Thursday, November 29, 2012

กมธ.เสนอลงแส้ เอาผิดละครแรง!

กมธ.เสนอลงแส้ เอาผิดละครแรง!
กมธ.พัฒนาสังคมฯ เสนอนายกฯ ให้จัดเวทีสัมมนาหรือเสวนาระดมความคิดและความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เพื่อกำกับดูแลละครโทรทัศน์และสื่อทางโทรทัศน์ เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อการลอกเลียนแบบในทางลบ อันเนื่องจากรณีละคร แรงเงา...ละครโทรทัศน์เรื่อง “แรงเงา” ที่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์เรื่องสะท้อนความรุนแรงจนเกินเลยและส่งผลกระทบต่อสถาบันครอบครัว ยังคงถูกหยิบยกมาพิจารณากันอีกครั้ง ในการประชุมคณะกรรมาธิการการพัฒนาสังคมและกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ด้อยโอกาส วุฒิสภา ที่ห้องประชุม 310 อาคารรัฐสภา 2 เมื่อวันที่ 29 พ.ย. เวลา 09.30 น. ทั้งนี้ นายอโณทัย ฤทธิปัญญาวงศ์ ประธานคณะกรรมาธิการฯ ได้เชิญตัวแทนจากกระทรวงวัฒนธรรมมาชี้แจงเรื่องการควบคุมละครโทรทัศน์และบทภาพยนตร์ เนื่องจากตัวแทน กสทช.มาชี้แจงก่อนหน้านี้ว่าเป็นหน้าที่ของกระทรวงวัฒนธรรม จึงได้มอบหมายให้นายอภินันท์ โปษยานนท์ รองปลัดกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมด้วยนายประสพ เรียงเงิน ผอ.สำนักเฝ้าระวังทางวัฒนธรรม นางลัดดา ตั้งสุภาชัย นักวิเคราะห์นโยบายและแผนเชี่ยวชาญ กระทรวงวัฒนธรรม มาร่วมชี้แจงนายอโณทัยเปิดเผยหลังการประชุมว่า ตัวแทนกระทรวงวัฒนธรรมได้มาชี้แจงว่า หน่วยงานของกระทรวงกำกับดูแลเรื่องบทภาพยนตร์และภาพยนตร์ที่ฉายในโรงภาพยนตร์ ส่วนโทรทัศน์เป็นหน้าที่ความรับผิดชอบของ กสทช. และ กบว. แต่ละช่อง ที่ผ่านมาเวลามีเนื้อหาและภาพในละครโทรทัศน์รุนแรงหรือเกินเลย สถานี กบว. และผู้จัดก็ออกมาขอโทษรับจะปรับปรุงแก้ไข แต่ก็มีการกระทำในลักษณะดังกล่าวอีก ละครก็มีการนำมาเผยแพร่และผลิตซ้ำอีก อย่างเรื่อง “แรงเงา” ทราบว่าหลังจากที่คณะกรรมาธิการฯ ติติงไป ผู้จัดก็ตัดฉากที่รุนแรงออกไปบ้าง แต่ตอนล่าสุดก็มีความรุนแรง ตัวละครใช้เข็มขัดฟาดทำร้ายลูกเมื่อรู้ว่ามีความเบี่ยงเบนทางเพศ และลูกก็ด่าพ่อสวนกลับว่า ยังดีกว่าพ่อไปสำส่อน เป็นภาพรุนแรงที่กระทำต่อเด็กและเด็กก้าวร้าวต่อบุพการี ส่งผลกระทบต่อสถาบันครอบครัวที่จะมีการเอาเป็นเยี่ยงอย่าง“ในสหรัฐอเมริกาห้ามมีฉากทำร้ายเด็กและสัตว์เลี้ยงทางโทรทัศน์ มีการลงโทษผู้จัดถึงขั้นห้ามประกอบอาชีพ แต่เมืองไทยสถานีและผู้จัดห่วงแต่เรื่องเรตติ้งที่จะทำรายได้ จนลืมนึกถึงผลกระทบต่อสังคม เสียค่าปรับไม่เท่าไร แต่ขยายละครออกไปอีกหลายตอนได้เงินจากโฆษณาเพิ่ม ที่ประชุมคณะกรรมาธิการฯหารือกันถึงเรื่องที่จะให้เจ้าของสัมปทานช่องโทรทัศน์อย่าง อสมท สถานีที่เผยแพร่ละครรุนแรง ผู้จัด ผู้กำกับและดาราที่แสดง ควรมาร่วมรับผิดชอบด้วย เพราะละครที่จัดสร้างมีเวลาที่จะตรวจสอบบท ฉากที่ถ่ายทำเสร็จแล้ว ตรวจสอบได้ว่าควรจะตัดต่อให้เหมาะสมอย่างไร กลับปล่อยให้มีการเผยแพร่ออกอากาศ จึงเห็นว่าผู้ที่รับผิดชอบในแต่ละส่วนขาดความรับผิดชอบต่อส่วนรวม ภาพที่ออกมาไม่ดีส่งผลสะท้อนต่อสังคมในทางลบ เนื่องจากปัจจุบันการจัดเรตติ้งก็ยังอยู่ในเวลาไม่เหมาะสม เด็กยังมาดูย้อนหลังทางโซเชี่ยลเน็ตเวิร์กได้โดยไม่มีข้อความระบุเรตติ้งกำกับ” นายอโณทัยกล่าว นายอโณทัยยังเปิดเผยอีกว่า จากปัญหาละคร “แรงเงา” ที่หยิบยกมาวิพากษ์วิจารณ์นี้ เพื่อเป็นตัวอย่างที่จะกระตุ้นให้สถานีโทรทัศน์และผู้จัดคำนึงถึงผลกระทบในด้านลบต่อสังคมและสถาบันครอบครัว น่าห่วงว่าความรุนแรงต่อเด็ก เยาวชนและสตรีอยู่ในขั้นวิกฤติ คณะกรรมการฯจึงมีมติให้ทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีให้จัดเวทีสัมมนาหรือเสวนาระดมความคิดและความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เพื่อกำกับดูแลละครโทรทัศน์และสื่อทางโทรทัศน์ เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อการลอกเลียนแบบในทางลบ นอกจากนี้ทราบว่า กสทช.กำลังจะประกาศเรื่องเรตติ้งใหม่ โดยจะเชิญผู้มีส่วนได้เสียมาระดมความคิดเห็นกัน ถึงผลกระทบด้านต่างๆ ก่อนประกาศใช้ จึงหวังว่าจะแก้ปัญหาได้อีกทาง.

No comments:

Post a Comment

Blog Archive