Sunday, February 10, 2013

ทุกนาทีมีค่าลดภาระพ่อแม่

ทุกนาทีมีค่าลดภาระพ่อแม่
               ชีวิตของการเป็นนักเรียน นักศึกษาเป็นช่วงเวลาแห่งความสนุกและมีความสุขมากที่สุด แตกต่างกับ สุรางค์รัตน์ เจนการ หรือ แบท นิสิตชั้นปีที่ 4 คณะวิทยาการสารสนเทศ (ไอที) เอกนิเทศศาสตร์ สาขาวารสารศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยมหาสารคาม (มมส.) ที่แม้เวลานี้จะเป็นช่วงเวลาของการฝึกประสบการณ์การทำงานแต่ก็ยังคงต้องทำงานพิเศษ ที่เรียกว่างานพาร์ทไทม์ (Part time) ควบคู่ไปด้วย คือ การนวดแผนไทย                 ซึ่ง "แบท" เล่าให้ฟังว่า ที่ต้องมาเพราะไม่อยากจะรบกวนเรื่องค่าใช้จ่ายกับพ่อและแม่ เลี้ยงดูเราเป็นอย่างดี และส่งเสียให้เราได้เรียนสูงๆมาจนถึงทุกวันนี้ ก็เลยตัดสินใจมาทำงานพิเศษเพื่อเป็นการช่วยเหลือตัวเองและแบ่งเบาภาระทางบ้าน แถมยังคลายเครียด เพราะที่ร้านจะมีเพื่อนๆ คอยพูดคุย คอยให้คำปรึกษาเวลาที่เครียดมาจากการฝึกงานเราก็จะมีเพื่อนๆ ที่ร้านคอยให้กำลังใจทำให้หายเครียดไปได้                 "การใช้ชีวิตในกรุงเทพฯ ต้องมีค่าใช้จ่ายเยอะ เดือนละ 5,000 บาทก็คงไม่พอ เพราะเราต้องเดินทางทุกวัน ใช้จ่ายอะไรต่างๆนานา แต่เมื่อเราได้มาทกับพ่อและแม่ เลี้ยงดูเราเป็นอย่างดี และส่งเสียให้เราได้เรียนสูงๆมาจนถึงทุกวันนี้ ก็เลยตัดสินใจมาทำงานพิเศษเพื่อเป็นการช่วยเหลือตัวเองและแบ่งเบาภาระทางบ้าน แถมยังคลายเครียด เพราะที่ร้านจะมีเพื่อนๆ คอยพูดคุย คอยให้คำปรึกษาเวลาที่เครียดมาจากการฝึกงานเราก็จะมีเพื่อนๆ ที่ร้านคอยให้กำลังใจทำให้หายเครียดไปได้  "การใช้ชีวิตในกรุงเทพฯ ต้องมีค่าใช้จ่ายเยอะ เดือนละ 5,000 บาทก็คงไม่พอ เพราะเราต้องเดินทางทุกวัน ใช้จ่ายอะไรต่างๆนานา แต่เมื่อเราได้มาทำงานตรงนี้จากที่ต้องขอเงินพ่อแม่เดือนละ 5,000 บาทก็ไม่ต้องขอ ใช้เงินที่ได้จากการทำงานแทน" แบท เล่า                 แบท ได้วิชา "นวด" มาจากน้าเป็นคนสอนวิชาให้และเริ่มเรียนรู้ และฝึกฝนมาเรื่อยๆ อาศัยเรียนรู้ และจำจากหมอนวดคนอื่นๆ แต่ก็ไม่ได้ถือว่าเก่ง หรือนวดรักษาได้ เพียงแค่นวดเพื่อผ่อนคลายเท่านั้น เริ่มต้นทำตั้งแต่ช่วงปิดเทอมที่ผ่านมา ซึ่งตอนแรกคิดว่าจะไปทำงานโรงงาน แต่น้าก็ได้ชักชวนให้มาลองนวด ถ้าไม่อยากทำก็ไม่เป็นไรแต่อย่างน้อยก็จะได้มีวิชาชีพติดตัวไป เป็นอาชีพที่มีมีอิสระ หากให้ไปทำอย่างอื่นอย่างเด็กเสิร์ฟหรืออะไรก็ตามที่ต้องเข้า-ออกงานเป็นเวลา ก็คงจะแบ่งเวลาลำบากเพราะต้องฝึกงานสื่อสารมวลชนไปด้วย                  "ก่อนหน้านี้ไม่เคยคิดที่อยากจะมานวด เพราะมองว่าอาชีพนี้เป็นอาชีพที่ไม่มีเกียรติ เป็นอาชีพที่หลายคนดูถูก แต่เมื่อได้มาเรียนรู้ ได้มาสัมผัสด้วยตัวเอง ก็พบว่ามันมีทั้งด้านดีและด้านไม่ดีทั้งนี้มันขึ้นอยู่กับตัวเราเอง อยู่ที่การวางตัวของเรา จากตอนแรกที่มองในแง่ลบ เมื่อได้มาเรียนรู้ก็เปลี่ยนทัศนคติ เปลี่ยนมุมมอง ที่สำคัญอาชีพนี้ถือเป็นอาชีพที่สุจริตที่ไม่ได้ไปเบียดเบียนใครและที่เราไม่ต้องรบกวนเงินจากทางบ้าน" แบท กล่าว                 แบท กล่าวต่อไปว่า การที่เด็กในวัยนี้จะเลือกมาทำงานในจุดนี้หรือไม่ มันก็ขึ้นอยู่กับมุมมองของแต่ละคน แต่คนที่เลือกมาทำงานพิเศษก็มีเป็นส่วนน้อย เพราะถ้าครอบครัวไม่ได้เจอกับจุดหักเหของชีวิตก็อาจจะไม่จำเป็นต้องทำงานพิเศษก็ได้ แต่ก็ขอให้รับผิดชอบการเรียน เพราะว่าพ่อกับแม่ส่งเสียให้เราเรียน เสียเงินไปมากก็อยากให้ตั้งใจเรียน เพื่ออนาคตของตัวเอง พ่อแม่จะได้ภูมิใจ และเป็นคนดีของสังคมก็เพียงพอแล้ว                 แม้จะต้องฝึกงานไปด้วยแต่ก็ไม่ได้ถือเป็นอุปสรรคต่อการทำงานพิเศษ เพราะแบทจะแบ่งเวลาจากการฝึกงาน และการเขียนข่าวมาทำงานพิเศษ ซึ่งจะเป็นช่วงเย็นหลังจากที่ฝึกงานเสร็จแล้ว หรือถ้ามีงานข่าวที่ต้องเขียนก็จะเขียนให้เสร็จเรียบร้อยก่อนจึงออกไปทำงาน แต่หากเป็นวันเสาร์-อาทิตย์ ที่ไม่มีงานก็จะมาทำงานพิเศษได้อย่างเต็มที่ ซึ่งแบทมองว่า แม้จะต้องทำทั้งสองอย่างไปพร้อมๆ กันแต่เธอก็ไม่ได้คิดว่าเป็นเรื่องที่อยากลำบาก เพราะหากเรารู้จักที่จะแบ่งเวลา และรู้จักจัดลำดับความสำคัญของแต่ละอย่างให้เป็น การทำงานพิเศษควบคู่กับการเรียน หรือการฝึกงาน ก็คงจะเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยที่เราทุกคนก็สามารถทำได้          ค่าแรงพาร์ทไทม์                   เดือนพฤศจิกายน 2555 คณะกรรมการการค่าจ้าง (บอร์ดค่าจ้าง) ได้มีมติเห็นชอบให้ปรับขึ้นอัตราค่าจ้างรายชั่วโมงสำหรับนักเรียน นิสิตและนักศึกษา จากเดิม 30 บาทต่อชั่วโมง เป็น 40 บาทต่อชั่วโมง และได้ออกเป็นประกาศคณะกรรมการค่าจ้างเรื่องอัตราค่าจ้างรายชั่วโมงสำหรับนักเรียน นิสิตและนักศึกษาฉบับที่ 2 โดยเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2556 ลักษณะงานพาร์ทไทม์เป็นงานที่มีความปลอดภัยและไม่เสี่ยงอันตราย ห้ามทำงานในสถานที่อันตราย สถานที่เล่นการพนัน สถานบันเทิงยามค่ำคืนที่มีการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสถานอาบน้ำ นวด หรืออบตัว และห้ามผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 15 ปีทำงานพาร์ทไทม์ ต้องแต่งกายด้วยเครื่องแบบที่แสดงให้เห็นชัดเจนว่าเป็นนักเรียน นักศึกษา หรือหากแต่งกายด้วยชุดที่สถานประกอบการจัดให้ ก็ต้องมีป้ายสัญลักษณ์ที่แสดงชัดเจนว่า เป็นนักเรียน นักศึกษา ให้นายจ้างประกันรายได้ด้วยการจ้างงานไม่ต่ำกว่าวันละ 4 ชั่วโมง จ้างงานนอกเวลาเรียนในช่วงเปิดภาคเรียน วันเรียนปกติไม่เกินวันละ 4 ชั่วโมง วันหยุดเรียน วันหยุดประจำสัปดาห์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ไม่เกินวันละ 6 ชั่วโมง ในช่วงปิดภาคเรียนไม่เกินวันละ 7 ชั่วโมง สัปดาห์ละไม่เกิน 36 ชั่วโมง   ....................................... (ฝึกงานไปด้วย-นวดไปด้วย ทุกนาทีมีค่าลดภาระพ่อ-แม่ : คอลัมน์ท่องโลกเรียนรู้ : โดย...นิรมล สถานเมือง)                 

No comments:

Post a Comment

Blog Archive