ดำรงค์เล็งตั้งกองทุนช่วยช้างแก่งกระจาน หวั่นสูญหมดป่า

ดำรงค์เล็งตั้งกองทุนช่วยช้างแก่งกระจาน หวั่นสูญหมดป่า
“ดำรงค์ พิเดช” เตรียมตั้งกองทุนช่วยช้างอุทยานฯ แก่งกระจาน ควักทุนประเดิม 5 หมื่นบาท เชิญภาคประชาชน เอกชน นักอนุรักษ์ร่วม ขณะที่ “เทวินทร์” หัวหน้าอุทยานฯ ทับลาน ให้กำลังใจ “ชัยวัฒน์” ขอให้สู้ต่อ ...กรณีการฆ่าช้างเพศเมียท้องแก่ บริเวณทางเข้าอ่างเก็บน้ำกระหร่างสาม ในเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานบ้านป่าเด็ง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 13 เม.ย.2556 นายดำรงค์ พิเดช หัวหน้าพรรคทวงคืนพืชป่าประเทศไทย อดีตอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธ์ุพืช เปิดเผยว่า ตนจะตั้งกองทุนสำหรับช้างป่าแก่งกระจานขึ้นมาเพื่อที่จะนำเงินกองทุนดังกล่าวมาดูแลช้างป่าในอุทยานฯ แก่งกระจานเป็นการเฉพาะ โดยการไปจ้างพนักงานพิทักษ์ป่าภาคเอกชนมาช่วยดูแลปกป้องช้าง โดยเฉพาะบริเวณบ้านป่าเด็ง ที่ช้างป่ามักชอบลงมากินน้ำและมักถูกฆ่าตายบ่อยครั้ง เพื่อช่วยเจ้าหน้าที่อุทยานฯ อีกแรงหนึ่ง ไม่อย่างนั้น ช้างป่าหมดจากอุทยานฯ แก่งกระจานอย่างแน่นอน เพราะการฆ่าช้างครั้งนี้ ตนยังเชื่อว่าเป็นการต้องการโค่น นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ให้พ้นจากตำแหน่งหัวหน้าอุทยานฯ อย่างแน่นอน เพราะปกติกลุ่มพรานจะฆ่าช้างในพื้นที่ป่าลึก ซึ่งทำงานได้ง่ายกว่านี้และไม่มีผู้พบเห็น แต่ช้างตัวนี้กลับถูกฆ่าในพื้นที่ใกล้ชุมชน อีกทั้งเป็นช้างเพศเมียด้วย ที่สำคัญ ที่ผ่านมานายชัยวัฒน์ ไปขัดขวางกลุ่มอิทธิผลที่เข้ามาหาประโยชน์ในพื้นที่อุทยานฯ ทั้งจากชนกลุ่มน้อย ทั้งจากการไปทำลายไร่กัญชา การล่าสัตว์ป่า เป็นต้น โดยหลังเทศกาลสงกรานต์ ตนจะเชิญภาคประชาชน ภาคเอกชน นักอนุรักษ์ มาหารือเรื่องการตั้งกองทุน โดยตนจะบริจาคประเดิม จำนวน 5 หมื่นบาท และจะขอเชิญชวนประชาชน เอกชน บริษัทห้างร้านมาช่วยกันบริจาค หัวหน้าพรรคทวงคืนผืนป่าฯ กล่าวต่อว่า การตั้งกองทุนฯ ถือเป็นการช่วยกรมอุทยานฯ อีกแรงหนึ่ง เพราะลำพังงบประมาณในการดูแลอุทยานฯ ไม่กี่ล้านบาท ไม่เพียงพอแน่นอน ที่สำคัญเป็นการช่วยนายชัยวัฒน์ ซึ่งเป็นข้าราชการน้ำดีที่ทำงานจริงจัง ถ้าไม่ช่วยกัน นายชัยวัฒน์ ถูกย้ายแน่นอน คนแบบนี้หายาก ต้องให้กำลังใจ ครั้งหนึ่งสมัยตนเป็นอธิบดี เคยย้ายนายชัยวัฒน์มาประจำกรมฯ และเคยถามนายชัยวัฒน์ ว่า ยังสู้ต่อไปหรือไม่ นายชัยวัฒน์ยืนยันว่า พร้อมที่จะสู้ต่อ ตนก็ให้กลับมาทำงานและทำหน้าที่ต่อไป ยืนยันว่าถ้าหัวหน้าอุทยานฯ แก่งกระจาน ไม่ใช่นายชัยวัฒน์ เอาไม่อยู่แน่นอน ด้านนายเทวินทร์ มีทรัพย์ หัวหน้าอุทยานฯ ทับลาน จ.ปราจีนบุรี กล่าวว่า ได้โทรศัพท์ไปให้กำลังใจนายชัยวัฒน์ ในฐานะคนทำงานด้านทรัพยากรฯ เหมือนกัน เป็นห่วงที่โดนโจมตีมากเรื่องช้างในอุทยานฯ แก่งกระจานตาย แถมยังโดนตั้งกรรมการสอบด้วย กลัวนายชัยวัฒน์ จะหมดกำลังใจ เลยขอให้สู้ต่อไป เพราะตนกับนายชัยวัฒน์ ชะตากรรมเดียวกัน มีศัตรูและคนไม่ชอบเยอะจากการปฏิบัติหน้าที่ปกป้องทรัพยากรธรรมชาติและสัตว์ป่า โดยนายชัยวัฒน์ บอกว่า จะสู้ต่อไป ส่วนเรื่องที่นายดำรงค์ จะตั้งกองทุนช้วยช้างแก่งกระจาน ตนเห็นด้วยอย่างยิ่ง เพราะจะได้มีหลายฝ่ายช่วยกันทำงาน นายศศิน เฉลิมลาภ เลขาธิการมูลนิธิสืบนาคะเสถียร กล่าวว่า การตั้งกองทุนช่วยช้างแก่งกระจาน ถือว่าเป็นเจตนารมณ์ที่ดีของนายดำรงค์ ในการช่วยช้าง ที่ผ่านมาบทบาทของนายดำรงค์เองก็ได้รับการยอมรับยกย่องเรื่องอนุรักษ์อยู่แล้ว ขณะที่นายชัยวัฒน์ ถือว่าเป็นหัวหน้าอุทยานฯ เกรดเอ มีผลงานด้านอนุรักษ์ แต่ปัญหาในอุทยานฯ แก่งกระจานค่อนข้างซับซ้อน ดังนั้น การทำงานค่อนข้างยาก ขณะที่นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าฯ แก่งกระจาน กล่าวถึงกรณีที่นายมโนพัศ หัวเมืองแก้ว อธิบดีกรมอุทยานฯ ระบุว่าได้ให้งบประมาณกับอุทยานฯ แก่งกระจานในการดูแลช้างแล้ว ว่า นายมโนพัศ ได้ให้งบประมาณกับอุทยานฯ แก่งกระจาน เพิ่มจาก 14 ล้านบาทเป็น 18 ล้านบาทคืองบปกติ ที่เพิ่มให้กับเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าจากเงินเดือน 4 พันบาทเศษเป็น 7 พันบาทเศษ ไม่ใช่งบประมาณในการดูแลพื้นที่ช้างเป็นพิเศษ โดยตนได้ทำแผนในการดูแลพื้นที่ช้างเป็นพิเศษ จำนวน 3 ล้านบาทเศษให้กับนายโชติ ตราชู ปลัดกระทรวงทรัพยากรฯ ไปเมื่อวันที่ 12 เม.ย.ที่ผ่านมา หลังจากที่นายโชติได้เดินทางมาตรวจสอบพื้นที่ ส่วนที่มีการระบุว่าตนท้อแท้ใจในการทำงานนั้น ไม่จริง ขอยืนยันว่าไม่ได้รู้สึกท้อแท้ใจ แต่รู้สึกรันทดใจกับทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยในวันที่ 14 เม.ย.นี้ ตนจะเดินทางไปชี้แจงเรื่องช้างตายกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขณะที่ ผู้สื่อข่าวพยายามจะติดขอสัมภาษณ์นายมโนพัศ หัวเมืองแก้ว อธิบดีกรมอุทยานฯ แต่ไม่สามารถติดต่อได้.