Friday, December 21, 2012

ปี 2555 คนไทยเดือดร้อนปัญหาบริการสุขภาพ-สาธารณสุข มากสุด

ปี 2555 คนไทยเดือดร้อนปัญหาบริการสุขภาพ-สาธารณสุข มากสุด
มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคเผย ปี 2555 คนไทยได้รับความเดือดร้อนเรื่องการบริการสุขภาพและสาธารณสุขมากที่สุด รองมาคือปัญหาหนี้บัตรเครดิต จี้รัฐเร่งคลอด กม.องค์การอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค...วันที่ 21 ธ.ค. ที่สำนักงานมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค น.ส.สารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค พร้อมเครือข่ายองค์กรผู้บริโภค 6 ภูมิภาค แถลงข่าวรายงานสถานการณ์ ความทุกข์ของผู้บริโภคประจำปี 2555 ว่า จากการรับเรื่องร้องเรียนของผู้บริโภคผ่านศูนย์พิทักษ์สิทธิผู้บริโภคของมูล นิธิฯ และเครือข่ายผู้บริโภคตลอดปี 2555 มีจำนวนทั้งสิ้น 1,446 ราย จากทั้งหมด 7 กลุ่มปัญหา ได้แก่ปัญหาด้านบริการสุขภาพและสาธารณสุข ปัญหาด้านการเงินการธนาคาร ปัญหาด้านอสังหาริมทรัพย์ ปัญหาด้านสื่อและโทรคมนาคม ปัญหาด้านบริการสาธารณะ ปัญหาด้านสินค้าและบริการทั่วไป ปัญหาด้านอาหาร ยา และเครื่องสำอางพบว่ากลุ่มปัญหาที่ได้รับการร้องเรียนมากที่สุด อันดับ 1 คือ ปัญหาด้านบริการสุขภาพและสาธารณสุข มีจำนวน 718 ราย ในจำนวนนี้เป็นการร้องเรียนกรณีศูนย์ออกกำลังกาย (แคลิฟอร์เนียว้าว) ที่ปิดบริการโดยไม่แจ้งให้ทราบ แต่ยังมีการรับสมัครสมาชิกตลอดชีพ ทั้งที่ไม่สามารถเปิดให้บริการได้แล้วมากถึง 669 ราย มูลค่าความเสียหายมากกว่า 30 ล้านบาทรองลงมาคือเรื่องมาตรฐานการ รักษาพยาบาล ระบบส่งต่อผู้ป่วย และการใช้สิทธิในกองทุนฉุกเฉิน อันดับ 2 คือ ปัญหาด้านการเงินการธนาคาร มี 292 ราย ส่วนใหญ่เป็นปัญหาการชำระหนี้ไม่ตรงตามเวลา ผู้ให้บริการบัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล และธุรกิจเช่าซื้อ ส่วนมากมีการติดตามทวงหนี้ที่เป็นการละเมิดสิทธิ และมีคดีฟ้องร้องเป็นคดีมากขึ้นสูงกว่าปีที่ผ่านมา รองลงมาคือปัญหาจากบริษัทประกันภัย ที่มักมีข้ออ้างกับผู้บริโภคว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นไม่เข้าเงื่อนไขของ การรับประกันเลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กล่าวว่า อันดับ 3 คือ ด้านอสังหาริมทรัพย์ 124 ราย ประเด็นที่ส่งผลกับผู้บริโภคส่วนใหญ่คือ ปัญหาบ้านจัดสรร โดยเฉพาะการผิดสัญญาซื้อขายของบ้านเอื้ออาทร ที่เจ้าของบ้านถูกธนาคารและการเคหะแห่งชาติดำเนินการเปลี่ยนแปลงสัญญา โดยอ้างว่าทางการเคหะฯ ได้ซื้อบ้านคืนแล้ว หากผู้บริโภคยังต้องการอาศัยอยู่ต่อต้องจ่ายค่าเช่าคืนละ 100 บาท และท้ายสุดการเคหะฯ ก็จะดำเนินการฟ้องคดี เพื่อขับไล่ผู้บริโภคออกจากบ้านหลังนั้นนอกจากนี้ ยังมีกรณีโครงการหมู่บ้านจัดสรรส่วนใหญ่ละเลยไม่จัดหา จัดสร้างพื้นที่ส่วนกลางตามที่สัญญาไว้ในสัญญาโครงการ จำนวน อันดับ 4 ด้านสื่อและโทรคมนาคม 96 ราย พบว่ามีลักษณะของการได้รับซิมฟรีแล้วถูกเรียกเก็บเงินภายหลัง ทั้งที่ไม่ได้เปิดใช้บริการคือ ปัญหาสูงสุดในขณะนี้ รองลงมาคือปัญหาวันหมด แต่เงินไม่หมด แต่ไม่สามารถใช้งานโทรศัพท์ได้ถือเป็นความหละหลวมในการบังคับใช้กฎหมายของ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอันดับ 5 คือ ด้านบริการสาธารณะ 95 ราย เรื่องร้องเรียนมากที่สุดคือ ปัญหาการชดเชยค่าเสียหายแก่ผู้โดยสารที่สูญเสียชีวิตและทรัพย์ เมื่อรถโดยสารเกิดอุบัติเหตุ ปัญหาทรัพย์สินสูญหายระหว่างการเดินทาง ที่ไม่ได้รับการชดใช้เต็มจำนวน ปัญหาการเก็บค่าบริการแพงเกินจริง ปัญหาบรรทุกเกินอันดับ 6 คือ ปัญหาด้านสินค้าและบริการทั่วไป มีผู้ร้องเรียน 79 ราย ส่วนใหญ่เป็นรถใหม่ป้ายแดงประกอบในไทยด้อยคุณภาพ และรถนำเข้าจากจีนด้อยคุณภาพ และอันดับ 7 ปัญหาอาหารหมดอายุแล้วยังมาจำหน่ายในห้างร้าน ฉลากกำกับ วันที่ผลิต วันหมดอายุไม่ชัดเจน ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารโฆษณาอวดอ้างสรรพคุณเสมือนยารักษาโรคน.ส.สารี กล่าวอีกว่า ทุกข์ของผู้บริโภคยังมีอย่างต่อเนื่องสารพัดรูปแบบ และคาดว่าใน 2556 จะมีอัตราเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะกรณีจากกรณีบัตรเดรดิตสารพัดรูปแบบตามนโยบายของรัฐบาล จากนโยบายรถคันแรกและบ้านหลังแรก หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่อาจคุ้มครองผู้บริโภคได้ทั้งหมด ทางมูลนิธิจึงเรียกร้องให้ให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเร่งให้ความเป็นธรรม และเร่งคุ้มครองผู้บริโภคเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยโดยเฉพาะ อยากให้รัฐบาลเร่งผลักดันกฎหมายองค์การอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 61  จัดบริการสุขภาพมาตรฐานเดียว โดยผู้ประกันตนต้องไม่รวมจ่ายเรื่องบริการสุขภาพ ออกประกาศให้รถโดยสารสาธารณะต้องทำประกันภัยชั้น 1 และมีมาตรการบังคับให้ผู้ประกอบการต่างๆ ต้องทำตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด.

No comments:

Post a Comment

Blog Archive