่าเรื่องดังกล่าวจะกลายเป็นเรื่องเล็กน้อยไป
ปัญหาโลกร้อน
เมื่อเดือนที่แล้วมีการประชุมระดับผู้นำของโลกเพื่อถกกันเรื่องมาตรการลดปัญหาภาวะโลกร้อน เพราะว่าทั่วทั้งโลกกำลังกังวลเรื่องนี้อยู่ และพยายามสร้างมาตรการต่างๆ ขึ้นมา ซึ่งแน่นอนว่ามีผลกระทบต่อเมืองไทยด้วยเช่นกัน ถึงแม้ว่าวันนี้มาตรการยังไม่ชัดเจนและยังตกลงกันไม่ได้ แต่ว่าเราคงหนีไม่พ้นเรื่องของการใช้มาตรการต่างๆ ในการกีดกันไม่ให้เราผลิตสินค้าตามใจชอบได้ ปัญหาโลกร้อนสามารถมองได้ 2 ประเด็นคือ
ประเด็นแรก หากโลกร้อนขึ้น 1-2 องศาเซลเซียส น้ำแข็งทั่วโลกเกิดละลาย ทำให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น เกิดน้ำท่วมในหลายส่วนของโลก สมดุลของโลกเปลี่ยนไป เกิดทั้งภาวะแห้งแล้งในบางพื้นที่และน้ำท่วมอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน พืชผลที่เคยปลูกกันอยู่ก็คงไม่ได้ผลผลิตเหมือนอย่างเดิม รวมทั้งการระบาดของโรคและแมลงก็จะเปลี่ยนแปลงไปและมีแนวโน้มว่าจะรุนแรงมากขึ้น เพราะว่าอากาศร้อนขึ้นจึงเหมาะสมต่อการระบาด ดังนั้นจะเกิดภาวะที่เรียกว่ายุคข้าวยากหมากแพง เพียงแต่ว่าปัญหาดังกล่าวนี้ยังค่อนข้างไกลตัวมาก และยังใช้เวลาอีกหลายปีกว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นมา อาจเห็นได้ในช่วงอายุของลูกหลานมากกว่า
ประเด็นที่สองที่ใกล้ตัวเข้ามาหน่อยก็คือ มาตรการต่างๆ ที่ทำให้เราทำการเกษตรยากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ข้อกำหนดเรื่องการใช้และการปลดปล่อยคาร์บอน หรือคาร์บอนไดออกไซด์ในกระบวนการผลิตว่ามีมากน้อยเพียงใด ความสามารถในการลดของเสียในกระบวนการผลิตว่ามีประสิทธิภาพเพียงใด เรื่องใหม่ๆ เหล่านี้ทำให้มาตรการเดิมๆ อย่างเช่นเรื่องความปลอดภัยของอาหาร เรื่องของระบบติดตามตั้งแต่ฟาร์มถึงผู้บริโภค หรือ Traceability กลายเป็นเรื่องเก่าหรือเรื่องเล็กไปเลย บรรดามาตรการเดิมๆ ที่เกิดขึ้นมาเป็นระยะ
ประเทศไทยยังต้องวิ่งไล่ตามมาตลอด และมีการพัฒนาได้เพียงบางส่วน แล้วก็ต้องมาเจอหรือกำลังจะเจอมาตรการใหม่ๆ ขึ้นมาอีก นั่นหมายถึงว่า เราต้องมีการเตรียมการอีกมากเพื่อให้ตอบสนองต่อมาตรการดังกล่าว ถ้าจะถามว่าเราต้องไปสนใจเรื่องเหล่านั้นทำไม หากละเลยหรือไม่ทำอะไรแล้วจะเกิดอะไรขึ้นหรือไม่ คำตอบก็คือหากไม่ทำก็ขายผลิตผลไม่ได้ ถ้าขายไม่ได้ราคาในประเทศก็จะตกต่ำลงมาก และจะมีปัญหาสังคมตามมาเป็นลูกโซ่ โดยสรุปก็คือโลกอนาคตต้องการอาหารที่นอกจากจะปลอดภัยจากสิ่งปนเปื้อนต่างๆ แล้ว ยังต้องการอาหารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ปัญหาคนสูงอายุ
การคุมกำเนิดของไทยมีประสิทธิภาพสูงมาก จนทำให้อัตราการเพิ่มประชากรอยู่ในระดับต่ำกว่าหลายประเทศ รวมทั้งระบบสาธารณสุขที่ดีขึ้น ทำให้คนไทยมีอายุยืนมากขึ้น ปัจจุบันอายุขัยเฉลี่ยของคนไทยประมาณ 72 ปี ผลก็คือเมืองไทยจะอุดมไปด้วยคนสูงอายุที่ไม่อยู่ในวัยแรงงาน ทำให้ผลิตภาพการผลิตของประทศโดยรวมจะลดลง แต่ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการเกษตรก็คงเป็นเรื่องของอาหารการกิน คนสูงอายุต้องการอาหารที่มีความพิเศษมากกว่าปกติ เช่น น้ำตาลต่ำ ไขมันต่ำ รวมทั้งอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระทั้งหลายเพราะมีความเชื่อว่าน่าจะลดการเกิดมะเร็งได้ ดังนั้นจึงอาจเรียกอาหารกลุ่มนี้ได้ว่าอาหารเพื่อสุขภาพ หรืออาหารสุขภาพ และไม่เฉพาะคนสูงอายุเท่านั้นที่ต้องการอาหารสุขภาพ แต่ว่าคนที่มีกำลังซื้อมากๆ ก็อยากเลือกหาอาหารกลุ่มนี้มาบริโภคแทนอาหารปกติ ส่งผลให้ตลาดและความต้องการอาหารสุขภาพของคนในประเทศ รวมทั้งของโลก เพิ่มมากขึ้นและยังเป็นคงเป็นกระแสที่กำลังมาแรง
ฉะนั้นอนาคตของอาหารกลุ่มนี้จึงยังสดใสอยู่มาก แต่ว่าความรู้ทางวิชาการที่เกี่ยวข้องเป็นสิ่งจำเป็นในการพัฒนาอาหารกลุ่มนี้ เพราะว่าคงไม่ใช่เฉพาะเรื่องของเทคโนโลยีการปลูกหรือเลี้ยงเพียงอย่างเดียว ยกตัวอย่างเช่นความพยายามในการพัฒนาพันธุ์ข้าวที่มีสีเข้มของสารแอนโทไซยานินที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ จนได้ข้าวหอมนิลขึ้นมา การพัฒนาน้ำตาลที่ให้ความหวานเพียงอย่างเดียว โดยไม่ให้พลังงานหรือไม่ดูดซึมในร่างกาย ซึ่งทำให้คนที่เป็นโรคเบาหวานสามารถมีความสุขจากการบริโภคอาหารได้มากขึ้น
นอกจากนี้ พวกผักพื้นบ้านทั้งหลายของไทยก็น่าจะมีศักยภาพสูงมากในการพัฒนาเป็นอาหารสุขภาพ เพราะว่ามีองค์ประกอบของสารหลายอย่างที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายมากกว่าผักที่เราคุ้นเคยกันอยู่ตามตลาด เป็นต้น ความรู้เหล่านี้น่าจะเป็นช่องทางสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่จะทำให้เมืองไทยเราพร้อมที่จะก้าวเข้าสู่การเป็นครัวของโลกได้
ปัญหาขาดแคลนเกษตรกร
เมืองไทยเป็นเมืองเกษตร เมื่อก่อนนี้ร้อยละ 80 ของประชากรไทยทำอาชีพเกษตร แต่มาถึงวันนี้จำนวนได้ลดลงเหลือเพียงร้อยละ 40 เท่านั้น และกำลังมีแนวโน้มลดลงเรื่อยๆ เหตุผลก็เพราะว่าอายุของเกษตรกรที่มากขึ้นทุกปี อย่างเช่นปีนี้เคยมีผู้ประเมินไว้ว่าโดยเฉลี่ยแล้วเกษตรกรไทยอายุ 58 ปี ซึ่งมีกำลังพอที่จะทำเกษตรต่อไปได้อีกไม่กี่ปี แต่ที่น่าห่วงคือ ไม่มีผู้รับช่วงต่อ เพราะว่าเด็กรุ่นใหม่พยายามหลีกเลี่ยงอาชีพเกษตร เนื่องจากเห็นว่าเป็นอาชีพที่ต้องทำงานหนัก และที่สำคัญคือมองว่ารายได้ต่ำ ไม่คุ้มกับการทำ จึงหาทางให้ได้เรียนสูงๆ เพื่อจะได้หลีกหนีออกจากพื้นที่ไปทำอาชีพอื่นหรือเป็นลูกจ้างในอุตสาหกรรมแทน
ปัญหาอีกอย่างหนึ่งคือ เรื่องที่ดิน ซึ่งนับวันจะมีราคาสูงขึ้นมาก จึงเกิดการขายที่ดินเกษตรเพื่อไปทำธุรกิจอื่น ที่เห็นกันมากก็คือที่ดินเกษตรสวยๆ ได้กลายมาเป็นรีสอร์ทไปแล้วหลายแห่ง ผลกระทบที่เกิดขึ้นก็คือเมื่อแรงงานขาดแคลน ความต้องการใช้เครื่องจักรกลเกษตรจึงมีมากขึ้น และกลายเป็นธุรกิจของผู้ประกอบการรายใหญ่ ซึ่งไม่ใช่เกษตรกรรูปแบบเดิมอีกต่อไป หากสถานการณ์ยังเป็นอย่างนี้ต่อไป ในอนาคตคนไทยคงต้องซื้อข้าวจากประเทศเพื่อนบ้านมากิน และการเกษตรก็จะไม่ใช่เรื่องหลักของคนไทยอีกต่อไป
เตรียมรับมือกับโลกอนาคตตั้งแต่วันนี้
การทำอาชีพเกษตรในอนาคต ต้องทำด้วยความรู้และใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ เข้าช่วย แต่การเปลี่ยนแปลงเกษตรกรรุ่นเก่าที่เคยชินกับการปฏิบัติแบบเดิมนั้น คงเป็นไปได้ยาก แต่ยังมีช่องทางในการเตรียมคนรุ่นใหม่เข้าสู่อาชีพเกษตรได้ ซึ่งขณะนี้ก็ได้เริ่มแล้วในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยมีสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกร (ส.ป.ก.) เป็นแกนนำในการใช้นโยบายให้ความรู้เกษตรกรก่อนให้ที่ดิน โดยเป็นความร่วมมือกับสำนักงานการอาชีวศึกษา และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) ซึ่งเป็นโครงการที่เสริมขึ้นมาหลังจากร่วมมือกันสร้างเกษตรกรรุ่นใหม่ผ่านกระบวนการเรียนการสอนนักศึกษาวิทยาลัยเกษตรมาแล้ว หากทำได้สำเร็จก็น่าจะช่วยบรรเทาการขาดแคลนเกษตรกรที่มีความรู้ความสามารถได้เป็นอย่างดี
เมื่อมีคนรุ่นใหม่ที่มีความพร้อมเรื่องแนวคิดใหม่แล้ว การผลิตตามความต้องการของตลาดก็ไม่ใช่เรื่องยาก แต่ว่าต้องใช้ข้อมูลเพื่อการตัดสินใจในการผลิต แทนที่จะคอยดูคนอื่นทำก่อนแล้วค่อยทำตาม ซึ่งหากเป็นเช่นนี้ได้เราก็อาจเห็นเกษตรกรทั่วไปร่ำรวยขึ้นก็ได้
ตั้งแต่ปีใหม่นี้เป็นต้นไปเกษตรกรทั้งหลายคงต้องเตรียมรับการเปลี่ยนแปลงและปรับตัวกับกระบวนการผลิตที่ยากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการลดการใช้สารเคมี การเพิ่มคุณภาพผลิตผล เพื่อให้เป็นไปตามความต้องการของตลาด รวมไปถึงการลดต้นทุนการผลิต เพื่อให้ตัวเองอยู่รอดได้ในสภาวะที่ปัจจัยการผลิตแต่ละอย่างมีราคาสูง รวมทั้งต้องปรับพฤติกรรมจากความเคยชินเดิมๆ ให้ได้ ยกตัวอย่างเช่นตอนนี้เรามีข้อมูลค่อนข้างมากว่าการปลูกข้าวโดยปล่อยให้น้ำขัง ก่อให้เกิดการปล่อยก๊าซมีเทนขึ้นไปในชั้นบรรยากาศและเป็นสาเหตุของโลกร้อน ซึ่งประเด็นนี้จะกลายมาเป็นมาตรการกีดกันการส่งออกข้าวของเรา
ทางออกชาวนาอาจต้องเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้น้ำใหม่หมดก็เป็นได้ หรือเรื่องการไถพรวนที่ดินก็จะทำให้เกิดการปลดปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศมากเช่นกัน การปลูกข้าวแบบลดการไถพรวนก็อาจเป็นอีกทางเลือกหนึ่งซึ่งชาวนาไทยส่วนใหญ่ยังไม่คุ้นเคย แต่อาจจำเป็นต้องทำ สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องที่ต้องนำมาคิดและปรับเปลี่ยนวิธีการผลิตจากแบบเดิมที่เราคุ้นเคย มาสู่เทคโนโลยีสมัยใหม่มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเราเน้นการเกษตรแบบผลิตเพื่อขาย และโดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเราต้องพึ่งพาตลาดต่างประเทศเป็นหลัก
อย่างไรก็ตาม หากใครคิดที่จะทำการเกษตรเพื่อเลี้ยงตัวเองตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง การเปลี่ยนแปลงกระบวนการเหล่านี้อาจเบาบางกว่าเป็นต้น
รศ.ดร.พีรเดช ทองอำไพ
ข่าวที่เกี่ยวข้องเอกชนยอมตรึงราคาปุ๋ยตลอดปี53"วิถีชีวิต-ลายไทย" คว้าชัยเวทีเครื่องประดับ
มกอช.เร่งส่งเสริมการค้า "ไทย-จีน"
พ่อค้าส่งออกไทย อย่า ใจปลาซิว ?มณฑลกวางตุ้งซื้อสินค้าเกษตรไทย
NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6
Wednesday, March 31, 2010
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
Blog Archive
-
►
2013
(252)
- ► 04/21 - 04/28 (12)
- ► 04/14 - 04/21 (9)
- ► 04/07 - 04/14 (21)
- ► 03/31 - 04/07 (21)
- ► 03/24 - 03/31 (18)
- ► 03/10 - 03/17 (12)
- ► 03/03 - 03/10 (18)
- ► 02/24 - 03/03 (21)
- ► 02/17 - 02/24 (21)
- ► 02/10 - 02/17 (9)
- ► 02/03 - 02/10 (27)
- ► 01/27 - 02/03 (18)
- ► 01/20 - 01/27 (21)
- ► 01/13 - 01/20 (12)
- ► 01/06 - 01/13 (12)
-
►
2012
(129)
- ► 12/30 - 01/06 (21)
- ► 12/23 - 12/30 (6)
- ► 12/16 - 12/23 (15)
- ► 12/09 - 12/16 (10)
- ► 12/02 - 12/09 (21)
- ► 11/25 - 12/02 (16)
- ► 11/18 - 11/25 (13)
- ► 11/11 - 11/18 (7)
- ► 11/04 - 11/11 (12)
- ► 10/28 - 11/04 (4)
- ► 10/21 - 10/28 (4)
-
▼
2010
(475)
- ► 06/13 - 06/20 (16)
- ► 05/30 - 06/06 (5)
- ► 05/23 - 05/30 (25)
- ► 05/16 - 05/23 (44)
- ► 05/09 - 05/16 (55)
- ► 05/02 - 05/09 (15)
- ► 04/25 - 05/02 (25)
- ► 04/18 - 04/25 (19)
- ► 04/11 - 04/18 (25)
- ► 04/04 - 04/11 (80)
-
▼
03/28 - 04/04
(40)
- คัดแอดมิชชั่น มติทปอ. ใช้เกณฑ์เดิม
- 10ขวบคว้าแชมป์โลกโกคาร์ทรุ่นจิ๋ว
- นายกฯไฟเขียว ปลัดสธ. ตั้งทีมลุยไทยเข้มแข็ง
- มศวหนุนพยาบาลคืนถิ่นเปิดโครงการนำร่องพื้นที่
- ปั้นแต่งโมเสกผลิตภัณฑ์ศิลป์ของฝากฝีมือครูเบ็ญจมาภรณ์
- ทิศทางเกษตรไทยในปีเสือเตรียมรับกับสารพัดปัญหา
- ชีวิตกับกล้วยไม้ เหตุใดฉันจึงรักกล้วยไม้ (7)
- สังคมราชภัฏประจำวันศุกร์ที่1ม.ค.53
- เฒ่าหลังลาย ไม้ป่าดอกสวย
- ภาษาอังกฤษง่ายนิดเดียวขอให้คุณมี...
- วัยรุ่นสวดมนต์ข้ามปีต้อนรับปีใหม่
- พิชิตปัญหาสัตว์เลี้ยงตอน พาเหมียวบิน
- โซนรักสัตว์ประจำวันที่31ม.ค.
- เอสซีจี เปเปอร์ าเยี่ยมโรงเรียนตชด.ดูวิธีแปลงกระดา...
- รับผิดชอบสังคมหัวใจนิเทศมมส.
- เลาะรั้วมหาวิทยาลัยประจำวันที่31ม.ค.
- แชะ แชะ แชะประจำวันอาทิตย์ที่31มกราคม
- อาชีวะเพชรให้ทุนเรียนผ้าสร้างอาชีพอยู่ได้พอเพียง
- เจ้าอินทรียักษ์ผู้เคราะห์ร้ายนกหายากจากทุ่งหญ้าสเต็ป
- 2โพลชี้ปมแก้รธน.ทำรัฐเชื่อมั่นวูบคนกรุงความสุขลด
- นักวิจัยเกษตรสิงห์บุรีพัฒนาวิชาชีพเกษตรไทย
- มรภ.ธนบุรีผุดสาธิตแห่งแรกในสมุทรปราการ
- รัฐเตรียมรับมือแล้งหนักจากเอลนีโญ่กรมชลสารภาพน้ำไม...
- เปิดม่านการศึกษาประจำวันที่1ก.พ.
- ภาษาอังกฤษง่ายนิดเดียวก๋วยเตี๋ยว
- กรมประมงดันการประกันภัยภาคการประมง
- การเพาะเลี้ยงสาหร่ายไก
- เจ๊าะแจ๊ะวิทยาศาสตร์สุดยอดที่สุดของสิ่งมีชีวิต
- เซ็กส์สม่ำเสมอ ป้องกัน อัลไซเมอร์ได้
- สทศ.ประกาศผลฉลุย
- พระราชดำริชาน้ำมัน ส่งเสริมปลูกในเกษตรพื้นที่สูง
- ทูตอังกฤษจับมือเครือข่ายสกัดละเมิดทางเพศ
- สพฐ.มึนนักเรียนแห่สมัครเกินแผนรับอื้อ
- ลดต้นทุนการทำนา
- ดอกไม้ดิน กลุ่มหัตถศิลป์ฯ สู่โอท็อป 5 ดาวสินค้าส่...
- ติ้วขนใบแก้โรคผิวหนัง
- ไกร ชมน้อย เกษตรศิลปิน ปราชญ์เดินดินกินพอเพียง
- ผู้ปกครองโวยรร.ที่ศรีสะเกษ
- สทศ.ตรวจใหม่ ข้อสอบGAT นร.2.1แสนคน
- สทศ.ตรวจข้อสอบแกตนักเรียนใหม่หมด2.1แสน
- ► 03/14 - 03/21 (126)
No comments:
Post a Comment