Sunday, February 17, 2013

กรมป่าไม้ปรับบทบาทใหม่ อ้างไม่เน้นปราบปราม

กรมป่าไม้ปรับบทบาทใหม่ อ้างไม่เน้นปราบปราม
กรมป่าไม้ออกกฎใหม่บังคับใช้เลื่อยโซ่ยนต์พร้อมปรับบทบาทใหม่ไม่เน้นปราบปราม ชี้ชาวบ้านรุกป่าเพราะยากจนและไม่เข้าใจ ...วานนี้ (16 ก.พ.) นายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ อธิบดีกรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า ตามที่ กระทรวงทรัพยากรฯ ได้ออกกฎกระทรวงกำหนดลักษณะเลื่อยโซ่ยนต์ และส่วนประกอบของเลื่อยโซ่ยนต์ พ.ศ. 2555 และกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขการขออนุญาตและการออกใบอนุญาตให้มีการผลิต หรือการนำเข้าเลื่อยโซ่ยนต์ (ฉบับที่ 2 ) พ.ศ. 2555 ให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 28 ธ.ค. 2555 ที่ผ่านมา ดังนั้น เพื่อจะได้ดำเนินการให้บริการประชาชนอย่างทั่วถึง โดย ทสจ. ซึ่งรับมอบหมายจากนายทะเบียนเลื่อยโซ่ยนต์จะต้องรับแจ้งการมีผลิต หรือนำเข้าเลื่อยโซ่ยนต์ ขนาด 1-2 แรงม้า ความยาวแผ่นบังคับโซ่ 12 นิ้ว ภายใน 90 วัน และต้องทำหมายเลขบนเลื่อยโซ่ยนต์และใบเลื่อยโซ่ยนต์ที่อยู่ในครอบครองก่อน วันที่กระทรวงได้บังคับใช้ภายใน 180 วัน โดยจะสิ้นสุดภายในวันที่ 27 มี.ค.2556 ด้าน นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา ผอ.สำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า กรมป่าไม้ กล่าวว่า การบุกรุกทำลายป่าเป็นปัญหาที่กรมป่าไม้ให้ความสนใจและพยายามที่จะแก้ไข แต่ในอดีตจะเป็นการดำเนินการของหน่วยงานภาครัฐแต่เพียงฝ่ายเดียว จึงทำให้การแก้ไขปัญหาไม่สามารถบรรลุผลสำเร็จได้อย่างยั่งยืน การใช้วิธีการปราบปราม จับกุมผู้กระทำความผิด โดยใช้บทลงโทษทางกฎหมายแต่เพียงอย่างเดียวอาจมีผลเพียงแต่ชะลออัตราการสูญเสียทรัพยากรป่าไม้เท่านั้น แต่ไม่สามารถยับยั้งขบวนการตัดไม้ทำลายป่าและการบุกรุกได้ ดังนั้น ทิศทางการทำงานของกรมป่าไม้ นอกจากจะต้องทำหน้าที่ดูแลรักษาพื้นที่ป่าให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ที่สุด แล้วยังต้องบริหารจัดการป่าไม้ เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนด้วย“การบุกรุกทำลายป่าของประชาชน มีสาเหตุมาจากความยากจนและความไม่รู้ ดังนั้น หน่วยป้องกันรักษาป่า ต้องปรับเปลี่ยนบทบาทหน้าที่ใหม่ โดยการส่งเสริมสร้างความเข้าใจให้ชุมชนและประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการป้องกันรักษาป่า ด้วยความร่วมมือ ร่วมใจ และสร้างจิตสำนึกรักษ์ป่าด้วยความเต็มใจ และสมัครใจ ของประชาชนในท้องถิ่น จะเป็นเกราะป้องกันการบุกรุกทำลายป่าได้ดีกว่ากฎข้อบังคับใดๆ” นายรัชฎานางอำนวยพร ชลดำรงค์กุล ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านจัดการและควบคุมป่าไม้ กล่าวว่า จากการตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจพนักงานพิทักษ์ป่า ของหน่วยป้องกันรักษาป่า ที่ ชย.3 (ภูเขียว) จังหวัดชัยภูมิ พบว่า ในพื้นที่รับผิดชอบของหน่วยฯ นี้ มีจำนวนคดีน้อยที่สุด ส่วนของจังหวัดภาคเหนือซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวของประชาชน พบว่า หน่วยป้องกันรักษาป่า ที่ มส.1 (ม่วงต๊อบ) จ.แม่ฮ่องสอน ให้บริการประชาชนดีที่สุด.

No comments:

Post a Comment

Blog Archive