เผยคนไทยติดกินหวาน- ดื่มน้ำอัดลมเป็นประจำ
เอแบคโพลล์ เผยคนไทยติดกินหวาน ดื่มน้ำอัดลมเกือบทุกวัน บางคนมากกว่า 1 ขวดต่อวัน แถมพ่วงด้วยขนมขบเคี้ยว ไม่กลัวโรครุมเร้า พบหากมีการปรับขึ้นราคาเครื่องดื่ม มีผลทำให้การซื้อลดลง หนุนมาตรการโรงเรียนปลอดน้ำอัดลม...เมื่อวันที่ 8 ก.พ.2556 เครือข่ายเด็กไทยไม่กินหวานพบว่า คนไทยรับประทานน้ำตาลสูง กลุ่มเด็กและวัยรุ่นนิยมดื่มน้ำอัดลม น้ำหวาน น้ำผลไม้ แม้จะมีความรู้ว่าการกินหวานมากเกินไปนั้นทำให้เสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพ อาทิ โรคอ้วน ฟันผุ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง จึงร่วมกับ เอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ทำการสำรวจเด็กวัยเรียน และหนุ่มสาววัยทำงาน ในกรุงเทพมหานคร และ 4 จังหวัดหัวเมืองใหญ่ ได้แก่ เชียงใหม่ ขอนแก่น ชลบุรี และสงขลา รวมทั้งสิ้น 2,238 ตัวอย่าง โดยพบว่า ตัวอย่าง 2 ใน 3 ยังไม่ลดหรือควบคุมการกินหวาน เกือบ 1 ใน 4 ดื่มน้ำอัดลมเป็นประจำทุกวัน/เกือบทุกวัน บางรายยังดื่มมากกว่า 1 ขวด/กระป๋องต่อวัน และคนที่ดื่มน้ำอัดลมเกือบครึ่งหนึ่ง มักทานขนมขบเคี้ยวกรุบกรอบควบคู่ไปด้วยทุกครั้งหรือที่มีโอกาส เมื่อสอบถามความคิดเห็นต่อการลดปริมาณน้ำตาลในเครื่องดื่มลงจนถึงระดับหวานน้อย พบว่าไม่มีผลทำให้กลุ่มตัวอย่างดื่มเครื่องดื่มลดลง แต่เมื่อสอบถามถึงการขึ้นราคา พบว่าหากปรับขึ้นราคาน้ำอัดลม ชา กาแฟ จะมีผลต่อการตัดสินใจลดหรือเลิกดื่ม ยิ่งปรับราคามากขึ้น ยิ่งมีผลต่อการตัดสินใจลด หรือเลิกมากขึ้นตามลำดับ มาตรการด้านภาษีจึงอาจส่งผลต่อการควบคุมเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของน้ำตาล ส่วนด้านความคิดเห็นต่อมาตรการการห้ามจำหน่ายน้ำอัดลมในสถานศึกษา พบว่าตัวอย่างส่วนใหญ่สนับสนุนมาตรการดังกล่าวอย่างชัดเจน โดยเฉพาะการห้ามจำหน่ายในโรงเรียนอนุบาล ประถม และมัธยม ด้าน ทพญ.ปิยะดา ประเสริฐสม ผู้จัดการเครือข่ายเด็กไทยไม่กินหวาน กล่าวว่า การสำรวจครั้งนี้เพื่อสนับสนุนมาตรการโรงเรียนปลอดน้ำอัดลม และเครื่องดื่มรสหวานในสถานศึกษา ตามที่กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงศึกษาธิการได้กำหนดเป็นนโยบาย ส่วนมาตรการด้านภาษีและราคา แม้การศึกษานี้จะสอดคล้องกับการศึกษาในต่างประเทศ ที่พบว่าเป็นมาตรการที่ช่วยลดการบริโภคเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูงได้ หากแต่ในทางปฏิบัติยังคงต้องมีการประเมินความเป็นไปได้ในการดำเนินการในแง่มุมอื่นๆ เพิ่มเติม
Thursday, February 7, 2013
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
Blog Archive
-
▼
2013
(252)
- ► 04/21 - 04/28 (12)
- ► 04/14 - 04/21 (9)
- ► 04/07 - 04/14 (21)
- ► 03/31 - 04/07 (21)
- ► 03/24 - 03/31 (18)
- ► 03/10 - 03/17 (12)
- ► 03/03 - 03/10 (18)
- ► 02/24 - 03/03 (21)
- ► 02/17 - 02/24 (21)
- ► 02/10 - 02/17 (9)
-
▼
02/03 - 02/10
(27)
- โทษหลักสูตรเด็กไม่รู้วิธีแก้ท้องวัยเรียน
- อพวช.แหล่งเรียนรู้ของคนทุกเพศทุกวัย
- หมากกะโหล่งโปงลางของอาชีวะ
- สธ.รุกผลิตวัคซีน 4 โรคในเข็มเดียว
- #EANF#
- #EANF#
- เมืองใหญ่ใช้พลังงานกันอย่างฟุ่มเฟือย สร้างความเดือ...
- กินอาหารทอดกรอบเฉียดมะเร็งลูกหมาก ของหุงต้มด้วยควา...
- เผยคนไทยติดกินหวาน- ดื่มน้ำอัดลมเป็นประจำ
- กำชับสถานศึกษาคุมเข้ม ห่วง นร.ถูกหลอกเดินยา
- ช่วยหนูเส้นเลือดสมองแตกกลับฟ้ืนคืนดีใช้เซลล์ต้นกำเ...
- โทษรถเก๋งเป็นตัวการทำให้คนอ้วนยิ่งกว่านั่งรถเมล์-ข...
- 17มิ.ย.ยาเสียสาวห้ามขายในร้านยา
- วิกฤติการณ์ความขัดแย้งของอสช.
- เดินเท้าเขาหลวง สู่เมืองหลวงต้านยา
- ขรก.แชมป์ใช้สิทธิระบบฉุกเฉิน 49%
- หมอรีบปลุกให้รู้ตัว อย่าประมาทนอนกรน เป็นภัยต่อสุข...
- เดินช่วยยืดอายุผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ให้ยืนนานมากกว่าค...
- จี้แก้เกณฑ์ประเมินคุณภาพสถานศึกษา
- สตรีจะหน้าตาเหี่ยวแก่สุดสุดในวันพุธ เพราะเครียดจาก...
- หนุ่มสาวอยากถูกปลุกปั้นเป็นคนอารมณ์ดี ต้องหมั่นกิน...
- พงศ์เทพเผยสทศ.ถกแก้สอบโอเน็ตมั่ว
- หมื่นห้าเพิ่มเหลื่อมล้ำ!!
- สสจ.เตือนปชช.ระวังโรคท้องร่วง
- แม่ญิงพะเยาค้านย้ายขรก.ขี้เหงานอกใจเมีย แนะเพิ่มโท...
- จี้บูรณาการทุกฝ่ายสกัดแม่วัยใสเพิ่ม
- ลิงอุรังอุตังยุคดิิจิตอลกดไอแพดแข่งกับคน กลายเป็นข...
- ► 01/27 - 02/03 (18)
- ► 01/20 - 01/27 (21)
- ► 01/13 - 01/20 (12)
- ► 01/06 - 01/13 (12)
-
►
2012
(129)
- ► 12/30 - 01/06 (21)
- ► 12/23 - 12/30 (6)
- ► 12/16 - 12/23 (15)
- ► 12/09 - 12/16 (10)
- ► 12/02 - 12/09 (21)
- ► 11/25 - 12/02 (16)
- ► 11/18 - 11/25 (13)
- ► 11/11 - 11/18 (7)
- ► 11/04 - 11/11 (12)
- ► 10/28 - 11/04 (4)
- ► 10/21 - 10/28 (4)
-
►
2010
(475)
- ► 06/13 - 06/20 (16)
- ► 05/30 - 06/06 (5)
- ► 05/23 - 05/30 (25)
- ► 05/16 - 05/23 (44)
- ► 05/09 - 05/16 (55)
- ► 05/02 - 05/09 (15)
- ► 04/25 - 05/02 (25)
- ► 04/18 - 04/25 (19)
- ► 04/11 - 04/18 (25)
- ► 04/04 - 04/11 (80)
- ► 03/28 - 04/04 (40)
- ► 03/14 - 03/21 (126)
No comments:
Post a Comment