เกษตรจังหวัดสุโขทัยเตือนเกษตรกรปลูกพริก ระวังโรคเหี่ยวพริกเนื่องจากสภาวะอากาศต้นฤดูหนาวมีน้ำค้างจัด แนะปลูกพืชก่อนหรือหลังเก็บผลผลิตและพ่นน้ำปูนใส...เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. นายปริมาณ ปั้นลี้ เกษตรจังหวัดสุโขทัย กล่าวว่า จากสภาวะอากาศในช่วงต้นฤดูหนาวมีน้ำค้างในตอนเช้า ทำให้มีความชื้นสัมพันธ์สูง เป็นที่เหมาะสมต่อการแพร่กระจายของเชื้อราอันเป็นสาเหตุของโรคเหี่ยวพริก ดังนั้น ทางสำนักงานเกษตรจังหวัดสุโขทัยจึงขอให้เกษตรกรสำรวจแปลงพริกทุกสัปดาห์ โดยเฉพาะในระยะพริกติดผล โดยให้สังเกตลักษณะอาการและการทำลายของโรคเหี่ยวพริกดังนี้ ลักษณะอาการต้นเหี่ยว ใบตก บริเวณโคนต้นมีเส้นใยเชื้อราสีขาว หรืออาจพบเมล็ดผักกาดปนอยู่กับเส้นใยเชื้อราสีขาว โรคนี้พบได้บ่อยระยะพริกติดผล ในฤดูฝนต้นหนาว ทั้งนี้ การป้องกันโรคใบเหี่ยวพริก สามารถป้องกันได้โดยก่อนที่จะปลูกพืช หรือหลังเก็บผลผลิต เก็บตัวอย่างดินส่งวิเคราะห์เพื่อปรับสภาพดินให้เหมาะสมกับพืชที่จะปลูกใหม่ พร้อมใส่ปุ๋ยอินทรีย์ให้มาก เช่น ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก หรือไถกลบปุ๋ยพืชสด 1-3 ตันต่อไร่ ปรับดินด้วยปูนขาวและปุ๋ยอินทรีย์ให้มาก ก่อนปลูกรองก้นหลุมด้วยปุ๋ยอินทรีย์ที่ผสมเชื้อราไตรโคเดอร์ม่า เว้นระยะต้นและระยะแถวให้เหมาะสม เพื่อให้แสงแดดส่องผ่านถึงพื้นดินและมีการระบายอากาศในทรงพุ่มได้ดี นายปริมาณ กล่าวด้วยว่า ควรพ่นน้ำปูนใส 2-3 ครั้ง ทุก 2-3 วัน ในแปลงกล้าก่อนย้ายปลูก และทุก 7 วัน ในแปลงปลูก หรือให้น้ำปูนใสในถุงปลูก ตามสายน้ำหยดแทนการให้น้ำทุก 7 วัน จนกว่าจะเริ่มเก็บผลผลิตช่วงพืชเจริญเติบโตและเริ่มให้ผลผลิต ใช้ปุ๋ยเคมีตามคำแนะนำ พร้อมเสริมปุ๋ยอินทรีย์ให้มากกว่าปุ๋ยเคมี นอกจากนี้ ควรมีทางระบายน้ำออกจากแปลงได้ทันทีเมื่อมีน้ำท่วมขัง หมั่นตรวจแปลงหากพบโรค ให้รีบขุดเอาดิน และต้นโรคทำลายทันที และควรปลูกพืชอื่นหมุนเวียน.
No comments:
Post a Comment