ชี้ไทยศูนย์กลางค้างาช้างพบ 53 คดี ของกลาง 1 หมื่นกิโลกรัม
องค์กรฐานข้อมูลการค้างาช้างและผลิตภัณฑ์จากช้างที่ผิดกฎหมาย จัดอันดับไทยและจีนเป็นศูนย์กลางค้างาช้าง กรมอุทยานฯ ประสานขอข้อมูลบุคคลผู้ถูกจับดำเนินคดีเพื่อเชื่อมโยงล้างขบวนการ...เมื่อเร็วๆ นี้ นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ์ รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เปิดเผยว่า องค์กรฐานข้อมูลการค้างาช้างและผลิตภัณฑ์จากช้างที่ผิดกฎหมาย (Elephant Trade Information System:ETIS) ภายใต้องค์กรเครือข่ายควบคุมการค้าสัตว์ป่า (TRAFFIC) ได้เผยแพร่ข้อมูลในที่ประชุมระดับนานาชาติว่า ประเทศไทยเป็นประเทศอันดับสูงสุดของโลกในเรื่องการเป็นศูนย์กลางการค้า และใช้ผลิตภัณฑ์จากงาช้างที่ผิดกฎหมาย ซึ่งมีเพียง 2 ประเทศในโลกคือจีนและไทย ทั้งนี้ การจัดอันดับขององค์กรฐานข้อมูลกรค้างาช้างฯ จะแบ่งกลุ่มประเทศต่างๆ โดยใช้สีเป็นสัญลักษณ์ สีเขียวคือประเทศผู้ส่งออก ได้แก่ เคนยา แทนซาเนีย และแอฟริกาใต้ สีน้ำเงินคือประเทศทางผ่านสินค้า ได้แก่ เวียดนาม มาเลเซีย ฮ่องกง และฟิลิปปินส์ ส่วนสีแดงคือประเทศที่เป็นศูนย์กลางการค้าและใช้ผลิตภัณฑ์งาช้าง คือไทยและจีน นายธีรภัทร กล่าวว่า ประเทศไทยได้รับการเตือนและจัดอันดับในลักษณะนี้มา 2 ปีแล้ว และเราก็ได้เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างเต็มที่ แต่ล่าสุดก็ยังมีการจัดอันดับประเทศไทยไว้อีก โดยทางองค์กรฐานข้อมูลการค้างาช้างฯ อ้างว่าใช้ข้อมูลจากสถิติการจับกุม และของกลางที่จับได้ในแต่ละประเทศเป็นตัวชี้วัด โดยประเทศไทยยังถูกมองว่าเป็นแหล่งนำเข้าและแปรรูปผลิตภัณฑ์งาช้างด้วย ซึ่งล่าสุดประเทศไทยสามารถจับกุมการลักลอบค้างาช้างผิดกฎหมายได้ 53 คดี จำนวนงาช้างของกลาง 1 หมื่นกิโลกรัม ขณะที่จีนจับได้กว่า 2,008 คดี งาช้างของกลางจำนวน 2.8 หมื่นกิโลกรัม รองอธิบดีกรมอุทยานฯ กล่าวต่อว่า การที่ปัญหาการค้างาช้างผิดกฎหมายไม่หมดไปนั้น เพราะความต้องการของประเทศปลายทางที่สำคัญคือประเทศจีนยังคงมีอยู่เพราะเป็นเรื่องของค่านิยมและความเชื่อ โดยจีนและญี่ปุ่นสามารถซื้อโควตาการนำเข้างาช้างจากประเทศในแอฟริกาได้ แม้ขณะนี้ประเทศในแอฟริกาไม่มีการอนุญาตให้ล่าช้างอย่างถูกกฎหมายแล้ว แต่ของกลางก็ยังมีอีกมาก และโควตาการนำเข้าก็ไม่พอกับความต้องการของประเทศปลายทางเหล่านี้ จึงมีการลักลอบล่าช้างเอางาเพื่อส่งออกมาขายยังประเทศปลายทางเหล่านี้อยู่เสมอและใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่าน“สำหรับแนวทางการแก้ปัญหาต่อไป เร็วๆ นี้เราจะประสานขอข้อมูลบุคคลที่ถูกจับกุมดำเนินคดีเกี่ยวกับการลักลอบค้างาช้างและสัตว์ป่าผิดกฎหมายในกลุ่มประเทศอาเซียน รวมทั้งประเทศจีน เพื่อเชื่อมโยงขบวนการเหล่านี้ให้ได้ ซึ่งที่ผ่านมาก็จะพบว่าขบวนการค้าสัตว์ผิดกฎหมายมีความเชื่อมโยงกับยาเสพติด โดยล่าสุดพบว่าขบวนการค้าสุนัขข้ามชาติเชื่อมโยงกับการค้าเฮโรอีนด้วย” นายธีรภัทร กล่าว.
Tuesday, December 11, 2012
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
Blog Archive
-
►
2013
(252)
- ► 04/21 - 04/28 (12)
- ► 04/14 - 04/21 (9)
- ► 04/07 - 04/14 (21)
- ► 03/31 - 04/07 (21)
- ► 03/24 - 03/31 (18)
- ► 03/10 - 03/17 (12)
- ► 03/03 - 03/10 (18)
- ► 02/24 - 03/03 (21)
- ► 02/17 - 02/24 (21)
- ► 02/10 - 02/17 (9)
- ► 02/03 - 02/10 (27)
- ► 01/27 - 02/03 (18)
- ► 01/20 - 01/27 (21)
- ► 01/13 - 01/20 (12)
- ► 01/06 - 01/13 (12)
-
▼
2012
(129)
- ► 12/30 - 01/06 (21)
- ► 12/23 - 12/30 (6)
- ► 12/16 - 12/23 (15)
-
▼
12/09 - 12/16
(10)
- ชงพงศ์เทพใช้อำนาจ ตั้งกรรมการสอบ ข้อร้องเรียน สกสค.
- พบสารตะกั่วในลิปสติกจำนวนครึ่งหนึ่ง เป็นพิษกับเชาว...
- ชี้ไทยศูนย์กลางค้างาช้างพบ 53 คดี ของกลาง 1 หมื่นก...
- วันหนึ่งคอมพิวเตอร์จะมาเป็นนายมนุษย์ พัฒนาระบบก้าว...
- ประดิษฐ์รถยนต์ปลอดเจ็บปลอดตาย คนขับง่วงหลับก็ยังกล...
- หยุดกิน-หยุดล่า...สัตว์ป่า
- สูบบุหรี่พ่นควันแกล้มกับการกินเหล้า เพิ่มพิษของการ...
- ดีเดย์เปิดลงทะเบียน แสวงบุญฮัจญ์ 2 ม.ค. 2556
- ยูนิเซฟเร่งช่วยเด็กได้รับผลกระทบจากการสู้รบในฉนวนกาซา
- กศน.ปรับเกณฑ์จบ ม.6 ใน 8 เดือน ชงเข้าครม.11 ธ.ค.
- ► 12/02 - 12/09 (21)
- ► 11/25 - 12/02 (16)
- ► 11/18 - 11/25 (13)
- ► 11/11 - 11/18 (7)
- ► 11/04 - 11/11 (12)
- ► 10/28 - 11/04 (4)
- ► 10/21 - 10/28 (4)
-
►
2010
(475)
- ► 06/13 - 06/20 (16)
- ► 05/30 - 06/06 (5)
- ► 05/23 - 05/30 (25)
- ► 05/16 - 05/23 (44)
- ► 05/09 - 05/16 (55)
- ► 05/02 - 05/09 (15)
- ► 04/25 - 05/02 (25)
- ► 04/18 - 04/25 (19)
- ► 04/11 - 04/18 (25)
- ► 04/04 - 04/11 (80)
- ► 03/28 - 04/04 (40)
- ► 03/14 - 03/21 (126)
No comments:
Post a Comment