Wednesday, December 19, 2012

โยน ก.พ.ร.ศึกษาตั้ง กระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว

โยน ก.พ.ร.ศึกษาตั้ง กระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว
นิวัฒน์ธำรง เผย นายกฯเล็งปรับโครงสร้างราชการปี 56 หวังเพิ่มประสิทธิภาพงานทุกกระทรวง โยน ก.พ.ร.ศึกษา เรื่องรวมกระทรวงวัฒนธรรมเข้ากับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และจัดตั้งเป็นกระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว...เมื่อวันที่ 19 ธ.ค. 55 นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนายสนธยา คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม (วธ.) เสนอแนวคิดให้มีการปรับโครงสร้างรวม วธ. เข้ากับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (กก.) และจัดตั้งเป็นกระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว ส่วนเรื่องกีฬาก็ควรมีการปรับแยกเป็นอีกกระทรวงหนึ่งว่า นายสนธยายังไม่ได้มาหารือกับตนเรื่องนี้อย่างเป็นทางการ แต่มีการพูดคุยเพียงเล็กน้อยในเบื้องต้นเท่านั้น ซึ่งเรื่องนี้ต้องให้ทางสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (กพร.) เข้ามาศึกษาในเรื่องดังกล่าวก่อน ส่วนตัวเห็นว่า วธ.และ กก.ได้ทำงานร่วมกันมาอยู่แล้ว และจะมีอีกส่วนที่เกี่ยวข้องกับด้านศาสนา คือ กรมการศาสนา (ศน.) และสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) โดยเฉพาะเรื่องท่องเที่ยว ไม่ได้มีแค่ด้านวัฒนธรรมและศาสนาเท่านั้น ยังมีเรื่องของธรรมชาติเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวต่อไปว่า ที่กล่าวมาทั้งหมดเป็นเรื่องของโครงสร้างระบบราชการ ที่จะต้องนำมาดูกันทั้งหมดไม่ใช่เพียงแต่ วธ. และกก.เท่านั้น ซึ่งรัฐบาลเข้ามาทำงานได้ 1 ปีกว่า กำลังดูอยู่และก็มีแนวคิดที่จะปรับโครงสร้างโดยภาพรวมทั้งหมดในขณะเดียวกัน ก่อนที่จะมีการปรับโครงสร้างทั้งหมด รัฐบาลก็ต้องสอบถามความคิดเห็นจากทุกกระทรวงก่อน อย่างไรก็ตามที่ผ่านมา รัฐบาลได้เก็บรวบรวมข้อมูลการทำงานของทุกหน่วยงานราชการทั้งหมด พบว่าการทำงานไม่มีปัญหา แต่ต้องกลับมาพิจารณาว่า การทำงานมีประสิทธิภาพสูงสุดหรือยัง เราคงต้องดูว่าทุกหน่วยงานจะทำให้งานเกิดประสิทธิภาพสูงสุดได้อย่างไร เช่น เรื่องน้ำมีหน่วยงานดูแล 17 หน่วยงาน เป็นต้นซึ่งรัฐบาลจะต้องเข้ามาดูเรื่องปรับโครงสร้างให้การทำงานเกิดประสิทธิภาพสูงสุดในอนาคตคาดว่าในปี 2556 จะต้องมีการหารือเรื่องปรับโครงสร้างระบบราชการ โดยแนวคิดนายสนธยาก็เป็นแนวคิดหนึ่งที่ต้องนำมาพิจารณา ซึ่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงเรื่องการปรับโครงสร้างอยู่ ว่าจะทำอย่างไรให้หน่วยงานเกิดประสิทธิภาพอัตรากำลังเท่าไหร่ จึงจะเหมาะสม บางงานทำมาหลายปีแล้ว ยังคงล้าสมัยหรือบางงานควรจะให้เอกชนเข้ามาดำเนินการ เช่น การทำหนังสือเดินทางของกระทรวงการต่างประเทศ ที่ให้ภาคเอกชนเข้ามาดำเนินการให้ ส่งผลให้การออกหนังสือเดินทางเกิดประสิทธิภาพมากขึ้นเป็นต้น ซึ่งต้องมีการคิดและพัฒนาอยู่ตลอด และนายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึงตลอดว่าเป็นสิ่งที่รัฐบาลจะต้องทำ โดยจะต้องค่อยๆปรับ ไม่ใช่ปรับรวดทีเดียว นายนิวัฒน์ธำรง กล่าวนิวัฒน์ธำรง เผย นายกฯเล็งปรับโครงสร้างราชการปี 56 หวังเพิ่มประสิทธิภาพงานทุกกระทรวง โยน ก.พ.ร.ศึกษา เรื่องรวม กระทรวงวัฒนธรรมเข้ากับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และจัดตั้งเป็นกระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว...เมื่อวันที่ 19 ธ.ค. 55 นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนายสนธยา คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม (วธ.) เสนอแนวคิดให้มีการปรับโครงสร้างรวม วธ. เข้ากับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (กก.) และจัดตั้งเป็นกระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว ส่วนเรื่องกีฬาก็ควรมีการปรับแยกเป็นอีกกระทรวงหนึ่งว่า นายสนธยายังไม่ได้มาหารือกับตนเรื่องนี้อย่างเป็นทางการ แต่มีการพูดคุยเพียงเล็กน้อยในเบื้องต้นเท่านั้น ซึ่งเรื่องนี้ต้องให้ทางสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (กพร.) เข้ามาศึกษาในเรื่องดังกล่าวก่อน ส่วนตัวเห็นว่า วธ.และ กก.ได้ทำงานร่วมกันมาอยู่แล้ว และจะมีอีกส่วนที่เกี่ยวข้องกับด้านศาสนา คือ กรมการศาสนา (ศน.) และสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) โดยเฉพาะเรื่องท่องเที่ยว ไม่ได้มีแค่ด้านวัฒนธรรมและศาสนาเท่านั้น ยังมีเรื่องของธรรมชาติเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวต่อไปว่า ที่กล่าวมาทั้งหมดเป็นเรื่องของโครงสร้างระบบราชการ ที่จะต้องนำมาดูกันทั้งหมดไม่ใช่เพียงแต่ วธ.และกก.เท่านั้น ซึ่งรัฐบาลเข้ามาทำงานได้ 1 ปีกว่า กำลังดูอยู่และก็มีแนวคิดที่จะปรับโครงสร้างโดยภาพรวมทั้งหมดในขณะเดียวกัน ก่อนที่จะมีการปรับโครงสร้างทั้งหมด รัฐบาลก็ต้องสอบถามความคิดเห็นจากทุกกระทรวงก่อน อย่างไรก็ตามที่ผ่านมา รัฐบาลได้เก็บรวมรวมข้อมูลการทำงานของทุกหน่วยงานราชการทั้งหมด พบว่าการทำงานไม่มีปัญหา แต่ต้องกลับมาพิจารณาว่า การทำงานมีประสิทธิภาพสูงสุดหรือยัง เราคงต้องดูว่าทุกหน่วยงานจะทำให้งานเกิดประสิทธิภาพสูงสุดได้อย่างไร เช่น เรื่องน้ำมีหน่วยงานดูแล 17 หน่วยงาน เป็นต้น ซึ่งรัฐบาลจะต้องเข้ามาดูเรื่องปรับโครงสร้างให้การทำงานเกิดประสิทธิภาพสูงสุดในอนาคตคาดว่าในปี 2556 จะต้องมีการหารือเรื่องปรับโครงสร้างระบบราชการ โดยแนวคิดนายสนธยาก็เป็นแนวคิดหนึ่งที่ต้องนำมาพิจารณา ซึ่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงเรื่องการปรับโครงสร้างอยู่ ว่าจะทำอย่างไรให้หน่วยงานเกิดประสิทธิภาพอัตรากำลังเท่าไหร่ จึงจะเหมาะสม บางงานทำมาหลายปีแล้ว ยังคงล้าสมัยหรือบางงานควรจะให้เอกชนเข้ามาดำเนินการ เช่น การทำหนังสือเดินทางของกระทรวงการต่างประเทศ ที่ให้ภาคเอกชนเข้ามาดำเนินการให้ ส่งผลให้การออกหนังสือเดินทางเกิดประสิทธิภาพมากขึ้นเป็นต้น ซึ่งต้องมีการคิดและพัฒนาอยู่ตลอด และนายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึงตลอดว่าเป็นสิ่งที่รัฐบาลจะต้องทำ โดยจะต้องค่อยๆ ปรับ ไม่ใช่ปรับรวดทีเดียว นายนิวัฒน์ธำรง กล่าว

No comments:

Post a Comment

Blog Archive