แรงงานปรับตัวกลับถิ่นเกิด
หลังจากมีการปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำขึ้นเป็นวันละ 300 บาท โดยมีผลบังคับใช้พร้อมกันทั่วประเทศเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2556 การปรับตัวครั้งนี้จะส่งผลกระทบอย่างไรบ้าง โดยเฉพาะธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือเอสเอ็มอี ที่หลายฝ่ายเป็นกังวลว่าจะปรับตัวอย่างไร และสามารถผ่านพ้นความเปลี่ยนแปลงนี้ได้หรือไม่ สุวัฒชัย อิษฎ์สกุลวงค์ กรรมการผู้จัดการบริษัท เดย์ เทรดดิ้ง จำกัด กิจการนำเข้าสินค้าด้านเคมีอาหาร และยางขนาดเอสเอ็มอี มีลูกจ้าง 7 คน ย่านบางขุนเทียน กทม. กล่าวว่า ไม่ได้รับผลกระทบจากการขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำครั้งนี้ เพราะจ่ายค่าจ้างประมาณวันละ 500-600 บาทอยู่แล้ว โดยงานบางอย่างจะจ้างเอาท์ซอร์สทำ เช่น การขนส่งสินค้า จะได้ไม่ต้องไปลงทุนซื้อรถยนต์ หรือจ้างคนเพิ่ม
แต่ที่อยากสะท้อนปัญหาไปถึงรัฐบาลคือ เรื่องค่าไฟฟ้าที่แพงขึ้น ผู้ประกอบการได้รับผลกระทบกันทั่วหน้า เป็นเรื่องปกติของธุรกิจ ที่หากเกิดความเสี่ยงหรือวิกฤติอะไรก็ตาม สิ่งแรกที่จะลดต้นทุนคือเลิกจ้างหรือลดคนงาน เพราะทำได้ง่ายที่สุด แต่ตอนนี้หลายกิจการใน กทม.และปริมณฑล กำลังประสบปัญหาขาดคนงาน เพราะลูกจ้างลาออกแล้วย้ายไปสมัครงานที่ต่างจังหวัด เนื่องจากได้ค่าจ้างวันละ 350 บาท แต่ถ้ากลับไปทำงาน ตจว.บ้านเกิด ได้ค่าจ้าง 300 บาท แถมค่าครองชีพถูกกว่าใน กทม.มาก
"หากมีธุรกิจที่ไปไม่ไหว คิดว่ามันเป็นเพราะตัวธุรกิจของเขาเองที่ไปไม่ไหวจริงๆ มากกว่า นอกจากนี้ก็เป็นพวกกิจการสิ่งทอ ตัดเย็บเสื้อผ้า และพวกกิจการต่อเนื่องประมงทะเล ซึ่งใช้แรงงานจำนวนมาก โดยเฉพาะสิ่งทอ และตัดเย็บที่ลูกค้าจากต่างประเทศมีทางเลือกมากมายทั้งในกัมพูชา เวียดนาม"
ด้าน คงศักดิ์ ธรานิศร กรรมการผู้จัดการโรงแรมพะเยานอร์ทเทิร์นเลค และนายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยว จ.พะเยา /รองประธานหอการค้าจังหวัดพะเยา กล่าวว่า ผู้ประกอบการในพะเยาต่างพยายามประคองตัวเองให้ผ่านพ้นปัญหานี้ไปให้ได้ โดยไม่ขึ้นราคาสินค้าและบริการ หากไม่ไหวจริงๆ ก็จะต้องเจรจากับลูกจ้าง เพราะพะเยาเป็นจังหวัดเล็กๆ ปริมาณงานของลูกจ้างในแต่ละวันไม่มากนัก เช่น กิจการโรงแรมทำงานเฉลี่ยวันละ 3-4 ชั่วโมงเท่านั้น หากไม่มีลูกค้าก็พักผ่อนไป แต่ถ้าลูกค้าเยอะก็ได้เงินเพิ่มพิเศษ หากใครรับไม่ได้ก็ให้สมัครใจลาออก และไม่มีการรับคนงานเพิ่ม
"หลังการปรับค่าจ้าง 300 บาท อาจมีการเลิกจ้างหรือปิดกิจการ ประกอบกับมีธุรกิจโรงแรมใหม่ๆ ผุดตัวขึ้นในพะเยาอีกหลายแห่ง ส่วนแบ่งการตลาดก็ต้องถูกแบ่งออกไป ลูกจ้างเองก็ต้องมีปริมาณงานเพิ่มขึ้น เพราะนายจ้างจะไม่รับคนงานเพิ่ม ที่สำคัญคือ ต้องมีทักษะเพิ่มขึ้น เพื่อให้เหมาะสมกับค่าจ้างที่ได้รับ แต่อยากฝากถึงรัฐบาลว่า ตอนนี้ค่าไฟแพงมาก เมื่อปีสองปีก่อนจ่ายค่าไฟเดือนละ 6-7 หมื่นบาท แต่ตอนนี้ปรับขึ้นมาเป็นเดือนละประมาณ 1 แสนบาท ทั้งที่การใช้ไฟเท่าเดิม นับเป็นต้นทุนการผลิตที่น่าเป็นห่วงมาก" คงศักดิ์กล่าว
อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน "เผดิมชัย สะสมทรัพย์" กลับมองว่า เวลานี้ยังเร็วเกินไปที่จะพูดถึงผลกระทบของการปรับขึ้นค่าจ้างเป็นวันละ 300 บาท ขอให้ผ่านไตรมาสแรกของปีนี้ไปก่อน โดยอ้างข้อมูลกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) ว่า สถานประกอบการที่เลิกจ้างในช่วงปรับค่าจ้างขั้นต่ำขึ้นนั้น มีสาเหตุจากประสบปัญหาขาดทุนสะสมมานาน และยอดการสั่งซื้อสินค้าจากต่างประเทศลดลงมากกว่า
ล่าสุดได้เชิญผู้บริหารทั้ง 5 หน่วยงานของกระทรวงแรงงานมาหารือเพื่อกำชับให้เฝ้าระวังและประเมินผลกระทบจากการปรับขึ้นค่าจ้าง รวมทั้งกำหนดแนวทางช่วยเหลือแรงงานให้สอดรับกับผลกระทบที่เกิดขึ้น และให้ทุกหน่วยงานรายงานผลกระทบที่เกิดขึ้นมายังกระทรวงแรงงานเป็นระยะ ก่อนหน้านี้รัฐบาลได้ออกมาตรการช่วยเหลือมาแล้ว 11 มาตรการ และกระทรวงการคลังเตรียมจะเสนอรัฐบาลให้ออกมาตรการช่วยเหลือภาคธุรกิจเพิ่มเติม โดยเน้นมาตรการภาษี เช่น การปรับลดภาษีหักเงินได้ ณ ที่จ่ายสำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี จากร้อยละ 3 เหลือร้อยละ 2 ของเงินค่าจ้าง
"เท่าที่ได้พูดคุยกัน พบว่า สถานประกอบการขนาดใหญ่ร้อยละ 80 กังวลเรื่องค่าวัตถุดิบ และยอดสั่งซื้อสินค้าจากต่างประเทศจะลดลง มากกว่าเรื่องการปรับขึ้นค่าจ้าง" นายเผดิมชัย กล่าว
นาทีนี้ ทุกฝ่ายคงจะต้องประเมินสถานการณ์ ผลกระทบจากการปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำที่เพิ่งเริ่มต้นขึ้นในต้นปีนี้อย่างใกล้ชิด เพราะเหรียญมีสองด้าน การปรับค่าจ้างขั้นต่ำขึ้นวันละ 300 บาททั่วประเทศก็เช่นกัน
Monday, January 14, 2013
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
Blog Archive
-
▼
2013
(252)
- ► 04/21 - 04/28 (12)
- ► 04/14 - 04/21 (9)
- ► 04/07 - 04/14 (21)
- ► 03/31 - 04/07 (21)
- ► 03/24 - 03/31 (18)
- ► 03/10 - 03/17 (12)
- ► 03/03 - 03/10 (18)
- ► 02/24 - 03/03 (21)
- ► 02/17 - 02/24 (21)
- ► 02/10 - 02/17 (9)
- ► 02/03 - 02/10 (27)
- ► 01/27 - 02/03 (18)
- ► 01/20 - 01/27 (21)
-
▼
01/13 - 01/20
(12)
- ข้าวโพดช่วยทานตะวันลดวัชพืช
- อันตราย!ยานอนหลับชนิดใหม่กินถึงตาย
- มทร.พระนครม.ชั้นนำแห่งโลกอาชีพ
- สธ.เล็งสั่งวัคซีนไข้หวัดใหญ่ปี56เร็วขึ้น
- เปิดม่านการศึกษา : 16 ม.ค.56
- สวัสดิภาพคุณภาพการศึกษาของขวัญครู
- เจ๊าะแจ๊ะวิทยาศาสตร์ : ทำไมเราแพ้ท้อง
- แรงงานปรับตัวกลับถิ่นเกิด
- เปิดม่านการศึกษา : 15 ม.ค.56
- มทร.ธัญบุรีเปิดบ้าน สร้างงานสู่สังคม
- แนะทำวิจัยร่วมกันเพื่อก้าวทันอาเซียน
- เจ๊าะแจ๊ะวิทยาศาสตร์ : ทำไมเราแพ้ท้อง
- ► 01/06 - 01/13 (12)
-
►
2012
(129)
- ► 12/30 - 01/06 (21)
- ► 12/23 - 12/30 (6)
- ► 12/16 - 12/23 (15)
- ► 12/09 - 12/16 (10)
- ► 12/02 - 12/09 (21)
- ► 11/25 - 12/02 (16)
- ► 11/18 - 11/25 (13)
- ► 11/11 - 11/18 (7)
- ► 11/04 - 11/11 (12)
- ► 10/28 - 11/04 (4)
- ► 10/21 - 10/28 (4)
-
►
2010
(475)
- ► 06/13 - 06/20 (16)
- ► 05/30 - 06/06 (5)
- ► 05/23 - 05/30 (25)
- ► 05/16 - 05/23 (44)
- ► 05/09 - 05/16 (55)
- ► 05/02 - 05/09 (15)
- ► 04/25 - 05/02 (25)
- ► 04/18 - 04/25 (19)
- ► 04/11 - 04/18 (25)
- ► 04/04 - 04/11 (80)
- ► 03/28 - 04/04 (40)
- ► 03/14 - 03/21 (126)
No comments:
Post a Comment