Sunday, May 23, 2010

งานไทยเฟสติวัลครั้งที่ 11 ที่ญี่ปุ่น

งานไทยเฟสติวัลครั้งที่ 11 ที่ญี่ปุ่น



คมชัดลึก :ผมได้มีโอกาสไปร่วมงานไทยเฟสติวัล ครั้งที่ 11 ที่ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 15-16 พฤษภาคมที่ผ่านมา งานนี้จัดขึ้นต่อเนื่องกันมาโดยสถานเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงโตเกียว และประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี จึงจัดต่อเนื่องมาถึง 11 ครั้งในปีนี้ และกลายเป็นว่าเป็นงานต่างชาติงานเดียวที่มีผู้คนเข้ามาร่วมมากมายและรอคอยงานนี้มาโดยตลอด






 ซึ่งผู้เข้าร่วมงานส่วนใหญ่ก็เป็นชาวญี่ปุ่น ประมาณกันว่ามาร่วมงานประมาณ 2 แสนคน ในช่วงเวลาแค่ 2 วัน และสถานที่จัดงานก็เป็นสวนสาธารณะยาโยกิ ซึ่งอยู่กลางกรุงโตเกียว และใกล้ย่านการค้าสำคัญคือย่านชิบูยา รวมทั้งเป็นวันหยุดเสาร์อาทิตย์ จึงมีผู้คนเบียดเสียดเข้ามาร่วมงานนี้จำนวนมากเหมือนเดินตลาดนัดจตุจักร
ในช่วงที่คนมากๆ สำหรับร้านค้าหลักในงานก็คืออาหาร ซึ่งมีประมาณครึ่งหนึ่ง ทั้งอาหารไทยสำเร็จรูป รวมไปถึงร้านเครื่องปรุง ผักสด และที่สำคัญคือผลไม้สดหลากหลายทั้งทุเรียน มังคุด กล้วย มะม่วงและมะพร้าวอ่อน ซึ่งกลายเป็นที่สนใจของชาวญี่ปุ่นอย่างมาก ร้านอาหารไทยเกือบทุกร้านจะเห็นว่ามีชาวญี่ปุ่นเข้าแถวรอซื้อเป็นแถวยาว โดยที่ราคาก็ค่อนข้างถูกสำหรับชาวญี่ปุ่น อย่างเช่นก๋วยเตี๋ยว ข้าวราดแกง และอื่นๆ เกือบทุกอย่างขายจานละประมาณ 500 เยนหรือคิดเป็นเงินไทยก็ประมาณ 170 บาท
 สำหรับผลไม้อย่างมะม่วงน้ำดอกไม้สีทองที่นำเข้าไปขายก็ตกประมาณลูกละ 400-500 เยน ซึ่งก็ขายดีมากเช่นกัน มังคุดก็มีขายโดยแบ่งเป็นถุงประมาณครึ่งกิโลกรัม ราคาก็ประมาณ 500 เยน ด้วยราคาที่จูงใจและถูกกว่าที่ขายกันนอกงาน จึงทำให้ผลไม้เหล่านี้ขายดี รวมไปถึงทุเรียนที่หลายคนอาจนึกไม่ถึงว่าชาวญี่ปุ่นชอบทดลองชิมและหาซื้อเหมือนกัน บางคนซื้อมะม่วงกันแบบยกกล่องซึ่งหนักหลายกิโลกรัม
 แต่ว่าระบบที่ญี่ปุ่นดีมากในเรื่องการอำนวยความสะดวก เพราะว่าจะมีบริษัทรับส่งของถึงหน้าบ้าน หมายความว่าเราเดินเลือกซื้อของได้อย่างสบายใจ แล้วก็นำมาส่งที่เต็นท์ของบริษัทรับส่งของเท่านั้นก็จบเรื่อง แล้วไปรอรับของที่บ้านได้เลย เหตุที่ต้องทำอย่างนี้เพราะว่าคนญี่ปุ่นส่วนใหญ่ใช้รถไฟเป็นพาหนะหลักในการเดินทาง ถึงแม้จะมีรถอยู่ที่บ้าน แต่หากขับออกมาในงานอย่างนี้ก็ไม่มีที่จอด การมีบริษัทรับส่งของถึงบ้านจึงกลายเป็นธุรกิจสำคัญอย่างหนึ่ง
ที่เล่ามาทั้งหมดนี้ เป็นเพียงบรรยากาศในงานไทยเฟสติวัล ซึ่งจริงๆ แล้วเป็นส่วนหนึ่งของการส่งเสริมการท่องเที่ยว และเป็นการผลักดันเรื่องอาหารไทยในต่างแดน เพื่อให้เรามีโอกาสขายวัตถุดิบที่ใช้ในการประกอบอาหาร และส่งเสริมเรื่องร้านอาหารไทยในต่างแดน เนื่องจากอาหารไทยเป็นที่รู้จักและนิยมในหลาย ๆ ชาติ จึงมีโอกาสทางการตลาดค่อนข้างมาก สิ่งที่ได้เห็นจากงานนี้คือความนิยมและสนใจในเรื่องอาหารไทยของชาวญี่ปุ่น ซึ่งออกมาในเชิงบวก รวมทั้งความเชื่อและความเข้าใจของคนญี่ปุ่นว่า ไทยคือครัวของญี่ปุ่น หมายความว่าหากเราจัดการได้ดี โอกาสที่เราจะครองตลาดอาหารของญี่ปุ่น ก็ไม่ใช่เรื่องไกลเกินความจริง แต่ว่าปัญหาที่เกิดขึ้นทุกวันนี้กลายเป็นว่าความต้องการของตลาดมีสูงมาก แต่ว่าความสามารถในการผลิตของดีที่ได้คุณภาพตามความต้องการของตลาด กลับไม่เพียงพอ
ทุกวันนี้เราคงได้ยินข่าวว่าผลิตผลต่าง ๆ ในประเทศเราล้นตลาด ราคาตกต่ำ แล้วทำไมไม่พยายามส่งออก ทั้ง ๆ ที่มีตลาดรอรับอยู่ คำตอบง่าย ๆ ก็คือของที่เหลือล้นตลาดอยู่นั้น คุณภาพไม่ได้มาตรฐานเพียงพอที่จะส่งออกไปขายต่างประเทศได้ครับ ไว้คราวหน้าผมจะมาเล่าให้ฟังต่อเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีของผลไม้ไทย ซึ่งเห็นได้ชัดว่าตลาดญี่ปุ่นต้องการมาก แต่ทำไมยังส่งออกได้น้อย คราวหน้ามาดูกันครับ!
 รศ.ดร.พีรเดช ทองอำไพ










NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

No comments:

Post a Comment

Blog Archive