Monday, May 10, 2010

สุดยอดภูมิปัญญาลูกหลานย่าโม ใช้ข่าขมิ้นให้มะม่วงสด4เดือน

สุดยอดภูมิปัญญาลูกหลานย่าโม
ใช้ข่าขมิ้นให้มะม่วงสด4เดือน





คมชัดลึก :จากประสบการณ์ที่ กิจติกร กีรติเรขา อดีตข้าราชการครู ที่ผันตัวเองมาเป็นเกษตรกรปลูกมะม่วงพันธุ์งามเมืองย่า ที่บ้านหนองปล้อง หมู่ 9 ต.งิ้ว อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา ประสบปัญหาการเก็บผลผลิตมะม่วง ด้วยในห้องเย็นที่มีอุณหภูมิ 3 องศาเซลเซียส แต่เก็บไว้ได้เพียง 2 เดือน เขาจึงคิดค้นหาวิธีใหม่ด้วยการนำภูมิปัญญาชาวบ้าน นำข่าและขมิ้นมาเป็นตัวช่วย ส่งผลให้เก็บผลมะม่วงงามเมืองย่าได้นานถึง 4 เดือน







  กิจติกรบอกว่า เดิมมีอาชีพรับราชการครู สอนที่โรงเรียนใน ต.สะแกราช อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา ตอนหลังออกจากราชการหันมาปลูกมะม่วงพันธุ์งามเมืองย่า ซึ่งมีคุณสมบัติพิเศษกว่ามะม่วงทั่วๆ ไป คือ ให้ผลดอก สวยงาม และผลโต หากผลโตเต็มที่มีขนาดใหญ่กว่าขวดน้ำอัดลมขนาด 1 ลิตร น้ำหนักเฉลี่ยผลละ 1.2 กก. รสชาติหอมหวานอร่อย กำลังเป็นที่ต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศ ปัจจุบันราคาอยู่ที่ กก.ละ 85-90 บาท เนื่องจากเกษตรกปลูกน้อย อย่างของตนปลูกในพื้นที่ 44 ไร่ เป็นมะม่วงอินทรีย์ ที่ปลูกระบบออร์แกนิก ไร้สารเคมีในทุกขั้นตอน
 แต่เนื่องจากมะม่วงงามเมืองย่าของกิจติกร ตลาดหลักจะได้รับออเดอร์จากต่างประเทศ เช่น รัสเซีย ซึ่งแต่ละปีจะส่งออกปีละ 28 ล้านบาท จึงจำเป็นต้องหาวิธีที่จะเก็บมะม่วงไว้ไม่ให้เน่าเสียให้นานที่สุด จากเดิมใช้วิธีนำผลผลิตเข้าห้องเย็นเก็บไว้ที่อุณหภูมิประมาณ 3 องศาเซลเซียส จะสามารถเก็บไว้ได้นานราว 2 เดือน จึงต้องเร่งระบายผลผลิตให้เร็วที่สุดหลังจากที่เก็บเกี่ยว เพราะหากทิ้งไว้นานจะเกิดการเน่าเสีย ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อราคาและความเชื่อมั่นของลูกค้า
 ล่าสุด กิจติกรพบวิธีใหม่ที่จะรักษาและคงสภาพมะม่วงงามเมืองย่าไว้ได้นานถึง 4 เดือนได้แล้ว ด้วยวิธีการประยุกษ์ใช้ภูมิปัญญาชาวบ้านเข้ามาช่วย คือ ใช้ขมิ้นและข่า วิธีการคือ การนำเอาหัวข่าและหัวขมิ้นสดอย่างละ 500 กรัม มาทุบหรือบดให้แตก แต่ไม่ต้องละเอียด นำไปผสมกับน้ำ 20 ลิตร ทิ้งไว้ 24 ชั่วโมง แล้วนำผลมะม่วงที่เก็บเกี่ยวมาล้างด้วยน้ำข่า-ขมิ้นที่เตรียมไว้ โดยไม่ต้องแช่ เช็ดให้สะอาด จากนั้นนำมาห่อด้วยถุงพลาสติก นำเข้าห้องเย็นที่อุณหภูมิ 3 องศาเซลเซียส แค่นี้จะสามารถเก็บไว้ได้นานถึง 4 เดือน
 เนื่องจากข่าและขมิ้นมีคุณสมบัติที่สามารถยับยั้งป้องกันการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย ซึ่งส่งผลให้เกิดการแอนแทคโนส ซึ่งเป็นปฏิกิริยาที่เร่งให้พืชเกิดการเน่าเสียได้ง่าย จึงนำมาประยุกต์ใช้ในการเคลือบผิวมะม่วงเพื่อยืดอายุในการเน่าเสีย ส่วนถุงที่นำมาครอบมะม่วงไว้ก็จะช่วยในการหยุดการหายใจของผลมะม่วงที่จะมีการแลกเปลี่ยนก๊าซจากภายนอก และจะส่งผลให้ผลมะม่วงเหี่ยวไม่สดและไม่เป็นที่ต้องการของตลาด
 ผลจากการทดลองปรากฏว่า ภายในระยะเวลา 4 เดือน มะม่วงที่เก็บไว้เมื่อนำมาแกะออก พบว่ามะม่วงยังมีความสดและมีคุณสมบัติคงเดิม ทั้งผิวภายนอกเนื้อภายใน รวมถึงรสชาติไม่เปลี่ยนแปลงยังคงเดิมทุกประการ ซึ่งถือเป็นความสำเร็จอีกก้าวหนึ่งของมะม่วงงามเมืองย่า อันจะส่งผลให้สามารถป้องกันความสูญเสียคุณภาพยามที่ต้องส่งผลผลิตไปไกลในต่างประเทศ อีกทั้งในยามที่ราคาตกต่ำก็ยังไม่ต้องเร่งรีบนำ เพราะสามารถเก็บไว้ขายได้นานลดความเสี่ยงได้เป็นอย่างดี
 นับเป็นภูมิปัญญาชาวบ้านแบบง่ายๆ แต่ได้ผลเกินคาด หากเกษตรกรรายใดสนใจ สอบถามได้ที่โทร.08-1333-0080 และ 0-4428-3058 อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมะม่วงพันธุ์งามเมืองย่าเป็นที่ต้องการของตลาดและราคาดี กิจติกรจึงดำเนินโครงการ 1 ไร่หายจน เพื่อเป็นการช่วยเหลือให้เกษตรกรที่สนใจมีรายได้ ด้วยการหันไปปลูกมะม่วงงามเมืองย่า ล่าสุดมีจำนวนสมาชิกที่สนใจแล้วกว่า 90 ราย
"ประสิทธิ์ ตั้งประเสริฐ"










NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

No comments:

Post a Comment

Blog Archive